Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การเคลื่อนที่ของจุดซึ่งอยู่บนวงกลม

Posted By Plookpedia | 10 ก.ค. 60
2,458 Views

  Favorite

 

การเคลื่อนที่ของจุดซึ่งอยู่บนวงกลม

 

ถ้าเราทำเครื่องหมายไว้แห่งหนึ่งบนขอบนอกของล้อรถ เช่น ล้อรถจักรยาน เมื่อรถวิ่งไปบนพื้นราบ เราจะสังเกตเห็นว่าเครื่องหมายที่ทำไว้นั้น ก็จะเคลื่อนที่ไปด้วยเมื่อตรวจสอบทางเดินของเครื่องหมายที่ทำไว้จะเห็นว่า เป็นเส้นโค้งชนิดหนึ่ง ในทางคณิตศาสตร์เรียกเส้นโค้งนี้ว่า ไซคลอยด์ (cycloid) มีลักษณะคล้ายคลื่น ฉะนั้นไซคลอยด์ก็คือทางเดินของจุดๆ หนึ่งบนวงกลมที่กลิ้งไปบนเส้นตรง

 

 

 

ถ้าหงายเส้นโค้งไซคลอยด์ลง และ ให้ M เป็นจุดต่ำที่สุดของเส้นโค้งนี้ คุณสมบัติพิเศษของไซคลอยด์ก็คือ เมื่อเอาลูกบอลวางไว้ที่จุด P ซึ่งอยู่ที่ส่วนใดๆ ของเส้นโค้งนี้ก็ตาม เมื่อปล่อยลูกบอลให้กลิ้งลงมาตามเส้นโค้ง ลูกบอล จะมาถึงจุด M ในเวลาเท่ากันหมด

 

 

 

ท่านอาจจะลองคิดต่อไปว่า ถ้า P1 เป็นจุดๆ หนึ่งบนรัศมี OP เมื่อวงกลมกลิ้งไปบนเส้นตรงทางเดินของจุด P1 จะมีลักษณะอย่างไร ถ้า P2 เป็นจุดๆ หนึ่งบนรัศมี OP ที่ต่อออกไปทางเดินของจุด P2 จะเป็นอย่างไรเมื่อกลิ้งวงกลมไปบนเส้นตรง

 

 

 

ทดลองโดยเอาเหรียญบาทมาสองอัน วางเหรียญหนึ่งไว้ให้อยู่กับที่ทำเครื่องหมายไว้หนึ่งแห่งที่ขอบของเหรียญที่สองแล้วค่อยๆ กลิ้งเหรียญที่สองรอบเหรียญที่วางไว้อยู่กับที่จนรอบ ทางเดินของเครื่องหมายบนขอบเหรียญที่สอง จะเป็นเส้นโค้งมีลักษณะ (ดังรูป) ดูคล้ายกับรูปหัวใจ ทางคณิตศาสตร์เรียกเส้น โค้งชนิดนี้ว่า คาร์ดีออยด์ (cardioid) ซึ่งเป็นทางเดินของจุดๆ หนึ่งบนวงกลมที่กลิ้งรอบวงกลมที่อยู่กับที่อีกวงหนึ่ง

 

 

 

คราวนี้ลองให้วงกลมที่กลิ้งไปนั้น มีรัศมีน้อยกว่ารัศมีของวงกลมที่อยู่กับที่ จุดที่ทำเครื่องหมายบนวงกลมวงนอกจะอยู่บนวงกลมวงในมากกว่าหนึ่งแห่งทำให้ทางเดินเป็นส่วนโค้ง (arch) มากกว่าหนึ่งส่วน เช่น ถ้าวงกลมวงนอกมีรัศมี เท่ากับครึ่งหนึ่งของรัศมีของวงกลมวงใน จะได้เส้นโค้งเป็นส่วนโค้งสองส่วน ถ้าวงกลมวงนอกมีรัศมีเพียงเศษหนึ่งส่วน n ของรัศมีวงกลมวงใน ก็จะได้ส่วนโค้ง n ส่วนรอบวงกลมวงใน เราเรียกเส้นโค้งชนิดนี้ว่า เอพิไซคลอยด์ (Epicycloid) เส้นโค้งคาร์ดิออยด์เป็นกรณีเฉพาะของเส้นโค้งเอพิไซคลอยด์

