มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีทั้งหมด 5 วิทยาเขต วิทยาเขตที่น่าสนใจอีกที่คือ กำแพงแสน เมื่อนึกถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน อาจนึกถึงต้นไม้สีเขียวอร่ามเต็มไปหมด หรืออาจจะนึกถึงดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ดอกซากุระ นั่นเองค่ะ นอกจากธรรมชาติที่น่าอยู่แล้ว ที่นี่เปิดสอนคณะอะไรบ้าง ชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยจะเป็นอย่างไร วันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนกันให้มากขึ้น ตามมาเลยค่ะ

วิทยาเขตกำแพงแสน

ตั้งอยู่ เลขที่ 1 หมู่ 6 บ้านทุ่งสมบัติ ตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เป็นวิทยาเขตแห่งหนึ่งที่มีการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มุ่งเน้นให้การศึกษา สร้างสรรค์และพัฒนาความรู้ ให้บริการทางวิชาการ รวมทั้งสืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับนโยบายการศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางด้านเกษตร

คณะที่เปิดสอน

คณะเกษตร กำแพงแสน
คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน
คณะสัตวแพทยศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์
คณะประมง
คณะสิ่งแวดล้อม

อาคารเรียนรวม 1 2 3

อาคารที่เด็กต้องรู้จักคือ “อาคารเรียนรวม 1 2 3” หรือเรียกว่า ศร.1 ศร.2 ศร.3 เพราะว่าไม่ว่าจะเรียนปี 1 หรือปีไหน ๆ ก็ต้องใช้อาคารเรียนรวมเพราะ ยกเว้นวิชาประจำคณะเท่านั้นที่เรียนตึกคณะ นอกนั้นก็เรียนอาคารรวมค่ะ ใต้อาคารเรียนรวม 3 ชั้นล่างจะเป็นกองบริหารการศึกษาไว้ติดต่อเรื่องเอกสารต่าง ๆ ของนักศึกษา และจะมี  Dairy Queen และ Café Amazon เรียกได้ว่ากว่าจะถึงห้องเรียนคงเสียตังค์หลายบาทเลย ส่วนตัวชอบเรียนอาคาร 3 มากที่สุด 

หอ Convention

เป็นหอประชุมสำคัญ ใช้ทำกิจกรรมแทบทุกชนิด เพราะสามารถรองรับนักศึกษาได้ระดับหนึ่ง และเป็นหอประชุมที่ใหญ่และอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัย

สระพระพิรุณ

เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของทางมหาวิทยาลัยเลยเพราะว่าอยู่ใจกลางของมหาวิทยาลัย และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้ทำกิจกรรมมากที่สุด เพราะนักศึกษาจะชอบมานั่งเล่นและออกกำลังกายตอนเย็นเพราะว่าที่นี่อากาศดีสุด ๆ ไปเลยค่ะ

สวนชมพูพันธุ์ทิพย์

จะอยู่ภายในมหาวิทยาลัยใกล้ ๆ กับโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนกำแพงแสน ซึ่งจะออกดอกช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุก ๆ ปี มีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ราว ๆ 300 ต้น เมื่อออกดอกนั้นก็จะบานสีชมพูจนถนนเส้นนั้นกลายเป็นสีชมพูเลยค่ะ ผู้คนแถวนั้นไม่ว่าจะเป็นนิสิตในมหาวิทยาลัย ผู้คนในจังหวัด รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่น ๆ ก็จะแวะเวียนมาชมความงามและถ่ายรูปของดอกไม้ด้วยค่ะ
 

สวนกระบองเพชร

เป็นสถานที่ที่ร่มรื่นเพราะล้อมรอบไปด้วยต้นกระบองเพชรนานาชนิด และที่สำคัญเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยจุดหนึ่งของทางมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ใครที่มามหาวิทยาลัยแล้วไม่ได้ไปถือว่าพลาดมาก ๆ เลยนะคะ

ตลาดนัดยูคาลิปตัส 

และที่สุดท้ายนะคะ ตลาดนัดยูคาลิปตัส หรือชอบเรียกกันว่า ตลาดนัดสะเดา จะมาเปิดทุกวันพุธ ภายในมหาวิทยาลัย มีครบทุกอย่างทั้งอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ เรียกได้ว่ามาเป็นเด็กกำแพงแสนถ้าไม่ได้มาเดินถือว่าพลาดมากค่ะ และที่สำคัญใกล้กับหอในของมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ

