การทำความสะอาดม้านี้ต้องทำเป็นประจำทุกวันเช่นเดียวกับคนที่ต้องทำความสะอาดตัวเอง การทำความสะอาดม้าอาจแบ่งได้ ดังนี้
๑. การกราดม้า
มีประโยชน์ทำให้ร่างกายม้าสะอาดป้องกันโรคผิวหนังและทำให้หนังมีความสมบูรณ์ การกราดนั้นต้องใช้กราดเหล็กกราดตามคอตามตัวเพื่อให้ขี้รังแคออกให้หมด การใช้กราดต้องคอยระมัดระวังอย่าให้ผิวหนังม้าถลอกเพราะฟันของกราดเป็นเหล็กม้าเป็นสัตว์ที่มีผิวหนังบางดังนั้นส่วนที่คอและท้องของม้าไม่ควรกราดด้วยกราดเหล็ก
๒. การแปรง
จับแปรงด้วยมือขวาและถือกราดเหล็กด้วยมือซ้ายเอาแปรงขนย้อนขนไปมาจนขี้รังแคติดที่แปรงแล้วนำแปรงมาถูกับกราด (การแปรงนี้กระทำภายหลังจากกราดแล้ว) ทำเช่นนี้ไปจนทั่วตัวม้า การยืนทำความสะอาด ผู้ที่ทำความสะอาดควรยืนเหนือลมหันหน้าม้าไปทางทิศทวนลม (ถ้าทำได้)
๓. การเช็ดตัวม้า
ภายหลังจากกราดและแปรงจนทั่วตัวม้าเรียบร้อยแล้วก็ทำความสะอาดเช็ดตัวม้าด้วยผ้าสะอาดที่บริเวณตา จมูก ปาก หู ตาม ใบหน้า และทั่ว ๆ ไปอีกครั้งหนึ่ง การทำความสะอาดม้าที่ออกกำลังมาใหม่ ๆ ควรใช้ฟางหรือหญ้าถูตามตัวให้ทั่วเพื่อให้เหงื่อที่จับตามตัวแห้งสนิทและเพื่อให้เลือดใต้ผิวหนังกระจายไป
๔. การนวดม้า
เป็นการนวดตามกล้ามเนื้อและตามข้อต่าง ๆ ที่เคลื่อนที่ไปมาโดยการนวดด้วยน้ำมันใช้สันมือถูนวดแรง ๆ (ระวังอย่าใช้น้ำมันที่ร้อนเกินไปถูนวดบริเวณผิวหนังที่บาง) การนวดนี้ควรนวดให้ทั่ว
๕. การอาบน้ำม้า
การอาบน้ำม้านี้ถ้าทำได้ควรอาบน้ำม้าสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง เพื่อจะได้ทำความสะอาดม้า ล้างฝุ่นและโคลนที่ติดตามตัวกราดแปรงไม่ออก ในการอาบน้ำม้านี้จะอาบด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นก็ได้แต่มีข้อระวังในการอาบน้ำม้า คือ
(๕.๑) ถ้าลงอาบน้ำในบ่อ สระ แม่น้ำ ลำคลอง ควรจะหาที่ให้ม้าลงอาบน้ำได้สะดวกเป็นที่ ๆ ตลิ่งไม่ชันและไกลจากสิ่งโสโครก
(๕.๒) ที่อาบน้ำม้าไม่ควรไกลจากโรงม้ามากเกินไปเพราะการเดินไปมาอาจทำให้ม้าร้อนมากและเป็นหวัดได้
(๕.๓) ในเวลาแดดร้อนจัดไม่ควรอาบน้ำม้า
(๕.๔) ม้าเป็นหวัดเป็นไข้ไม่ควรอาบน้ำ
(๕.๕) เมื่ออาบน้ำแล้วควรเช็ดตัวให้แห้งระวังอย่าให้ถูกลมจัดเกินไป
๖. การตัดขนม้า
มีประโยชน์สำหรับกราดและแปรงได้สะดวกขึ้นและดูสวยงาม การตัดขนนี้โดยทั่วไปมักตัดกันเมื่อขนยาวแต่ทางที่ดีแล้วการตัดขนม้านั้นควรตัดในฤดูหนาวเพราะว่าในฤดูหนาวเมื่อม้าออกกำลังแล้วเหงื่อม้าจะไม่ซึมออกมาข้างนอกเป็นรังแคง่ายทำให้การทำความสะอาดม้าเป็นไปด้วยความลำบากเพราะขนม้ายาว การตัดขนนี้ต้องตัดทั่วตัวม้าถ้าหากทำได้แล้วควรตัดขนม้าปีละ ๑ ครั้ง ในการตัดขนทุกครั้งควรตัดนอกโรงม้าเพราะขนม้าอาจปลิวไปเมื่อม้าตัวอื่น ๆ หายใจเข้าไปจะทำให้อวัยวะหายใจของม้าพิการได้
๗. การตัดแผงคอ ผมหน้า และซอยหาง
(๗.๑) การตัดแผงคอของม้านั้นโดยทั่วไปดูว่าม้าตัวนั้นมีแผงคอสวยหรือไม่ เจ้าของม้าบางคนไม่นิยมไว้แผงคอม้าอาจตัดออกก็ได้
(๗.๒) การตัดผมหน้าโดยธรรมดาทั่วไปผมหน้านั้นป้องกันแดดส่องกระหม่อมและตาแต่ถ้าหากว่าผมหน้ายาวและหนาเกินไปก็อาจตัดและซอยออกได้บ้างเพื่อความสวยงามและไม่ให้ผมหน้าเข้าตาม้าตลอดเวลาซึ่งมักทำให้ตาม้าเจ็บหรืออักเสบได้เสมอ ๆ
