Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
[รีวิว] UDDI สถาปัตย์ ธรรมศาสตร์ หลักสูตรภาษาอังกฤษปริญญาตรีควบโท

  Favorite

          ถ้าหากพูดถึงคณะที่ทำงานกันจนหามรุ่งหามค่ำ เชื่อว่าในหัวของน้อง ๆ หลายคนจะต้องมีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผุดขึ้นมาในหัวแน่นอนเลย แต่ก็อย่าเพิ่งเกรงกลัวกันไปใหญ่นะครับ เพราะในวันนี้พี่ก็จะขอแนะนำให้น้อง ๆ ที่สนใจด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ได้ทำความรู้จักกับสาขาออกแบบพัฒนาชุมชนเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถ้าน้อง ๆ พร้อมกันแล้ว ก็มาเริ่มกันเลยครบ

          ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ พี่ชื่อแบงค์นะครับ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 1 สาขาออกแบบพัฒนาชุมชนเมือง (Urban Design and Development International Program) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า UDDI เป็น 1 ใน 7 สาขา ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง ซึ่งเป็นสาขาที่เกิดขึ้นมาล่าสุดพร้อมกับหลักสูตร DBTM ครับ โดยตอนนี้หลักสูตรก็ถูกก่อตั้งมา 6 ปีแล้วครับ
 

(นี่คือภาพถ่ายของนักศึกษารุ่น 6 ครับ พี่ก็แอบ ๆ อยู่ในภาพนี้นี่แหละครับ)

 

          หลักสูตร UDDI เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษปริญญาตรีควบโท โดยแบ่งเป็นปริญญาตรี 3 ปีครึ่ง และ 1 ปีครึ่ง ในปริญญาโทครับ โดยในช่วงปี 1 เราจะได้เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานด้านการออกแบบครับ ในปี 2 จะเป็นพื้นฐานการออกแบบผังเมือง ส่วนปี 3 เราจะได้เรียนเกี่ยวกับความเป็นเมืองแบบบูรณาการ พอขึ้นปีที่ 4 จะเป็นการนำเอาสิ่งที่เรียนไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงครับ จากนั้นในปีสุดท้าย ในปี 5 จะเป็นเนื้อหาของปริญญาโทจะมีการเลือกว่าต้องการเรียนสาขาเอกใด ระหว่าง Tourism & Leisure Sector, Public & Private Partnerships หรือ Real Estate & Housing Development
 

สำหรับคนที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ >>Click

 

          งั้นพี่ก็จะมาขอแชร์ประสบการณ์การเรียนปี 1 แบบคร่าว ๆ นะครับ อย่างที่บอกไปข้างต้นเลย ในปี 1 เราจะได้เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานการออกแบบครับ ซึ่งสิ่งที่เราจะได้เรียนส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบโปรเจคครับ บางโปรเจคอาจจะใช้เวลาทำประมาณ 1 เดือน หรือไปจนถึงมิดเทอมเลยก็มีครับ ฮ่า ๆ แต่ก็ไม่ต้องกลัวไปครับ เพราะโปรเจคส่วนใหญ่เราจะทำกันเป็นกลุ่มครับ รับประกันเลยว่าไม่เหงาแน่นอนครับ งานปกติที่ได้รับจากอาจารย์ก็จะเป็นการออกแบบอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใน Space ที่กำหนดครับและยังกำหนด กลุ่ม user มาให้ด้วยในทุก ๆ งานครับ บางครั้งอาจจะเป็น Co-Housing, Pavillion หรือแม้กระทั่ง Living Unit ที่มีพื้นที่แค่ 20 ตารางเมตรก็มีครับ จะสังเกตได้ว่างานที่ได้มีตั้งแต่สเกลใหญ่ลงไปจนถึงสเกลที่เล็กมากกกก (เสียงสูงปรี๊ด!!!) แต่ทั้งหมดที่ว่ามาก็เพื่อทำให้เรามีพื้นฐานความเข้าใจ เพื่อที่จะสามารถสร้างงานที่ตอบสนองความต้องการของ User หลาย ๆ กลุ่มได้ล่ะครับ

 

