5,941 views
Favorite
เตรียมอุดมศึกษา เป็นหนึ่งในโรงเรียนมัธยมชั้นนำของประเทศไทย ที่ใครหลายคนอยากเรียน และมีการสอบแข่งขันสูงมาก ใครที่สนใจที่จะสอบเข้าอยู่ มาศึกษาประสบการณ์ดี ๆ ในการอ่านหนังสือ จากรีวิวของรุ่นพี่เตรียมอุดมกันเลย
สวัสดีครับ พี่ชื่อนายกฤษฏิ์ชนก มีลาภ ชื่อเล่นกองบิน อายุ 17 ปี แผนการเรียนศิลป์ - ภาษาเกาหลี ตอนนี้เรียนจบ ม. 6 แล้ว เป็นรุ่นพี่ของเตรียมอุดมแล้วครับ สำหรับน้อง ๆ หลายคนที่สนใจอยากสอบเข้าเตรียมอุดม คงกำลังหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวกันอยู่แน่ ๆ พี่ในฐานะรุ่นพี่เตรียมอุดม ก็ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวส่งต่อให้กับน้อง ๆ ทุกคน เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
เริ่มเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบตอนช่วงเดือนตุลาคับ ตอนช่วงนั้นตอนแรกยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเราเก่งอะไร ไม่เก่งอะไร ก็เลยลองทำโจทย์จากหนังสือต่าง ๆ ที่ต้องใช้สอบเข้าดูก่อน ซึ่งตัววิชาที่เราใช้สอบเข้า ม.4 ตอนนั้นจะมีอังกฤษ ไทย สังคม 3 วิชานี้ ตอนคะแนนจากแบบฝึกหัดออกมา ก็รู้ว่าเรายังอ่อนอังกฤษกับสังคมอยู่ ช่วงนั้นก็เลยพยายามหาโจทย์จากหนังสือต่าง ๆ มาทำเยอะมาก ๆ
เราไม่ใช่คนที่วางแผนหรือจัดตารางอ่านหนังสือได้เป็นระเบียบขนาดนั้น แค่รู้สึกว่าในหนึ่งวัน เราควรที่จะอ่านได้เท่านี้ วิชาละเท่านี้ ขึ้นอยู่กับว่าในวันนั้นเรามีเวลาแค่ไหนด้วย เพื่อไม่ให้หนักตัวเองจนเกินไป เราไม่ใช่คนที่เน้นไปในเรื่องอ่านหนังสือขนาดนั้น เป็นคนที่โฟกัสนาน ๆ อ่านยาว ๆ แล้วจะลืม ช่วงนั้นปกติแล้วเราก็เลยเลือกที่จะทำโจทย์ให้ได้ทุกวัน วันไหนที่ว่าง ๆ ก็จะทำวิชาละชุดเลย หรือวันไหนไม่ค่อยมีเวลาก็อาจจะทำสัก 10 ข้อ วิชาเดียวต่อวัน เพื่อให้มันเคยชิน จะได้สามารถมาทำโจทย์ได้ตลอด ๆ จนทำให้รู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันไปเลยตอนนั้น พอทำโจทย์ไปเรื่อย ๆ เราก็จะรู้ว่าเราพลาดตรงไหนบ่อย ๆ แล้วค่อยไปตามอ่านตามเก็บในส่วนนั้นแทนทีหลัง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องอ่านหนังสือเยอะจนเกินไป อย่างของวิชาภาษาอังกฤษ
ตัวข้อสอบจะมีทั้งพาร์ท Reading, Vocab, Error, Cloze Passage ประมาณนี้ เราเป็นคนที่ไม่ได้เก่งพาร์ท Grammar ขนาดนั้นเลยพยายามไปทำโจทย์ ทำความเข้าใจใหม่ พวก Tense ต่าง ๆ เป็นช่วงที่กลับมาเริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่จากเบสิคเลย เพื่อที่จะให้เข้าใจทั้งหมดของมันจริง ๆ
