กระแสการดื่มน้ำมะเขือเทศกำลังมาแรง ด้วยสรรพคุณของมะเขือเทศผลสีแดงสด ที่หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่ามีสารอาหารสำคัญ ๆ มากมาย โดยเฉพาะข้อมูลที่บอกต่อกันว่าทานมะเขือเทศแล้วผิวสวยใส เลยยิ่งทำให้คุณผู้หญิงดื่มน้ำมะเขือเทศกันเป็นประจำ แต่ทราบไหมคะว่า มะเขือเทศมีดีกว่าแค่เรื่องการบำรุงผิว
ภาพ : ลิขสิทธิ์ Shutterstock
จากข้อมูลทางโภชนาการของมะเขือเทศ 100 กรัม ตามที่เว็บไซต์ usda.gov ของกระทรวงเกษตรฯ สหรัฐฯ ระบุไว้ในมะเขือเทศประกอบไปด้วย
* พลังงาน 18 กิโลแคลอรี
* น้ำ 94.34 กรัม
* โปรตีน 0.95 กรัม
* ไขมัน 0.11 กรัม
* คาร์โบไฮเดรต 4.01 กรัม
* ไฟเบอร์ 0.7 กรัม
* น้ำตาล 2.49 กรัม
* แคลเซียม 11 มิลลิกรัม
* ธาตุเหล็ก 0.68 มิลลิกรัม
* แมกนีเซียม 9 มิลลิกรัม
* ฟอสฟอรัส 28 มิลลิกรัม
* โพแทสเซียม 218 มิลลิกรัม
* โซเดียม 11 มิลลิกรัม
* สังกะสี 0.14 มิลลิกรัม
* วิตามินซี 22.8 มิลลิกรัม
* โฟเลต 13 µg
* วิตามินเอ 489 IU
* วิตามินอี 0.56 มิลลิกรัม
* วิตามินเค 2.6 µg
* ลูทีน และซีแซนทีน 123 µg
นอกจากนี้ยังมีเบต้าแคโรทีน ไลโคปีน วิตามินอีกหลายชนิด
สารไลโคปีนเป็นสารอีกตัวในกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบในผักผลไม้ที่มีสีส้มสีแดง อย่างเช่น แตงโม มะละกอ แครอท ฟักข้าว เกรปฟรุต ถือเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ชั้นยอด โดยจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ในมะเขือเทศสด 100 กรัม จะมีปริมาณไลโคปีนประมาณ 0.9 –9.30 มิลลิกรัม
ภาพ : ลิขสิทธิ์ Shutterstock
มีงานวิจัยมากมายให้คำยืนยันถึงสรรพคุณชั้นเลิศของพืชสีแดงชนิดนี้ อย่างเช่น
+ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ข้อนี้ถือเป็นสรรพคุณเด่นมากของพืชสีแดงชนิดนี้เลย
+ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ เพราะมะเขือเทศมีไฟเบอร์และน้ำมาก จึงช่วยดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นไปอย่างปกติ
+ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับอ่อน
+ ชะลอความแก่ ริ้วรอยแห่งวัย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
+ บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น
+ ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลไม่ดีที่อยู่ในผนังหลอดเลือด จึงลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
+ บำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอสูง
+ รักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
+ ควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด
+ เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน เพราะมีวิตามินเคสูง
+ ช่วยลดอาการบวมน้ำในร่างกาย เพราะมะเขือเทศจะช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในเซลล์และเนื้อเยื่อ
+ ช่วยทำความสะอาดคอเลสเตอรอลไม่ดีที่อยู่ในผนังหลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอลไม่ดีในกระแสเลือด
+ ทานเป็นประจำทุกวันช่วยลดความเครียดได้
+ บำรุงผมให้เงางาม แข็งแรง ดูมีสุขภาพดี
เพียงดื่มน้ำมะเขือเทศสดวันละแก้วจะได้รับแคลเซียมเท่ากับผลิตภัณฑ์จากนม โดยเฉพาะหญิงสูงวัย ควรดื่มน้ำมะเขือเทศคั้นสด 2 แก้วต่อวัน ในระยะเวลา 4 เดือนขึ้นไป จะช่วยลดอัตราการเป็นโรคกระดูกพรุนได้
ภาพ : ลิขสิทธิ์ Shutterstock
อ.แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการบำบัดและผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ก็มีคำแนะนำมาบอกว่า การจะดื่มน้ำมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น ทำได้ 2 แบบคือ
- ดื่มก่อนอาหาร คือตอนท้องว่าง โดยหยดน้ำมันลงในน้ำมะเขือเทศเพื่อช่วยในการดูดซึมของร่างกาย
- ดื่มหลังอาหาร หลังจากทานอาหารก็สามารถดื่มน้ำมะเขือเทศตามได้ทันที โดยไขมันในอาหารที่กินเข้าไปจะช่วยในการดูดซึมไลโคปีนได้ดีมากขึ้น
อย่างที่เห็นว่ามะเขือเทศ 1 ผล ให้พลังงานน้อยมาก และมีน้ำตาลน้อยอยู่แล้ว หากนำมาคั้นแล้วไม่เติมน้ำตาลลงไป คนอ้วน หรือคนที่อยากลดน้ำหนักก็สามารถดื่มได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวอ้วนเลย ส่วนคนป่วยโรคเบาหวานก็สามารถดื่มได้เช่นกัน
แต่ที่ต้องระวังคือ ผู้ป่วย "โรคไต" เพราะข้อมูลโภชนาการเห็นแล้วว่า มะเขือเทศมี "โพแทสเซียม" สูงมาก จึงไม่เหมาะกับคนป่วยโรคไต หรือผู้ที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง เพราะร่างกายอาจขับโพแทสเซียมออกไม่หมด
นอกจากนี้ คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน ไม่ควรทานมะเขือเทศมากเกินไป เพราะมะเขือเทศมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งถ้าทานมากอาจทำให้เกิดอาการได้.