          แต่ที่ว่ามาข้างต้นยังไม่ใช่ที่สุดของความมันส์นะครับ ในมุมมองของพี่สิ่งที่ท้าทายสำหรับการเรียนน่าจะเป็นเรื่องของการทำ “Pin Up Review” มันคือการ Presentation โดยวิธีการแปะผลงานขึ้นบอร์ดแล้วอธิบายต่อหน้าอาจารย์และเพื่อน ๆ ตรงนี้ล่ะครับน้อง ๆ ที่พี่ว่าที่มันส์สุด ๆ แล้ว เพราะมันคล้าย ๆ กับการขึ้นสังเวียนขึ้นชกเลยครับน้อง ถ้าเราเตรียมตัวมาดีหาข้อมูลมาดีเราก็จะผ่านมันไปได้ แต่ถ้าหากเราทำแบบลวก ๆ ไม่วิเคราะห์ไม่หาข้อมูล เราก็อาจจะโดนอาจารย์สวนหมัด ทำเราน็อคได้ง่าย ๆ เลยครับ ซึ่งไอ้การโดนน็อคเนี่ย
บางครั้งมันจะมาในรูปของการ ล้มแบบ นะครับ ว่าง่าย ๆ ก็คือทำใหม่นั่นแหละ 555555555 (ในเลข 5 นี้มีน้ำไหลซ่อนอยู่) ที่ต้องการจะสื่อก็คือ เราควรตั้งใจทำงานนะครับ ถ้าเราเผางานส่งอาจารย์เค้ารู้ครับ
 

(อันนี้เป็นโปรเจคของช่วงเทอมแรกของปี1 ครับ จะยังเบสิคอยู่ครับ)

 

          มาต่อกันที่บรรยากาศการเรียนการสอนของสาขานี้กันดีกว่าครับ ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขา UDDI จะเป็นสาขาที่มีประชากรเบาบางมากที่สุดครับ อย่างเช่นรุ่นของพี่ก็จะมีนักศึกษาอยู่ทั้งหมด 12 คนซึ่งก็ถือว่าเยอะมาก ๆ แล้วครับ บางรุ่นอาจจะมีไม่ถึง 10 คนครับ ปัจจัยเหล่านี้ล่ะครับทำให้เราสามารถในเข้าหาเพื่อนในสาขาได้เร็วมาก ๆ และยังทำให้อาจารย์สามารถเข้ามาดูแลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยครับ และในส่วนของบรรยากาศในห้องเรียนก็จะเรียนกันจริงจังประมาณนึงครับ ส่วนใหญ่จะมารูปแบบของการเลคเชอร์ และบางวิชาตอนปี 1 เราต้องไปเรียนกับสาขา DBTM ครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวิชาเกี่ยวกับเรื่องของ Creative ครับ ซึ่งทำให้เราได้เพื่อนต่างสาขาเพิ่มขึ้นด้วย ใครที่กลัวเข้ามาแล้วเหงา ไม่ต้องกลัวครับ ได้เพื่อนเยอะแน่ ๆ ครับ มาในส่วนของรุ่นพี่กันบ้างครับ อันที่จริงเราจะได้พบรุ่นพี่ตั้งแต่ตอนกิจกรรม First meet แล้วครับ ซึ่งรุ่นพี่ก้คอยช่วยเราในหลาย ๆ ด้านเลยครับ ทั้งเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับการเรียน เรื่องในบทเรียนที่เราไม่เข้าใจหรือเรื่องงานโปรเจคอีกด้วยครับ เพราะฉะนั้นหายห่วงเรื่องการเรียนครับเพราะเรามีทั้งเพื่อน รุ่นพี่และอาจารย์ที่จะคอยผลักดันเราไปข้างหน้าครับ
 

(บรรยากาศภายในห้องเรียนครับ ในวิชาหลักเราจะมี Guest teacher มาสอนและช่วยให้คำแนะนำในการทำงานก็เราด้วยครับ)

 