วิชาภาษาไทย หลัก ๆ ก็จะแบ่งเป็นหลักภาษากับวรรณคดี คำสมาส สนธิ คำยืมภาษาต่างประเทศ วรรณคดีที่เรียนตอนมต้น จะเจอในข้อสอบแน่นอน วิชาสังคมก็จะมีทุกหมวดของสังคมเลย หน้าที่พลเมือง ศาสนา ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เนื้อหาที่ออกสอบส่วนใหญ่ก็จะมาจากเนื้อหาตอน ม.ต้นทั้งหมดเลย ถ้าเราเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนในโรงเรียนมากับทำโจทย์บ่อย ๆ เพื่อให้ชินแนวข้อสอบ ให้รู้จักแนวสิ่งที่จะออก คิดว่าก็จะช่วยได้มาก ๆ สิ่งที่ออกมันจะไม่ไกลจากสิ่งที่เคยเรียนมาเลย ๆ
สำหรับคนที่พึ่งจะเริ่มเตรียมตัวสอบหรือตั้งใจจะสอบที่ไหนก็ตาม อยากจะบอกว่าไม่ต้องกังวล มันทันแน่นอน อยากให้ลองทำโจทย์ดูอย่างน้อยก็สักหนึ่งชุด เพื่อให้รู้ว่าพาร์ทไหนที่เราจะพลาด เราทำไม่ได้ข้อไหน แล้วค่อยเน้นอ่านพาร์ทนั้นก่อน ทำความเข้าใจกับเรื่องที่เราไม่เก่งก่อนเยอะ ๆ ส่วนพาร์ทที่เราค่อนข้างมั่นใจและเป็นตัวเก็บคะแนนเลยคือ Reading เพราะเป็นพาร์ทที่มีข้อเยอะมาก ถ้าทำพาร์ทนี้ได้คะแนนก็จะค่อนข้างดีเลย
วิธีที่เราใช้ตลอดตอนเราทำ Reading คือเราจะข้ามไปอ่านคำถามก่อน เพื่อให้รู้ว่าคำถามต้องการอะไร แล้วค่อยมาอ่านตัว Passage เผื่อบางที Passage มันยาวมาก ๆ ถ้าเรารู้ว่าโจทย์ต้องการอะไร บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด อ่านแค่พารากราฟแรกก็อาจจะได้คำตอบเลย ทำให้ลดระยะเวลาการทำข้อสอบไปได้เยอะมาก ๆ ถ้าข้อไหนไม่รู้จริง ๆ หรือรู้ว่าจะใช้เวลาคิดในข้อนี้นาน ให้ติ๊กไว้หรือวงไว้แล้วข้ามไปก่อนแล้วค่อยกลับมาทำ เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาในการทำข้อสอบ ถ้าถึงข้อที่จะต้องเดาคำตอบแล้วจริง ๆ ก็ให้ลองตัดช้อยส์จากสิ่งที่เรารู้ดูก่อน ถ้าเป็นพาร์ท Vocab แล้วเราจำศัพท์ไม่ได้ลองพยายามดูรากของคำ ว่ามันคล้ายกับคำไหนที่เรารู้จักไหม ถ้าจะเดาก็อยากให้เดาแบบลองคิดดูก่อน มันจะช่วยให้เปอร์เซ็นต์การที่เราจะตอบถูกมีเยอะขึ้น
รู้ว่าช่วงนี้ยิ่งใกล้สอบแล้ว ทุกคนจะยิ่งกดดันมาก ๆ กลัวว่าตัวเองจะทำข้อสอบไม่ทัน ทำไม่ได้ กลัวจะอ่านหนังสือไม่ทัน อยากบอกทุกคนว่าไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกดดันมาก เราเชื่อว่าพวกแกทำเต็มที่ที่สุด ทำดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างที่แกอ่านมา มันทำให้แกเก่งขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง มันไม่ใช่สิ่งสุดท้ายในชีวิตแน่นอน เสียใจได้ แต่ก็ต้องสู้ต่อ อยากให้เชื่อมั่นในตัวเองเยอะ ๆ พักได้ อย่าหักโหมเกิน ทำได้แน่นอน
หนังสือวิชาภาษาอังกฤษ
หนังสือวิชาภาษาไทย
หนังสือวิชาสังคมศึกษา
