การเรียนออนไลน์อาจเคยเป็นเพียงตัวช่วยทางการศึกษา เพื่อไว้เสริมเติมความรู้ให้แก่น้อง ๆ ที่รักการขวนขวายเพิ่มเติม แต่ปัจจุบัน โลกเข้าสู่ยุค Digital Disruption ระบบการเรียนการสอนในรูปแบบห้องเรียนเดิม ๆ จึงได้รับผลกระทบ ยิ่งมาเกิดสถานการณ์วิกฤตโรคระบาด อย่างป COVID – 19 ทำให้สถานศึกษาทุกระดับชั้น ต้องปิดการเรียนการสอน แต่โลกแห่งความรู้ไม่สามารถปิดไปพร้อมกับโรงเรียนได้ ทำให้การเรียนการสอนต้องปรับเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เปลี่ยนไปจากทางเลือก สู่การเป็นทางรอด ให้การศึกษาไทย แต่ในทางปฏิบัติ เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตการเรียนในโรงเรียน ขนาดมีครูดูแลอย่างใกล้ชิด ประกบติดในชั้นเรียน น้อง ๆ หลายคนยังเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วถ้าต้องมาเรียนออนไลน์ จะไหวกันหรือไม่ วันนี้พี่นัทมีคำแนะนำสำหรับคนที่อยากรอด...ในการเรียนแบบออนไลน์มาฝาก
ตั้งนาฬิกาชีวิตให้เหมือนกับช่วงที่เรียนในระบบ Class Room ตื่นเวลาที่เคยตื่น พักกินข้าวเวลาเดิม ทำกิจวัตรประจำวันให้ใกล้เคียงกับเวลาเดิม เพราะถ้าไปสร้างนาฬิกาชีวิตใหม่ เช่น อยากตื่นเมื่อไรก็ตื่น อยากเรียนเมื่อไรก็เรียน อยากทำอะไรตอนไหนก็ได้ จะทำให้ขาดวินัยและความรับผิดชอบ รวมทั้งขาดความต่อเนื่องของความรู้ ทั้งนี้ เพราะความมีวินัย ความต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจะช่วยทำให้สมองของน้อง ๆ มีการเตรียมพร้อมรับข้อมูล พอถึงเวลานัดหมายสมองจะเปิดโล่ง พร้อมรับความรู้ที่น้อง ๆ ใส่เข้ามา เมื่อสมองทำงานร่วมกับสติ และสมาธิ รับรองว่าปัญญาเกิดได้อย่างแน่นอน
ก่อนเริ่มจัดตารางเรียนและตารางชีวิต ให้ตกลงกฏกติการ่วมกับสมาชิกในครอบครัวให้ดีว่า เวลาไหนใครจะทำอะไร เพื่อไม่ให้กิจกรรมของคนในบ้านทำลายสมาธิระหว่างเรียน ที่สำคัญควรต้องทำตารางเรียนในแต่ละวันแจ้งให้สมาชิกในบ้านทุกคนรู้กันล่วงหน้า เพื่อที่สมาชิกคนอื่นจะได้จัดสรรเวลาทำกิจกรรมของตนได้อย่างเหมาะสม ข้อเสียของการเรียนออนไลน์คือ การขาดสมาธิ จิตวอกแวก สนใจกับกิจกรรมอื่น หรือถูกรบกวนจากกิจกรรมของคนในบ้าน ดังนั้นวิธีนี้จึงช่วยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการออกแบบตารางกิจกรรมของบ้านร่วมกัน แบ่งพื้นที่และให้ความเคารพในเวลาของกันและกันมากขึ้น
บรรยากาศในการเรียน ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อประสิทธิภาพ ความจำ และสมาธิของผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นบ้านที่ต้องปรับสภาพมาเป็น “บ้านเรียน” จึงควรมีบรรยากาศที่เหมาะกับการเรียนรู้ เป็นสถานที่ที่ทำให้มีสมาธิ ไม่ถูกรบกวนจากสิ่งเร้าต่าง ๆ มีความเป็นสัดส่วน รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนต้องพร้อม เช่น โต๊ะ เก้าอี้ สมุด ปากกา หนังสือ เอกสารประกอบการเรียน ดาวน์โหลดหรือปริ๊นไว้ให้พร้อม ที่สำคัญควรสร้างบรรยากาศให้คึกคัก กล้าถาม กล้าตอบ กล้าแสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมกับการเรียนออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ และอย่าคิดว่าเรียนออนไลน์เรียนที่บ้าน จะเรียนท่าไหน แบบใดก็ได้ เช่น นอนเรียน กินข้าวไปเรียนออนไลน์ไป ดูโทรทัศน์ เล่นเกม ดูซีรีส์ คุยโทรศัพท์ หรือเล่นโซเชียลระหว่างเรียน ทำแบบนี้มั่นใจได้ว่า น้อง ๆ อาจจะติดได้ แต่หมายถึง ติดหนัง ละคร ซีรีส์ โซเชียล เกม แต่ไม่ได้หมายถึงการติด...มหาวิทยาลัย !
