วรรณคดีอินเดียมีบทบาทสำคัญในการสร้างฐานทางวรรณกรรมของไทย โดยเฉพาะเรื่องราวจาก รามายณะ และ มหาภารตะ ซึ่งเป็นวรรณกรรมคลาสสิกที่มีอิทธิพลอย่างมาก ต่อเนื่องมาจนถึงวรรณคดีไทยในปัจจุบัน เรื่องราวจากทั้งสองมหากาพย์นี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานเขียนใหม่ ๆ และปรับใช้ในวรรณกรรมไทย เช่น การสร้าง รามเกียรติ์ ที่เป็นการดัดแปลงเรื่องราวของรามายณะให้เข้ากับบริบทและความเชื่อของไทย
การแปลวรรณคดีอินเดียเป็นกระบวนการที่สำคัญในการถ่ายทอดและรักษาคุณค่าของเนื้อหาให้สามารถเข้าถึงผู้อ่านในบริบทที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการแปล รามายณะ และ มหาภารตะ ที่มักจะถูกแปลและปรับปรุงให้เหมาะสมกับความเข้าใจของผู้อ่านไทย การแปลเหล่านี้ไม่เพียงแค่การแปลคำ แต่ยังรวมถึงการถ่ายทอดแนวคิดและคติธรรมที่มีความสำคัญต่อวรรณกรรมไทย การแปลวรรณคดีอินเดียจึงเป็นกระบวนการที่ต้องให้ความสำคัญกับความถูกต้องของเนื้อหาและการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้อ่านในบริบทใหม่
หลังจากการแปลวรรณคดีอินเดียมักจะถูกดัดแปลง และปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับลักษณะเฉพาะของวรรณกรรมไทย การดัดแปลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำให้เนื้อหามีความเหมาะสม แต่ยังเป็นการสร้างเอกลักษณ์และการปรับใช้ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย เช่น การแปลงรูปแบบของตัวละครและเหตุการณ์ให้สอดคล้องกับความเชื่อและประเพณีของไทย
การรักษาวรรณกรรมอินเดียและการนำมาปรับใช้ในวรรณคดีไทย เป็นการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างวรรณกรรมของสองประเทศ การสืบทอดและการศึกษาวรรณกรรมที่มีอิทธิพลนี้ ช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าใจและเรียนรู้ถึงรากฐานทางวรรณกรรมที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมของตนเอง การศึกษาเรื่องราวและการปรับปรุงงานเขียนตามแบบวรรณคดีอินเดีย ยังช่วยส่งเสริมการสร้างสรรค์และพัฒนาวรรณกรรมไทยในอนาคต