วิธีเดินทางในมหาวิทยาลัย

รถรางของทางมหาวิทยาลัย แต่นักศึกษาที่นี่เรียกกันว่า “รถตะลัย” ซึ่งมาจากคำว่า รถตะเวณทั่วมหาวิทยาลัย หรือ รถตะลุยมหาวิทยาลัย ซึ่งรถตะลัยจะมี 2 สาย คือ สายสีชมพูและสายสีเหลือง สายสีชมพูจะให้บริการจากหน้ามหาวิยาลัยถึงอาคารเรียน สายสีเหลืองจะให้บริการอยู่บริเวณหอพักนิสิต โรงอาหารสีส้ม และรอบสระพระพิรุณ 

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง จะมีตลอดทั้งวันมีทั้งในมหาวิทยาลัย และหน้ามหาวิทยาลัย ที่สำคัญราคาเริ่มต้น 15 บาท 

รถจักรยานยนต์ ส่วนมากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นส่วนใหญ่ เพราะสะดวกที่สำคัญภายในมหาวิทยาลัยมีปั๊มน้ำมันด้วยนะคะ ไม่ต้องไปเติมไกล ๆ เลยค่ะ

การเดินทางจากตัวเมืองไปในมหาวิทยาลัย

จากตัวเมืองไปในมหาวิทยาลัยจะมีรถตู้และรถเมล์ผ่านหน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งรถตู้สามารถขึ้นได้คือบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร มีรถตู้สาย 80 กรุงเทพ-บางลี่ และมีรถตู้ที่ไปกำแพงแสนโดยตรง ซึ่งค่ารถจากจุดนี้ไปมหาวิทยาลัย 30 บาท และใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีค่ะ ส่วนรถเมล์จะเป็นรถเมล์สาย 88 กรุงเทพ-สุพรรณ ซึ่งก็จะผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเช่นเดียวกันค่ะ

หอพักในมหาวิทยาลัย

หอพักในมหาวิทยาลัยก็จะมีการแบ่งแยกเป็นหอพักชาย หญิง อย่างชัดเจน และมีเวลาเข้าออกจำกัดของหอหญิงคือประตูจะปิดตอน 23.30 น.ถ้าเข้าหลังจากนี้จะมีกานเซ็นชื่อ แต่หอชายจะไม่มีเวลาเรื่องการเข้า-ออกหอ หอจะแบ่งออกเป็นหอรัฐและหอเอกชน 

หอรัฐ จะเป็นห้องพัดลม ค่าห้องอยู่คนละ 2,000 บาท/เทอม + ค่าบำรุง 200 ฟรีค่าน้ำ แต่เสียค่าไฟแยกต่างหาก จ่ายตามมิเตอร์ไม่มีบวกเพิ่มเหมือนหอนอกค่ะ
- หอชายมี 2 รูปแบบ แบบแรกอยู่กัน 2 คน กับแบบที่สองอยู่กัน 5 คน
- หอหญิงมี 2 รูปแบบ แบบแรกอยู่กัน 5 คน มีห้องน้ำในตัว แบบที่สองคืออยู่ 3 คน ใช้ห้องน้ำรวม ซึ่งห้องน้ำจะมีห้องน้ำ 4 ห้อง ห้องอาบน้ำ 4 ห้องซึ่งมีทั้งฝั่งซ้ายและขวา เรียกได้ว่าไม่ต้องต่อคิวกันเลยค่ะ
จุดเด่นของหอรัฐคือ ใกล้ดับเซเว่น โรงอาหารส้ม สถานพยาบาล

หอเอกชน จะเป็นห้องแอร์
- หอชายมี 2 ตึก ห้องละ 2 คน ค่าห้องอยู่ที่ 4,500 บาท/เดือน ค่าน้ำ-ค่าไฟแยก ค่าไฟอยู่ที่หน่วยละ 4 บาท ค่าน้ำอยู่ที่หน่วยละ 5 บาท
- หอหญิงมี 5 ตึก ห้องละ 4 คน จะคละคณะกัน แต่สามารถแลกห้องได้ถ้าอยากอยู่กับเพื่อน ค่าห้องอยู่ที่ 6,000 บาท/เดือน ค่าน้ำ-ค่าไฟแยก 
แต่การจะเข้าอยู่หอในนั้นก็จะต้องมีการจองผ่านเว็บไซต์ก่อน และจะมีการสอบสัมภาษณ์ เรียกได้ว่าต้องลุ้นกันหน่อยนะคะ
 