 

 

 

ถ้าเอาวงกลมเล็กไปกลิ้งภายในวงกลมใหญ่ซึ่งอยู่กับที่ จุดที่อยู่บนวงกลมเล็กจุดหนึ่งก็จะขีดเส้นโค้งขึ้นภายในวงกลมใหญ่ เราเรียกทางเดินของจุดเช่นนี้ว่า ไฮโพไซคลอยด์ (Hypocycloid) จำนวนเส้นโค้งภายในวงกลมใหญ่จะมี n ส่วนโค้ง เมื่อวงกลมใหญ่มีรัศมีเป็น n เท่าของรัศมีวงกลมเล็ก

ท่านอาจจะลองเขียนเส้นโค้งไฮโพไซคลอยด์ เมื่อวงกลมใหญ่มีรัศมีเป็นสองเท่า และ สามเท่าของวงกลมเล็กดูบ้างว่าเส้นโค้งมีลักษณะอย่างไร การเขียนเส้นโค้งโดยใช้เส้นรังสี และ มุมเขียนวงกลมรัศมี 2 1/4  นิ้ว จากจุดศูนย์กลางเขียนเส้นรังสี 18 เส้นให้ทำมุมเท่ากับ 20 องศาเท่าๆ กันโดยใช้ไม้โพรแทรกเตอร์ (ไม้ที่มีสเกลแบ่งมุม) ให้ตัวเลขรังสีเริ่มจาก 0 ถึง 17 แล้วต่อไปเป็น 18, 19, 20,...ตามรูป กำหนดจุดบนเส้นรังสีเหล่านี้ จุดแรกบนรังสีที่หนึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลาง 1/8  นิ้ว จุดที่สองบนรังสีที่สองอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลาง 2/8  นิ้ว จุดที่สามบนรังสีที่สามอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลาง 3/8  นิ้ว ทำเช่นนี้ไปจนถึงรังสีที่ 18 จุดจะอยู่บนวงกลมพอดี ถ้าทำต่อไปโดยให้ความยาวของรังสีเพิ่มขึ้นครั้งละ 1/8  นิ้ว แล้วโยงจุดเหล่านี้เข้าด้วยกัน จะได้เส้นโค้งเป็น รูปก้นหอย (spiral)

 

 

 

จุดต่างๆ บนเส้นโค้งก้นหอยสร้างจากหลักเกณฑ์ "ความยาวของรังสี OP เป็นปฏิภาคโดยตรงกับขนาดของมุมที่ OP ทำกับเส้น OX" เขียนเป็นสมการดังนี้ 

 

 

 

เมื่อ a เป็นค่าคงที่ เราเรียกเส้นโค้งแบบนี้ว่า เส้นโค้งก้นหอยแบบอาร์คีมีดีส (Spiral of Archimedes)
ถ้าลองกลับไปดูความยาวของเส้นรังสีที่วัดจากจุดศูนย์กลางไปยังจุดบน เส้นโค้งก้นหอยแบบอาร์คีมีดีส จะเห็นว่าความยาวจะเพิ่มขึ้นเป็นความก้าวหน้า เลขคณิต ดังนี้ 

 

 

 

เราอาจจะสร้างเส้นโค้งก้นหอยอีกแบบหนึ่ง ให้ความยาวของรังสีค่อยๆ เพิ่มขึ้นแบบความก้าวหน้าเรขาคณิตก็ได้เมื่อมุมของรังสีเท่ากันหมดที่จุดศูนย์ กลาง เส้นโค้งก้นหอยที่น่าสนใจแบบหนึ่งมีความยาวของรังสีที่อยู่ห่างกัน 12 พจน์ เป็น 2 เท่ากัน กล่าวคือ ถ้าความยาวของรังสีเรียงตามลำดับแบบความก้าวหน้า เรขาคณิต 

r, r^2, r^3,...r^n,... 

