พยาธิ หรือ ปรสิต คือ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายของมนุษย์และสัตว์ คอยแย่งอาหารหรือดูดเลือดและมักทำให้เกิดอันตรายต่อคนหรือสัตว์ตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกายที่มันอาศัยอยู่ ปรสิตที่มักทำให้เกิดโรคในมนุษย์หลักๆ ได้แก่
- โปรโตซัว (Protozoa) สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวขนาดเล็กที่จัดว่ามีความสำคัญมากในระบบนิเวศ อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม รวมทั้งบริเวณที่ชื้นแฉะ และยังพบว่าอาศัยอยู่ในร่างกายของสัตว์บกอีกหลายชนิด มีทั้งที่เป็นโทษและให้ประโยชน์
- หนอนพยาธิ (Helminths) สิ่งมีชีวิตที่อาติดมากับสัตว์ เช่น หมู วัว ปลา และสัตว์น้ำที่มีเปลือก
- ปรสิตภายนอกร่างกาย (Ectoparasites) เป็นปรสิตที่อาศัยและแพร่พันธุ์ตามผิวหนังภายนอก เช่น เหา เห็บ หมัด ไร โลน แมลงบางชนิด
พยาธิมีหลายชนิดแตกต่างกันไป และสามารถพบระยะต่างๆ ของพยาธิปะปนอยู่ในธรรมชาติ เช่น ดิน พื้นหญ้า ในน้ำ ในเนื้อสัตว์ต่างๆ พืชผัก น้ำดื่ม และในแมลงพาหะนำโรคหลายชนิด โดยทั่วไปพยาธิแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. พยาธิตัวกลม เช่น พยาธิเข็มหมุด พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน พยาธิแส้ม้า พยาธิตัวจี๊ด และพยาธิเส้นด้าย
พยาธิตัวกลม เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในลำไส้สุนัขหรือแมว ไข่พยาธิอยู่ได้เป็นเวลานานตามพื้นดิน ทราย สนามหญ้า และเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้จากทางปากหรือการสัมผัสสิ่งปนเปื้อน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อพยาธิได้
2. พยาธิตัวแบน เช่น พยาธิตัวตืด
พยาธิตัวแบน เป็นพยาธิที่พบได้ทั่วโลก ชนิดที่พบบ่อย คือ พยาธิตัวตืดหมูและพยาธิตืดวัว โดยพยาธิตืดวัวพบได้บ่อยกว่าพยาธิตืดหมู หากรับประทานเนื้อสัตว์ดิบๆ มีโอกาสที่จะเป็นโรคพยาธิตัวตืด
3. พยาธิใบไม้ เช่น พยาธิใบไม้ตับ
พยาธิใบไม้ เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายหนอนตัวแบนและยาว มีรูปร่างคล้ายใบไม้ หากรับเข้าสู่ร่างกายจะก่อให้เกิดโรค โดยโรคที่ส่วนใหญ่คุ้นเคยกันคือ โรคพยาธิใบไม้ในตับ เกิดจากการกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตับเพียงอย่างเดียว แต่อาจทำให้ติดเชื้อและเกิดโรคพยาธิใบไม้ที่ร่างกายส่วนอื่นด้วย
1. หิวบ่อยและรับทานอาหารมาก
2. น้ำหนักลด
3. ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย
4. เจ็บและบวมตามผิวหนัง
5. เจ็บหน้าอก
6. ไอเป็นเลือด
7. แพ้ มีผื่นคันหรือแนวแดงบนผิวหนัง มีตุ่มนูนขึ้นตามผิวหนัง
8. เป็นไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย
9. ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว
หากมีอาการผิดปกติข้างต้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และควรนำอุจจาระหรือเสมหะหรือสิ่งที่สงสัยว่าเป็นพยาธิใส่ภาชนะสะอาดไปด้วย ไม่ควรใช้ยาถ่ายพยาธิโดยไม่จำเป็น แต่ควรรับประทานยาถ่ายพยาธิให้ตรงกับชนิดของพยาธิที่อยู่ในร่างกาย ตามคำแนะนำของแพทย์
1. รับประทานอาหารปรุงสุก สะอาดถูกสุขลักษณะ
2. ดื่มน้ำสะอาด
3. เก็บอาหารในที่ปลอดภัยจากแมลงและสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค
4. ล้างผักและผลให้สะอาดก่อนรับประทาน
5. ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากเข้าห้องน้ำ หรือล้างมือบ่อยๆ
6. สวมรองเท้าทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
7. รักษาความสะอาดบริเวณบ้านอยู่เสมอ
8. ป้องกันตนเองจากการถูกแมลงที่เป็นพาหะกัด
แหล่งที่มาข้อมูล
CDC, Diagnosis of Parasitic Diseases, สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์: https://www.cdc.gov/
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน, สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับโรคพยาธิ, สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์: https://www.tropmedhospital.com/
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, ศ. ดร. นพ.เผด็จ สิริยะเสถียร, ถ่ายพยาธิทุกปีจำเป็นหรือไม่, สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์: https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/
POBPAD, พยาธิใบไม้ คืออะไร ป้องกันอย่างไรดี, สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์: https://www.pobpad.com/