การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากโรคบางชนิดสามารถทำให้สุขภาพช่องปากแย่ลงได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกสูงกว่าผู้ที่ไม่มีโรคเบาหวาน นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคประจำตัวได้
1. การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ
แปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ แปรงฟันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 นาทีในแต่ละครั้งเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์และป้องกันการเกิดฟันผุ
2. การใช้ไหมขัดฟัน
ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวันเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารที่ติดอยู่ระหว่างซอกฟันและเหงือก
3. การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ และลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์บนฟัน
4. การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
เข้าพบทันตแพทย์อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม
5. การควบคุมโรคประจำตัว
การควบคุมโรคประจำตัวอย่างเคร่งครัด เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก
- ผู้ป่วยเบาหวาน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัด แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ และเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ
ผู้ป่วยโรคหัวใจควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาที่รับประทาน การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อในช่องปากที่อาจส่งผลต่อหัวใจ
- ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
หลีกเลี่ยงการใช้ยาชาในการรักษาทางทันตกรรมที่มีส่วนผสมของอะดรีนาลีน เนื่องจากอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น