เมื่อแทนรังสีที่ n ด้วย rn ดังนั้น rn = r^n จะได้ 

rn + 12 = 2rn หรือ r^n+12 = 2r^n


ดังนั้น

 r^12 = 2 หรือ r = 1.0595 

แบ่งมุมรอบจุด O ออกเป็น 24 ส่วนเท่าๆ กันโดยเส้นรังสี Oa, Ob, Oc, B, C,...บนเส้นรังสี Oa, Ob, Oc,...ดังต่อไปนี้

 

 

จุด A อยู่บน Oa ให้ OA = 1.00 หน่วย 
     B    "     Ob  "   OB = 1.06 " 
     C    "     Oc  "   OC = 1.12 " 
     D    "    Od   "  OD = 1.19 " 
     E    "    Oe   "  OE = 1.26 "  
     F    "    Of    "  OF = 1.33 " 
     G   "    Og   " OG = 1.41 " 
     H   "    Oh   " OH = 1.50 " 
      I    "    Oi    " OI = 1.59 " 
     J " Oj " OJ = 1.68 " 
     K " Ok " OK = 1.78 " 
     L " Ol " OL = 1.89 " 
    M " Om " OM = 2.00 " 
    N " On " ON = 2.12 " 
    P " Op " OP = 2.24 " 
    Q " Oq " OQ = 2.38 " 
    R " Or " OR = 2.52 " 
    S " Os " OS = 2.66 " 
    T " Ot " OT = 2.83 "
    U " Ou " OU = 3.00 " 
    V " Ov " OV = 3.17 " 
    W " Ow " OW = 3.36 " 
    X " Ox " OX = 3.56 " 
    Y " Oy " OY = 3.77 " 
    A' " Oa " OA' = 4.00 " 
    B' " Ob " OB' = 4.24 " 
    C' " Oc " OC' = 4.49 " 

จากการสังเกตจะเห็นว่า 
OA' = 4 OA 
OB' = 4 OB 
OC' = 4 OC 
................... 
OA" = 4 OA' = 16 OA 
OB" = 4 OB' = 16 OB 
OC" = 4 OC' = 16 OC

 

เส้นโค้งก้นหอยแบบนี้มีคุณสมบัติพิเศษประการหนึ่งคือ เส้นรังสี และ เส้นสัมผัสกับเส้นโค้งจะทำมุมเท่ากันหมดตลอดทุกจุดบนเส้นโค้ง นักคณิตศาสตร์เรียก เส้นโค้งแบบนี้ว่า เส้นโค้งก้นหอยแบบมีมุมเท่ากัน (equiangular spiral) หรือเรียกว่า เส้นโค้งก้นหอยแบบลอการิทึม (logarithmic sprial) และ มีสมการทางคณิต ศาสตร์ ดังนี้ 

 

 

 

ท่านอาจจะเขียนเส้นโค้งแบบก้นหอยแบบมีมุมเท่ากัน โดยใช้ไม้บรรทัด และ วงเวียนเท่านั้นก็ได้ โดยดำเนินการตามลำดับดังนี้ 

