Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

แนะนำ ท่าออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ทำได้ที่บ้าน

Posted By channi kang | 10 ก.พ. 68
47 Views

  Favorite

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแถมโรคโควิด19 ก็ยังไม่มีท่าทีจะหายไปจากโลกนี้ ทำให้หลายคนต้องหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายของเราให้แข็งแรงที่สุด ซึ่งการออกกำลังกายด้วยท่าง่าย ๆ ที่ทำได้ที่บ้าน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในเวลานี้ ไม่ต้องมีทักษะมาก่อน แค่ร่างกายของคุณพร้อมก็สามารถออกกำลังกายได้เลย

 

อยากฟิตแต่ไม่มีเวลาเข้ายิม ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างในการดำรงชีวิตของคนยุคนี้ ทั้งเวลา การเดินทาง แถมสภาพอากาศบางวันก็แย่ซะจนไม่อยากจะออกจากบ้านไปไหน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังมีทางเลือกที่หลากหลายในการออกกำลังกาย เพื่อให้เราได้ฟิตอยู่เสมอด้วย 10 ท่าออกกำลังกายง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน จะมีท่าอะไรบ้างมาดูกัน

1. ออกกำลังกายด้วยท่า Plank 

Plank เป็นท่าออกกำลังกายที่ทำแล้วได้ประโยชน์ไม่ใช่น้อย ช่วยให้ออกกำลังกายได้หลายส่วนไปพร้อมกัน ทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้อง สะโพก ต้นขา รวมทั้งกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core) เป็นหนึ่งท่าออกกำลังกายที่อยู่บ้านก็ทำได้เลย หากคุณทำท่า Plank ทุกวัน จะช่วยเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่ดีกว่าท่าออกกำลังกายบริหารหน้าท้องอื่น ๆ 

2. ออกกำลังกายด้วยท่า Side Plank

ท่า Side Plank เป็นท่าออกกำลังกายที่จะช่วยให้ผู้ที่ออกกำลังกายมีกล้ามเนื้อข้างลำตัวที่แข็งแรง ทั้งยังช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้ดี นอกจากนี้ใครที่อยากมีหุ่นสวย เอวเอส ต้องห้ามพลาดท่านี้เลย

3. ออกกำลังกายด้วยท่า Bodyweight Squat

ท่า Bodyweight Squat จะช่วยเน้นเรื่องกล้ามเนื้อกลุ่ม Quadriceps ส่วนเอ็นร้อยหวาย , ส่วนน่อง , ส่วนบั้นท้าย และส่วนท้อง ซึ่งการออกกำลังกายท่านี้จะช่วยให้คุณมีรูปร่างสัดส่วนที่ดีขึ้น บั้นท้ายมีรูปทรงมากขึ้น และหลังส่วนล่างแข็งแรงขึ้น

4. ออกกำลังกายด้วยท่า Side Lunge

ท่า Side Lunge เป็นท่าออกกำลังกายที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกและต้นขาแข็งแรงยิ่งขึ้น สำหรับนักวิ่งก็จะช่วยให้วิ่งได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกปวดเมื่อยต้นขา โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นท่าบริหารกล้ามเนื้อที่นักวิ่งส่วนใหญ่ใช้ออกกำลังกายกัน

5. ออกกำลังกายด้วยท่า Sit Up

ท่า Sit Up ทำได้ง่าย ๆ โดยการนอนราบไปกับพื้น งอเข่าขึ้น ปลายเท้าและส้นเท้าวางราบกับพื้น เอาแขนไขว้กันบนหน้าอกหรือประสานมือหลังศีรษะค่อย ๆ เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องแล้วแขม่วหน้าท้องเข้ามา ยกตัวขึ้นช้า ๆ ให้ส้นเท้าและปลายเท้าวางติดพื้น นับเป็น 1 ครั้ง โดยปล่อยลมหายใจตอนยกขึ้น และสูดเข้าตอนยกลง พยายามซิทอัพ และหายใจให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอกัน ท่านี้เหมาะมากสำหรับคนมีพุงที่อยากมีหน้าท้องแบนราบไว้ใส่เสื้อเอวลอยแบบคนอื่นเขา

6. ออกกำลังกายด้วยท่า Forward Lunge

ท่า Forward Lunge เป็นท่าออกกำลังกายที่บ้านแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ร่างกายแกนส่วนล่าง เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และแกนกลางลำตัว มีความแข็งแรงขึ้น รวมถึงทำให้บั้นท้ายของคุณมีรูปทรงที่สวยงามขึ้นด้วย 

7. ออกกำลังกายด้วยท่า Leg Raise

ท่า Leg Raise เป็นเป็นท่าออกกำลังกายที่เปรียบเสมือนตัวช่วยในด้านการบริหารกล้ามเนื้อ จะช่วยทำให้หน้าท้อง สะโพก ก้น และต้นขา ของคุณฟิตและเฟิร์มสุด ๆ ทั้งยังช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและกระชับมากขึ้นอีกด้วย

8. ออกกำลังกายด้วยท่า Push-ups

ท่า Push-ups หรือการวิดพื้น เป็นท่าที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อแขน และลำตัวช่วงบน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งท่าออกกำลังกายง่าย ๆ สามารถทำได้ที่บ้านได้เลย และท่านี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนบนได้เป็นอย่างดี

9. ออกกำลังกายด้วยท่าปั่นจักรยานอากาศ

ท่าปั่นจักรยานอากาศเป็นการออกกำลังกายของช่วงล่างทั้งหมด โดยนอนลงกับพื้นยกขาขึ้นมาทั้ง 2 ข้างลอยในอากาศจากนั้นให้ปั่นสลับขาทั้ง 2 ข้าง พยายามให้ศอกขวาเกือบชนเข่าซ้าย และศอกซ้ายเกือบชนเข่าขวาสลับกัน ท่านี้จะทำให้คุณได้ซิกแพคสวย ๆ พราะมันใช้การเกร็งกล้ามเนื้อท้องส่วนบนและส่วนล่าง กล้ามเนื้อขา เป็นหลัก

10. ออกกำลังกายด้วยท่ากระโดดตบ

ท่ากระโดดตบ เป็นท่าออกกำลังกายที่ได้ประโยชน์แทบทุกส่วนของร่างกายที่คุณสามารถทำที่ไหนก็ได้ เพราะการออกกำลังกายท่านี้จะช่วยเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่ เผาผลาญไขมัน ลดความตึงของกล้ามเนื้อของแกนร่างกาย เช่น สะโพก แขนขา หลัง ใบหน้า และช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายด้วย

 

เห็นมั้ยว่าการออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้าน ไม่จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์อะไรเยอะแยะ เพียงแค่ใช่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเราเป็นหลัก และทำแค่ไม่กี่ท่า วันละไม่เกิน 60 นาทีเท่านั้น คุณก็จะได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งการออกกำลังกายด้วยท่าง่าย ๆ ทั้ง 10 ท่านี้คงจะตอบโจทย์คนที่ชอบอยู่บ้านมากที่สุดแล้ว ลองทำตามดูรับรองว่าคุณจะมีสุขภาพและรูปร่างที่ดีได้ไม่ยาก 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • channi kang
  • 0 Followers
  • Follow