สีของขนม้าเป็นสิ่งที่สังเกตเพื่อให้รู้จักม้าแต่ละตัว ฉะนั้นการเรียกชื่อสีของม้าต่าง ๆ จึงเป็นการจำเป็นที่จะต้องเรียกให้ถูกตามแบบเดียวกันทั้งสิ้น ถ้าต่างคนต่างเรียกชื่อตามความเข้าใจของตนแล้วก็จะเป็นการผิดแปลกไปจะไม่เป็นที่เข้าใจได้ชัดเจน การตรวจสีของม้านี้ยากมากเพราะสีขนมีอยู่หลายอย่างหลายชนิดผิดกันเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ จนไม่สามารถจะเอาเป็นที่แน่ว่าผิดกันอย่างไรก็มี ขนม้าตัวเดียวกันอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ตามอายุของม้านั้น เช่น สีแซมนานเข้าก็กลายเป็นสีขาวได้หรือม้าดำกลายเป็นแซมไปก็มี ลูกม้าซึ่งเกิดใหม่ ๆ มักจะมีสีขนผิดกว่าขนธรรมดาและยาวกว่า ต่อเมื่ออายุได้ ๗-๘ เดือนแล้วจึงได้เปลี่ยนขนเป็นสีธรรมดา
สีธรรมดาแบ่งออกได้เป็น ๓ จำพวก คือ
๑. ขนสีล้วน
๒. ขนสีแซม
๓. ขนสีผ่าน
เป็นม้าที่มีสีขนคล้ายคลึงกันทั่วตัว มีผิดกันเล็กน้อยบางแห่งเท่านั้น เช่น บางตัวค่อนข้างดำบ้างขาวบ้างบางแห่งหรือมีรอยจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่สู้โตนักก็นับว่าเป็นม้าสีล้วนเหมือนกัน สีล้วนแบ่งออกเป็น ๗ ชนิด คือ
๑. สีขาว
๒. สีปลั่ง
๓. สีเหลือง
๔. สีจันทร์
๕. สีแดง
๖. สีน้ำตาล
๗. สีดำ
สีขาว แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ
(๑) ม้าสีขาวธรรมดา มีขนสีล้วน ผิวหนัง ใต้ขนดำ ตาดำ
(๒) ม้าสีขาวเผือก มีขนสีขาวเผือกหรือสีขาว ผิวหนังใต้ขนสีชมพู กีบเหลืองหรือขาว ลูกตาสีออกแดงคล้ายตากระต่ายขาว ม้าเผือกมักมีสีขาวมาแต่กำเนิด สีม้าขาวนั้นเมื่อยังเล็กอยู่มักจะมีสีอื่น แล้วภายหลังจึงเปลี่ยนจนเป็นขาวธรรมดา
สีปลั่ง คือ ขนสีออกแดงคล้ายสีน้ำหมากแต่อ่อน ม้าสีปลั่งแบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ
(๑) สีปลั่งแก่ คือ มีขนสีแดงมาก
(๒) สีปลั่งอ่อน มีสีคล้ายชมพู
สีเหลือง เป็นสีขาวเหลืองปนกันเหมือนทาขมิ้น สีเหลืองแบ่งออก เป็น ๓ ชนิด คือ
(๑) สีเหลืองอ่อน มีขนออกขาว ผิวหนังค่อนข้างขาว
(๒) สีนกขมิ้น มีขนเหลืองกว่าสีเหลืองอ่อน แต่มีหนังดำ กีบดำ
(๓) สีเหลืองธรรมดา คือ สีเหลืองแก่และบาง มีสีออกเทา ๆ ซึ่งเรียกว่า "มีสีลาน" เพราะมีสีคล้ายใบลานหรือใบตองแห้ง
สีจันทร์ เป็นม้าสีเหลือง ขนคอ และขนหาง สีเหลือง เมื่อถูกแดดมักจะมีเงาเหมือนทองแดง ม้าสีจันทร์แบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ
(๑) สีจันทร์อ่อน
(๒) สีทอง
(๓) สีทองแดง มีสีคล้ายสีแดงแต่ขนคอและขนหางไม่ดำ ม้าสีจันทร์มักจะมีบรรทัดหลังเหล็กบางทีมีสายบนหลังตามที่เข้าใจกันว่าต้นตระกูลของม้าจำพวกนี้คงจะสืบเนื่องมาจากม้าลาย
สีแดง เป็นสีเหลืองหรือสีแดง มีเงาเป็นมันแต่ขนที่คอและหางสีดำ ม้าสีแดงนั้นมีอยู่ ๓ ชนิด คือ
(๑) สีแดงอ่อน
(๒) สีแดงธรรมดา
(๓) สีประดู่ มีขนสีแดงเข้มและมีเงาเป็นวงกลมที่ก้น ข้อมักดำจัด
สีน้ำตาล มีอยู่ ๓ ชนิด คือ
(๑) สีน้ำตาลอ่อนมีสีเหลือง
(๒) สีน้ำตาลธรรมดาค่อนข้างจะมีสีแดง
(๓) สีน้ำตาลแก่มักจะมีขนดำแซมอยู่มาก
สีดำ มีอยู่ ๓ ชนิด
(๑) สีดำอ่อนมีสีออกเทา ๆ เรียกว่า "ม้าสวาท"
(๒) สีเขียว คือ ตัวมีสีดำแต่ข้างตัวหรือตามท้องมีสีแดงปน
(๓) สีดำธรรมดา คือ ดำหมดทั้งตัวถ้าดำจัดจนมีเงาเป็นมันเรียกว่า "ดำปีกกา" หรือสีนิล
คือ ม้าที่ขนขาวขึ้นปนกับขนสีอื่น ม้าสีแซมแบ่งตามสีขนที่ปนอยู่กับสีขาวออก เป็น ๓ จำพวก คือ
(๑) แซมดำ
(๒) แซมเหลือง
(๓) แซมแดง
แซมดำ มีอยู่ ๒ ชนิด คือ
(๑) แซมดำธรรมดา มีขนดำแซมทั่วทั้งตัวเสมอกัน
(๒) แซมมรกต คือ มีขนดำขึ้นแซมเป็นวงกลมเป็นหย่อม ๆ ทั่วทั้งตัว
แซมเหลือง มีขนสีเหลืองขึ้นแซมทั้งตัว
แซมแดง มีขนอยู่ ๒ ชนิด คือ
(๑) แซมแดงธรรมดามีขนแดงแซมทั่วทั้งตัวเสมอกัน
(๒) แซมเลือด มีขนแดงแซมเป็นจุด ๆ ขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพดและดูแล้วคล้ายรอยโลหิตหยด
ม้าสีผ่านต้องถือสีขาวเป็นพื้นเดิมแม้จะมีสีขาวน้อยกว่าสีอื่นก็ตาม ส่วนสีอื่นที่ผ่านต้องเรียกสีนั้นเป็นขนสีผ่านเสมอ เช่น ผ่านเหลือง ผ่านดำ ดังนี้เป็นต้น ม้าบางตัวผ่านจุดโตประมาณเท่าฝ่ามือ หรือเท่าฟองไข่ ม้าชนิดนี้เรียกว่า "ม้าสีตลก"
ม้าสีผ่านแบ่งออกเป็น ๔ ชนิด คือ
(๑) ผ่านดำ
(๒) ผ่านแดง
(๓) ผ่านเหลือง
(๔) ผ่านแซมดำ แดง และเหลือง