หอนอกมหาวิทยาลัย

ต่อมามาดูหอนอกมหาวิทยาลัยกันบ้างค่ะ ซึ่งก็จะมีหลายราคามากตั้งแต่ 3,500 – 7,000 บาทขึ้นไป ขอยกมา 3 หอนะคะ ซึ่งหอนอกที่นิยมของเด็กกำแพงแสนนั่นก็คือ

หอนกฮูก 
หอนกฮูกจะมีหลายโครงการตั้งแต่โครงการ 1 - 6 แต่ละโครงการไม่ได้ห่างกันมากเลยค่ะ และมีหลายราคา ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ และที่สำคัญนักศึกษาอยู่เยอะมากไม่ต้องกลัวเหงาเลยค่ะ มีตั้งแต่ราคา 4,000 – 5,300 บาท ค่าไฟจะอยู่ที่หน่วยละ 7 บาท ค่าน้ำหน่วยละ 20 บาท และที่สำคัญสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยนะคะ (แต่โครงการ 1 และ 6 เลี้ยงไม่ได้นะคะ)

หอสิรภัสร์ เพลส
เป็นหอที่ใหญ่และอยู่ตรงข้ามกับตลาดนัดซึ่งถือว่าสะดวกมาก และอีกอย่างมีเซเว่นอยู่ข้าง ๆ หอด้วยค่ะ หอจะมี 4 ตึก แต่ละตึกจะราคาแตกต่างกันมีทั้งห้องพัดลมและห้องแอร์ เริ่มต้นตั้งแต่ 2,500 – 4,500 บาท ค่าไฟหน่วยละ 7 บาท ค่าน้ำเหมา 50 บาทต่อห้องค่ะ

The Muse
เป็นคอนโดสไตล์ Muji Loft Carrara ที่พึ่งสร้างและราคาไม่แรง ส่วนกลางครบครัน มีราคาตั้งแต่ 5,800 – 9,200 บาท ค่าไฟหน่วยละ 7 บาท ค่าน้ำหน่วยละ 16 บาท อินเตอร์เน็ตฟรี อยู่ตรงข้ามตลาด VS เดินทางสะดวกมาก ๆ ค่ะ

ร้านอาหารในมหาวิทยาลัย

ฟาร์มโคเนื้อกำแพงแสน

ขอแนะนำ “ฟาร์มโคเนื้อกำแพงแสน” เป็นฟาร์มวัวประจำมหาวิทยาลัย และมีร้านอาหารที่ใช้เนื้อวัวจากฟาร์มนี้ด้วยนะคะ นั่นก็คือร้าน “MaxBeef Steack House” ซึ่งจะเป็นพวกเสต๊ก สปาเก็ตตี้ ซึ่งร้านนี้จะอยู่ภายในมหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกมากๆเลยค่ะ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 20.30 น.

โรงอาหารนนทรี

หรือที่นักศึกษาชอบเรียกกันว่า “โรงอาหารส้ม” ซึ่งโรงอาหารส้มนั้นมีร้านอาหารที่หลากหลาย และที่สำคัญราคาถูกมาก อร่อยทุกร้านเลยค่ะ นักศึกษาจะชอบมานั่งทานข้าว นั่งพักระหว่างรอเรียนวิชาถัดไป และที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไว้อ่านหนังสือตอนกลางคืนในช่วงมหกรรมช่วงสอบด้วยค่ะ

กิจกรรมประจำมหาวิทยาลัย

โครงการปลูกข้าว

กิจกรรมหลักของมหาวิทยาลัยที่จะจัดขึ้นทุก ๆ ปีนั้นก็คือ โครงการปลูกข้าววันแม่ ซึ่งจะให้นักศึกษาปี 1 ทุกคณะทุกสาขาไปร่วมกันปลูกข้าว ณ ทุ่งนาไพร ได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อน ๆ ลุยโคลนด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ทั้งเหนื่อย สนุกและคุ้มค่ามากค่ะ

          ครั้งแรกที่มาคือชอบบรรยากาศของมหาวิทยาลัยมาก เพราะมีต้นไม้เยอะ ลมเย็น และเนื้อที่กว้าง พอได้มาเรียนได้มาทำกิจกรรมก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขเพราะว่าอาจารย์ เพื่อน รุ่นพี่ทุกคนต้อนรับเป็นอย่างดี มีอะไรคุยกับทุกคนได้เลย ทุกคนพร้อมให้คำปรึกษามาก ๆ ยิ่งพี่แตงกวาเจอหัวหน้าสาขาที่ดีมาก ๆ คอยตามงานเพื่อนทุกอย่าง เรียกได้ว่าดีใจที่ได้เข้ามาเรียนที่นี่ค่ะ

เรื่อง : ประภาพร แช่มช้อย