การเรียนออนไลน์ หัวใจสำคัญคืออินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน โปรแกรม และแอปพลิเคชันต่าง ๆ การเรียนแบบนี้ต่อให้ตั้งใจขนาดไหน ถ้าเทคโนโลยีไม่เป็นใจ เรียนอย่างไรก็ไม่รอด ดังนั้นน้อง ๆ ต้องเรียนรู้เรื่องทักษะทางดิจิตอลควบคู่ไปกับการเรียนตามเนื้อหาวิชาด้วย เพราะความรู้ในยุคนี้ นอกจากมีคุณครูเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาแล้ว ยังต้องอาศัยเทคโนโลยีเป็นผู้ช่วยอีกด้วย
การเรียนออนไลน์มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบสอนสด ผ่าน Video Conference, คลิปออนไลน์, ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ค หรือ แอปพลิเคชันต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรหาช่องทางการเรียนรูปแบบอื่นเพิ่มเติมด้วย ทั้งแบบดิจิตอลทีวี หรือเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม อย่าลืมว่าถึงแม้กรอบเนื้อหาหลักสูตรของการเรียนจะเหมือนกัน แต่กลวิธีการสื่อสาร เทคนิคการถ่ายทอดของครูหรือติวเตอร์แต่ละท่านก็มีความแตกต่างกัน บางท่านอาจสอนแล้วเราเข้าใจ บางท่านอาจสอนคนอื่นให้เข้าใจ แต่เรากลับไม่เข้าใจ ดังนั้น ควรเปิดโอกาสตนเองให้ได้เป็นศิษย์หลายสำนัก เพื่อให้มีโอกาสตักตวงความรู้ให้มากที่สุด
ทรูปลูกปัญญาพร้อมให้บริการการเรียนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย รายการสอนศาสตร์ แอปพลิเคชัน หรือ True VLEARN แพลตฟอร์มเพื่อการบริหารจัดการชั้นเรียน และการเรียนการสอนจากที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพ งานนี้จะทำให้น้อง ๆ มีครบ ทั้งมีครู ติวเตอร์ บทเรียน ข้อสอบ คลิปติว และการแนะแนว รับรองว่าช่วยให้รอดในการเรียนออนไลน์ได้อย่างแน่นอน
New Normal ทางการศึกษาไทย อาจจะมีการปรับเปลี่ยนวิถีการเรียนการสอนไปจากในอดีต แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะมาหยุดยั้งความฝันในการเข้ามหาวิทยาลัยของน้อง ๆ ขอเพียงแค่เปิดใจ เปิดสมอง และเปิดโอกาสให้ตนเองได้เรียนรู้ คนที่กำหนดการสอบติดของเรา ไม่ใช่ครู ไม่ใช่โรงเรียน ไม่ใช่ ทปอ. ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นอกจาก...ตัวเราเอง !
ถ้าคิดจะปรับ ชีวิตก็เปลี่ยน ถ้าคิดจะเรียน จงทลายทุกข้อจำกัด
พี่นัท ทรูปลูกปัญญา
บทความที่เกี่ยวข้อง
อัพความรู้ฟรี ๆ กับทรูปลูกปัญญา เนื้อหาเพียบ ครบทุกระดับชั้น