  1. สร้างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก ข ค ง ให้ด้าน ก ข ยาว 13 เซนติเมตร ด้าน ข ค ยาว 21 เซนติเมตร
  2. สร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส จ ฉ ค ง ยาวด้านละ 13 เซนติเมตร อยู่ ในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก ข ค ง
  3. ใช้จุด ฉ เป็นจุดศูนย์กลาง รัศมี ฉ ค 13 เซนติเมตร เขียนส่วนโค้ง ของวงกลมจากจุด ค ไปยังจุด จ
  4. สร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก ช ซ จ ยาวด้านละ 8 เซนติเมตร จากรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ก ข ฉ จ 
  5. ใช้จุด ซ เป็นจุดศูนย์กลางรัศมี จ ซ เขียนส่วนโค้งของวงกลมจากจุด จ ไปยังจุด ช
  6. สร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ช ข ต ด ยาวด้านละ 5 เซนติเมตร จากรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ช ข ฉ ซ
  7. ใช้จุด ด เป็นจุดศูนย์กลางรัศมี ด ช เขียนส่วนโค้งของวงกลมจากจุด ช ไปยังจุด ต
  8. สร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ต ฉ ท ถ ยาวด้านละ 3 เซนติเมตร จากรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ต ฉ ซ ด
  9. ใช้จุด ถ เป็นจุดศูนย์กลาง รัศมี ถ ต เขียนส่วนโค้งของวงกลมจาก จุด ต ไปยังจุด ท
  10. สร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ท ซ ธ น ยาวด้านละ 2 เซนติเมตร จากรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ท ซ ด ถ
  11. ใช้จุด น เป็นจุดศูนย์กลาง รัศมี น ท เขียนส่วนโค้งของวงกลมจาก จุด ท ไปยังจุด ธ
  12. สร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด บ ป ธ ยาวด้านละ 1 เซนติเมตร จากรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ด ถ น ธ (ในขั้นนี้จะเหลือรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส บ ถ น ป ยาวด้านละ 1 เซนติเมตร เป็นรูปสุดท้าย)
  13. ใช้จุด ป เป็นจุดศูนย์กลาง รัศมี ป ธ เขียนส่วนโค้งของวงกลมจาก จุด ธ ไปยังจุด บ

ส่วนโค้งของวงกลมที่เริ่มต้นจากจุด ค ไปจนถึงจุด บ จะเป็นเส้นโค้งก้น หอยแบบมีมุมเท่ากัน

จากวิธีการนี้จะเห็นได้ว่าเรามีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่มีความยาวของแต่ละ ด้านเรียงกันดังนี้ 

1, 1, 2, 3, 5, 8, 13,... 

แต่ละพจน์ของอันดับนี้ ได้จากผลบวกของสองพจน์ ซึ่งอยู่ข้างหน้าติด กับพจน์นั้นมาบวกกัน เช่น 

2 = 1+1, 3 = 1+2, 5 = 2+3, 8 = 3+5, 13 = 5+8, 21 =8+13 

โดยหลักเกณฑ์นี้ เราก็จะเขียนพจน์ต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด นักคณิต ศาสตร์เรียกจำนวนที่เรียงกันไปตามกฎเกณฑ์เช่นนี้ว่า อันดับฟิโบนักชี (Fibonacci sequence) ของจำนวน จากความรู้ที่ได้นี้ ท่านจะเขียนเส้นโค้งก้นหอยให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยสร้างจัตุรัส ที่มีความยาวของแต่ละด้านเป็นเลขในอันดับฟิโบนักชีต่อไปได้เรื่อยๆ

 

 

ในธรรมชาติ เราอาจจะสังเกตเห็นลวดลายของหอยหลายชนิด ลวดลายของดอกไม้บางประเภท และ ลวดลายของตาสับปะรด เป็นต้น มีลักษณะคล้ายกับเส้นโค้งก้นหอยสองชุดตัดกัน

 

 

กระดาษกราฟที่จะใช้สำหรับวิธีที่จะกล่าวนี้มีลักษณะเป็นวงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกันหลายๆ วง และ เส้นรังสีที่ออกจากจุดศูนย์กลางทำมุมขนาดต่างๆ กัน เราเรียกกระดาษกราฟแบบนี้ว่า กระดาษกราฟโพลาร์ (Polar graph)

 

 

 

วิธีเขียนเส้นโค้งโดยวัดความยาวของรังสีจากจุดคงที่จุดหนึ่ง และ มุมที่รังสีกระทำเส้นตรงคงที่เส้นหนึ่งนี้ เป็นวิธีที่นักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้ว่า ทางเดินของดวงดาวต่างๆ ตลอดจนทางเดินของดาวบริวารที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น จะมีลักษณะเป็นเส้นโค้งแบบไหน และ สามารถบอกตำแหน่งได้ทุกเวลาด้วย 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow