โจทย์ยากมาแล้วหนึ่ง! สำหรับช่วงเวลาของมัธยมปลายหลายคนก็มีคณะในฝันในใจอยู่แล้ว แต่คณะที่เราฝันนั้นก็ดันอยู่นอกสายตาของพ่อแม่ผู้ปกครอง ความสับสนในใจจึงเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เราจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงแบบที่ไม่สร้างรอยร้าวในครอบครัว และยังได้เรียนในคณะที่ชอบด้วย เป็นทางเลือกที่เรียกได้ว่า Win Win ทั้งสองฝ่าย วันนี้เราขอแนะนำวิธีที่คิดว่าสามารถนำไปปรับใช้ได้มาบอกกันในบทความนี้เลย คณะที่ใช่ ไม่ถูกใจพ่อแม่ สร้างความมั่นใจยังไง ?
จบแล้วจะไปทำอะไรกิน! คำถามนี้คือปัญหาใหญ่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไม่ยอมปล่อยลูกให้ได้เรียนในคณะที่ชอบ เรามาทำความเข้าใจกันหน่อยจากคำถามข้างต้นนี้ แท้จริงแล้วมันซ่อนความเป็นห่วงอยู่ในนั้น ต้องบอกว่ายุคสมัยเรากับสมัยของพ่อแม่ต่างกัน ท่านอาจไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของอาชีพที่เราอยากทำมาก่อน การที่ท่านมองว่าอาชีพที่เราอยากทำนั้นไม่น่าจะมั่นคงก็เป็นไปได้ ที่นี้เราอาจจะลองเปิดใจกับพวกท่านบ้าง นำเสนอข้อมูลของอาชีพอย่างรอบด้าน เพื่อค่อย ๆ เติมความเข้าใจที่ครบถ้วนให้แก่ท่าน ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ น้ำหยดลงหินทุกวัน หินน่าจะกร่อน และถ้ากร่อนเมื่อไหร่ ก็แปลว่าท่านน่าจะเข้าใจเรามากขึ้น
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยแผน เพราะพวกเรากำลังอยู่ในยุคที่ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผลมีแผนรับมือ เพราะงั้นเราลองมาคิดกันเล่น ๆ เช่นว่า เราเดินไปบอกพ่อแม่เลยว่า เราจะเรียนคณะนี้โดยปล่อยให้พวกเขายืนงงในดงคำถามต่อไป แบบนี้ยังไงก็ทะเลาะกัน หรือเราจะลองทำอีกแบบหนึ่งดีละ ด้วยการลองวางแผนในหัวคร่าว ๆ จัดการเตรียมข้อมูลที่ถูกต้องให้แน่น แล้วเรียกประชุมครอบครัว มีแพลน A, B, C เอาไว้ให้เห็นว่าเราพร้อมรับมือชีวิตพอสมควร เราสนใจมันจริง ๆ แสดงความจริงใจพร้อมข้อมูลยังไงก็ซื้อใจท่านได้แน่
คุยครั้งแรกไม่เป็นไร คุยครั้งต่อไปโมโห! นี่แหละที่จะบอกว่าเราต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้ปกครองของเราก่อน ว่าจริง ๆ แล้วท่านเป็นคนแบบไหน ต้องการข้อมูลที่มากแค่ไหน หรือไม่ชอบการพูดคุยที่นานเกินไป คุยแบบไหนถึงจะเข้าใจ ซึ่งนี่คือการชวนน้อง ๆ มาปรับที่ใจของเราให้พอรู้ว่าการคุยกันครั้งเดียวมีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะยังไม่สมหวัง เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งล้มเลิก เมื่อแผนดี ข้อมูลแน่น อย่าลืมปรับที่ใจของเราด้วย
ถามบี้ ไล่จนมุม หรือจริง ๆ มันคือการสร้างความเข้าใจ นั่นแหละทริคเล็ก ๆ สุดท้ายไม่ว่าการนำเสนอความฝันความต้องการของเราจะโดนปัดตกไปกี่รอบ ถ้าใจเรายังไหวก็ทำต่อไป และที่สำคัญอย่าลืม Pain Point หลักของประเด็นนี้นั้นคือ ความไม่เข้าใจจึงทำให้ปัญหาเกิดขึ้น เพราะงั้นในทุกครั้งที่พูดคุย เราอาจจะบอกเปิดไปเลยก็ได้ว่า ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่ฟังเราอธิบาย ถ้าท่านมีคำถามก็สามารถถามได้เลย เราพร้อมจะตอบ พร้อมอธิบาย ซึ่งสิ่งนี้มันเป็นการเปิดใจว่า เราไม่ได้เอาแต่ใจ ไม่ได้ดึงดัน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถาม แล้วจะทำให้รู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้เผด็จการกับลูก ๆ
โลกใบนี้ไม่เคยหยุดหมุนเลยตั้งแต่เราเกิดมา เลยอาจจะส่งผลให้การรับรู้ของมนุษย์อย่างเราต้องคอยทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ควรจะมองหาในโลกที่หมุนเร็วไม่รอใครแบบนี้ คือความเข้าใจที่ตรงกัน พ่อแม่ผู้ปกครอง มองหาความมั่นคงให้แก่ลูกหลานในวันที่พวกเขาอาจจะไม่อยู่ ส่วนตัวเราก็อยากใช้ชีวิตไปกับความฝันที่เราชอบตลอดการใช้ชีวิต เรายืนคนละจุดไม่ผิดที่คิดคนละแบบ ปรับการเข้าหากันจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นนะทุกคน พยายามเข้าล่ะ ยังไงเราก็พยายามมาตลอดอยู่แล้วนี่ สู้ ๆ นะ