(๗.๓) การซอยหาง ขนหางม้ามีไว้สำหรับไล่แมลงแต่ถ้าหากว่ายาวเกินไปและหนาก็อาจตัดและซอยออกเพื่อความสวยงามก็ได้แต่ไม่ควรให้สั้นกว่าข้อน่องแหลมนอกจากนี้แล้วขนที่ควรตัด ได้แก่ เคราใต้คางม้าควรตัดให้หมด ขนที่ใต้ข้อน่องแหลม ไรกีบควรตกแต่งให้สวยงาม
๘. การตอกกีบ
เกือกม้าสำหรับม้าแข่งสำคัญมากไม่ว่าจะแข่งทางราบหรือแข่งกระโดด คล้าย ๆ กับนักวิ่งที่ใส่รองเท้าตะปูกับนักวิ่งเท้าเปล่า รองเท้าจะทำให้การเกาะจับพื้นดินดีขึ้นไม่ลื่นในการตอกเกือกม้านี้ต้องระวังเป็นพิเศษก่อนตอกดูการเดิน หลังการตอกก็ต้องดูการเดินของม้า ดูแนวตะปูเกือกสนิทหรือไม่ เอียงหรือตะแคงหรือไม่ ความสูงเท่ากันหรือไม่ นอกจากนี้แล้วจะต้องดูให้ปลายตะปูพับเรียบร้อยแนวเดียวกัน
๙. การบำรุงกีบม้า
การบำรุงกีบม้าเป็นสิ่งสำคัญมากถึงแม้ว่าม้าบางตัวกีบจะแข็งแต่ผู้เลี้ยงบำรุงมักจะไม่เข้าใจเรื่องการบำรุงรักษากีบ ฉะนั้นกีบม้าจึงเสียบ่อย ๆ วิธีบำรุงกีบม้าให้ปฏิบัติดังนี้ คือ
(๙.๑) เมื่อกลับจากซ้อมหรือแข่งแล้วต้องแคะเอาดิน โคลน เศษหิน ฯลฯ ที่ติดอยู่ในกีบออกให้หมด
(๙.๒) การล้างกีบถ้าใช้น้ำอุ่นได้ยิ่งดีถ้าใช้น้ำเย็นไม่ควรล้าง เวลาที่ม้ากลับจากซ้อมหรือแข่งใหม่ ๆ ควรรอให้ม้าพักประมาณ ๕ นาทีก่อนจึงล้างกีบ
(๙.๓) การที่จะให้ม้ากีบอ่อนเหนียวต้องให้ม้าได้ออกกำลังกายทุกวันและวิ่งในที่นุ่ม ๆ
(๙.๔) ห้ามขี่ม้าในที่แข็ง เช่น บนถนนไม่ควรวิ่งเร็วเกินไปและไม่ควรผ่านพื้นที่ที่มีก้อนหินโต ๆ
(๙.๕) ห้ามใช้สิ่งหนึ่งสิ่งใด เช่น ตะไบ กระดาษทราย ขัดถูที่ประทุนกีบหรือพื้นกีบม้าเพราะจะทำกีบเสียและทำให้กีบแห้งแตกร้าวแต่การใส่เกือกก็ตัดแต่งได้เล็กน้อย
(๙.๖) ม้าไม่ควรยืนบนพื้นแข็ง เช่น กระดานพื้นซีเมนต์นาน ๆ โดยไม่มีสิ่งปูรอง เช่น ฟางหรือหญ้า
(๙.๗) ถ้าม้ากีบแห้งควรทำให้กีบม้าอ่อนโดยใช้ดินเหนียวพอกหรือเอาผ้าชุบน้ำพันหรือให้ม้ายืนในที่แฉะ เช่น ในโคลนที่ไม่สกปรก
(๙.๘) ไม่ควรเอาน้ำมันอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นพิษร้อนหรือยางไม้ทา
(๙.๙) ต้องคอยระวังเปลี่ยนเกือกม้าให้เรียบร้อยตามกำหนดของเกือกหรือถ้าตะปูหลุด หลวมหรือคลอนก็จัดการแก้ไขทันที
(๙.๑๐) ถ้าม้าไม่ได้สวมเกือกนาน ๆ ควรได้ตัดแต่งกีบบ้างเพื่อให้กีบมีรูปร่างถูกต้องเสมอ
คอกม้าที่ขนาดเหมาะสมสำหรับการเลี้ยงม้า ๑ ตัว ต้องมีขนาดกว้าง ๑๐ ฟุต และยาว ๑๐ ฟุต ซึ่งเป็นขนาดที่เพียงพอให้ความสะดวกสบายในการนอน ลุกขึ้นยืนและต้องมีที่สำหรับให้อาหารด้วย นอกจากนี้จำเป็นต้องทำความสะอาดคอกม้าเป็นประจำ
ปริมาณและชนิดของอาหารที่จะให้แต่ละครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของม้าการใช้งานหรือใช้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามนอกจากจะให้อาหารหยาบจำพวกหญ้าสดหญ้าแห้งแล้วยังจำเป็นต้องให้อาหารเสริมชนิดอาหารผสมเป็นพิเศษอีกด้วยอาจให้ในปริมาณที่ไม่มากนักแต่อาจให้บ่อยครั้งในแต่ละวัน น้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีให้ม้าดื่มกินได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะการให้ม้ากินน้ำก่อนกินอาหารผสม