Ketogenic Diet หรือ คีโต คือวิถีการกินที่เน้นการกินคาร์โบไฮเดรตต่ำกว่า 50 กรัม หรือประมาณ 5% ของพลังงานทั้งวัน และมีการควบคุมสัดส่วนสารอาหารต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะ Ketosis หรือสภาวะที่ร่างกายนำไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทนกลูโคส เรียกอีกอย่างว่าเป็นการเปลี่ยนกลไกการใช้พลังงานของร่างกายจากน้ำตาลเป็นไขมันนั่นเอง การลดน้ำหนักแบบคีโต เป็นการลดน้ำหนักที่เห็นผลจริง สามารถลดไขมันได้จริง เพราะมีหลากหลายงานวิจัยออกมารับรอง แต่ผู้ที่จะลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ต้องมีวินัย มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และศึกษาข้อมูลมาอย่างถูกต้อง เพราะหากปฏิบัติผิดวิธีอาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายได้เลย
โดยปกติร่างกายของเราใช้กลูโคสจากคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเป็นพลังงานหลัก แต่เมื่อเรากินคาร์โบไฮเดรตลดลงเหลือแค่ 5% ร่างกายจะเปลี่ยนมาดึงไขมันซึ่งเป็นพลังงานสำรองมาใช้แทน กระบวนการนี้จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะ คีโตสิส (Ketosis) หรือภาวะที่ร่างกายสลายไขมันมาใช้แทนคาร์โบไฮเดรต เมื่อร่างกายขาดกลูโคส มีอินซูลิน (Insulin) หรือปริมาณน้ำตาลในร่างกายต่ำ ตับก็จะทำหน้าที่ผลิตคีโตน (Ketones) หรือสารที่เป็นกรดออกมาเพื่อสลายไขมันไปเป็นพลังงานให้กับร่างกายเป็นการทดแทน ตามปกติหากเรามีร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพดี ร่างกายจะสามารถปรับสมดุลกรดและด่างในร่างกายจากการปรับเปลี่ยนระบบเผาผลาญนี้ได้ แต่หากเป็นผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือป่วยเป็นโรคเบาหวาน จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง จนอาจส่งผลให้เกิดภาวะ Ketoacidosis ได้
คีโตเป็นการกินที่ปรับสัดส่วนคาร์บลดลง แต่เพิ่มไขมันเข้ามา เป็นกลไกที่ช่วยให้เราพัฒนาร่างกายได้ เพราะปกติถ้าเราปรับสารอาหารบางอย่าง จะทำให้เรามีการควบคุมการกินไปโดยปริยาย โอกาสที่เรากินแบบไม่มีระบบหรือกินแบบพลังงานสูงเกินไปจึงลดลง การออกกำลังกายและการฟิตร่างกายก็มีมากขึ้น
1. เหมาะกับคนที่เช็คสุขภาพ ปรึกษาแพทย์มาแล้ว
2. คนที่มีความรู้ด้านโภชนาการพื้นฐาน สามารถคำนวณสารอาหาร และหาข้อมูลเองเป็น
3. คนที่ไม่ได้ชอบกินแป้ง แต่ชอบกินไขมัน
4. คนที่อยากลดไขมันสะสม
1. มือใหม่ที่ไม่มีความรู้ด้านโภชนาการมาก่อน เพราะมีรายละเอียดด้านโภชนาการหลายข้อ
2. คนที่มีประวัติการกินผิดปกติ
3. คนที่มีปัญหาเบาหวาน หรือมีโรคประจำตัว
4. คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและไต
5. เด็ก วัยรุ่น ผู้สูงอายุ คนท้อง หรือผู้ที่ยังไม่ได้ตรวจสุขภาพ