อยู่สายศิลป์กำลังสนใจอยากเรียนต่อ มีหลายคณะที่น่าสนใจมากมาย แต่ข้อมูลสำคัญที่ควรศึกษาไว้คือ คณะที่ได้รับความนิยม สำหรับเด็กสายศิลป์ ในการเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัย มีอะไรบ้าง เพื่อจะได้นำไปประเมินต่อว่า แนวโน้มคู่แข่งในคณะต่าง ๆ เป็นอย่างไร และศึกษาว่าแต่ละคณะเรียนอย่างไร ทำไมคนถึงนิยมเลือกเรียน
เป็นกลุ่มคณะที่หลักสูตรต่าง ๆ ใกล้เคียงกัน บางมหาวิทยาลัยอาจจะแยกออกเป็นคณะเดี่ยว ๆ ชัดเจน แต่บางมหาวิทยาลัยก็รวมเนื้อหาไว้ภายในคณะเดียว คือคณะมนุษยศาสตร์ แล้วให้นักศึกษาเลือกเรียนตามหลักสูตรต่าง ๆ ที่สนใจ แต่อยู่ภายใต้คณะมนุษยศาสตร์ ซึ่งเนื้อหาการเรียนมีครอบคลุมตั้งแต่ ด้านสังคมศาสตร์ ด้านภาษาศาสตร์ ด้านวัฒนธรรม ด้านประวัติศาสตร์ ด้านการเมืองการปกครอง และการท่องเที่ยว เป็นต้น
สำหรับหลักสูตรด้านภาษาที่เปิดสอนส่วนใหญ่คือ ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, ภาษาจีน, ภาษาเกาหลี, ภาษาฝรั่งเศษ, ภาษาสเปน, ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีรูปแบบภาษาที่เปิดสอนต่างกัน ใครมีทักษะภาษาด้านไหนเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว สามารถลุยต่อได้เลย
ส่วนหลักสูตรด้านสังคมศาสตร์, ประวัติศาสตร์, การเมืองการปกครอง วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ก็มีเนื้อหาเน้นเฉพาะไปตามชื่อเฉพาะของหลักสูตรนั้น ๆ ที่จะเน้นสอนตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น หลักสูตรการเมืองการปกครอง ก็จะสอนในเรื่องราวของประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย รวมทั้งการเมืองในต่างประเทศ เป็นต้น
ชื่อคณะก็พอจะเดาได้ว่า ต้องเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับศิลปะแน่นอน โดยเนื้อหาที่เปิดสอนนั้น เน้นไปที่ศิลปะและการออกแบบในด้านต่าง ๆ เช่น ออกแบบแฟชั่น, ออกแบบกราฟฟิก, ออกแบบแอนิเมชั่น, ออกแบบตกแต่งภายใน , ออกแบบสถาปัตยกรรม, ออกแบบงานศิลปะต่าง ๆ, ออกแบบผลิตภัณฑ์, ออกแบบสื่อต่าง ๆ เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้จะแยกออกมาเป็นหลักสูตรเฉพาะทาง ให้เลือกเรียนตรงความต้องการ
หลักสูตรที่เรียนเกี่ยวกับรูปแบบของการสื่อสารต่าง ๆ และการผลิตสื่อที่น่าสนใจ เรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการคิด การวางแผน การออกแบบสื่อ การถ่ายทำ การตัดต่อ การนำเสนอด้วยวิธีที่น่าสนใจ และการโปรโมทสื่อ โดยนำความรู้ด้านนิเทศศาสตร์ไปใช้ต่อในงานต่าง ๆ เช่น การถ่ายทำภาพยนต์ โฆษณา การแสดง การจัดวิทยุและโทรทัศน์ การประชาสัมพันธ์สื่อ การตลาดเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือเนื้อหาที่เปิดสอนให้เลือกเรียนในคณะนิเทศศาสตร์
เป็นคณะที่เรียนด้านการศึกษา เพื่อผลิตนักศึกษาที่มีความรู้และจบออกไปเป็นคุณครูหรืออาจารย์ ซึ่งจะแยกหลักสูตรไปตามวิชาเอกต่าง ๆ เช่น ด้านวิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, แนะแนวการศึกษา, ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, ศิลปะ, สังคมศึกษา เป็นต้น ใครที่สนใจอยากเป็นครู สามารถเลือกเรียนได้ตามเอกวิชาที่ถนัด
ศึกษาเนื้อหาด้านการประกอบธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการคิดที่จะทำธุรกิจ การวางแผน การออกแบบโครงการธุรกิจ การวางแผนการขาย การสร้างยอดขายอย่างไรให้เติบโต การบริหารองค์การด้านธุรกิจ การวิเคราะห์ธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรด้านบัญชี ที่เนื้อหาการสอนมีตั้งแต่ การทำบัญชี การวิเคราะห์บัญชี การตรวจสอบบัญชี การนำวิชารูปแบบบัญชีไปใช้ในงานด้านต่าง ๆ เป็นต้น บางมหาวิทยาลัยยังเสริมการเรียนด้านกฎหมาย เกี่ยวกับการเงินและการทำธุรกิจ เข้ามาในหลักสูตรอีกด้วย
เป็นคณะที่มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า ต้องเรียนเกี่ยวกับกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้ในการต่อยอดการทำงานในด้านกฎหมายในอนาคต ซึ่งเชื่อมโยงกับกฎระเบียบและใช้ชีวิตของคนในสังคม เป็นอีกหนึ่งคณะยังได้รับความนิยมมาโดยตลอด ซึ่งบางมหาวิทยาลัยก็จัดหลักสูตรนิติศาสตร์ เอาไว้ในคณะมนุษยศาสตร์
การเรียนเศรษฐศาสตร์ คือการศึกษารูปแบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ และระดับโลก เรียนรู้ถึงแนวโน้มการเจริญเติบโต การพัฒนา การวางแผน การตั้งรับ การหาทางออก ของระบบเศรษฐกิจในภาพรวมขนาดใหญ่ เพื่อนำความรู้ไปใช้ต่อในการประกอบอาชีพ และพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้ดีขึ้นต่อไป คนเรียนคณะนี้ต้องสนใจข่าวสาร การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในประเทศและรอบโลกอยู่ตลอดเวลา
คุณครู อาจารย์
นักแปล ล่าม
นักกฎหมาย ทหารความ
สถาปนิก
นักธุรกิจ
นักบัญชี
นักข่าว
นักแสดง
ผู้กำกับ
ทนายความ
ผู้พิพากษา
นักโฆษณา
ครีเอทีฟ
นักลงทุน
นักเศรษฐศาสตร์
กราฟฟิก นักออกแบบ