          แล้วสำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาเรียนหลักสูตร UDDI นี้ล่ะ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง อย่างแรกเลยครับคือผลทดสอบภาษาอังกฤษ ได้แก่ TU-GET IELTS หรือว่า TOEFL โดยจะมีเกณฑ์คะแนนอยู่ครับ น้อง ๆ สามารถตรวจสอบได้ผ่านทางเว็บไซต์ของทางสาขา UDDI
โดยจะมีประกาศออกมาอยู่แล้วครับ โดยเราเมื่อเราส่งใบสมัครแล้ว ผ่านไปรอบสอบสัมภาษณ์ครับ ซึ่งเราก็ต้องทำ Portfolio ไปด้วยนะครับ อ้อ! เกือบลืม การสอบสัมภาษณ์จะเป็นภาษาอังกฤษนะครับ เพราะฉะนั้นใครที่กล้า ๆ กลัว ๆ ก็แนะนำให้เตรียมตัวไปดี ๆ แต่การสัมภาษณ์จะไม่มีอะไรพาเราเครียดมากครับ อาจารย์ใจดีครับ แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนไม่ค่อยถนัดด้านภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องกังวลมากครับเพราะพี่ก็เป็น แถมตอนสอบสัมภาษณ์ก็รนมาก ๆ เหมือนกัน แต่อย่าสูญเสียความมั่นใจครับ
 

​(ภาพบรรยากาศภายในตึกครับ ในวันปกติ ชั้นล่างคนจะเต็มเลยครับ)
ขอบคุณภาพจาก http://www.vanguard-arch.com

 


          ในส่วนเรื่องของบรรยากาศภายในตึกคณะครับ บริเวณหน้าตึกคณะจะเป็นบ่อปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ครับ เราซื้ออาหารเม็ดมาให้ปลาได้ครับ มีขายอยู่ตรงโต๊ะยามหน้าลิฟต์ครับ เมื่อเราเดินเข้ามาบริเวณโถงของอาคารก็จะเจอกับโซน “โต๊ะไม้” ครับ ซึ่งบางวันก้จะมีนักศึกษามานั่งทำงานกัน บางวันก็จะมีโมเดลขนาดใหญ่มากองอยู่เต็มโต๊ะเลย หรืออาจจะเรียงกันเต็มพื้นเลยก็มีครับ ทางด้านขวาของตึกคณะจะเป็นพื้นที่จอดรถครับ ใครมีรถยนตร์ส่วนตัวก้สามารถนำมาจอดได้ แต่อาจจะต้องแข่งกับคนอื่นนิดนึงนะครับ ไม่งั้นไม่ทันแน่นอน ใต้ตึกคณะจะมีร้านอาหารและร้านเครื่องเขียนอยู่ด้วยครับ ส่วนใครที่ต้องการทำกิจกรรมส่วนตัวก็จะพื้นที่หลังตึกคณะครับเรียกสั้น ๆ ว่า ใต้ออดิ แต่ส่วนใหญ่แล้วสาขา UDDI ช่วงปี 1 จะใช้เวลาส่วนใหญ่สิงสถิตอยู่บริเวณชั้น 6 ครับ เพราะห้องเลคเชอร์จะอยู่ที่ชั้นนี้ครับ รวมถึงห้องสตูฯ ที่ใช้ทำโปรเจคอีกด้วย แต่ในบางเทอมเราจะมีสิ่งที่เรียกว่า วิชา TU ครับ วิชานี้เราต้องไปเรียนที่อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ หรือเรียกสั้นว่า ตึก SC ครับ แต่จะเรียนที่ตึก SC ประมาณเทอมแรกเท่านั้นครับ หลังจากนั้นเราจะได้กลับมาเรียนที่ตึกคณะของเราแล้วครับ
 

(ภาพนี้ถ่ายช่วง open house ครับ ปีต่อไป ๆ ก็มาดูบูธเรากันเยอะ ๆ นะครับ โมเดลนี้เป็นของพี่ก่อนนะครับ ไม่ใช่ของรุ่นพี่นะ)

 

          งั้นมาต่อกันที่หัวข้อ สำหรับน้อง ๆ ที่รักการกินครับ หัวขอนี้แถมให้พิเศษเลยครับ 55555555 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง ตั้งอยู่แถว ๆ ถนนเชียงราก 2 ซึ่งบริเวณที่ตั้งคณะก็รายล้อมไปด้วย “สิ่งล่อตาล่อใจมากมาย” ใช่ครับพี่ กำลังพูดถึง ร้านอาหารจำนวนมาก เท่าที่พี่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาร่วม ๆ ปี ตอนนี้น้ำหนักก็เพิ่มมาราว ๆ 5 กิโลแล้วล่ะครับ กินดีอยู่ดีมาก ๆ เลย ถ้าในบางครั้งเรารีบ ๆ ก็สามารถกินข้าวที่ร้านค้าใต้คณะได้ครับ ราคามิตรภาพ รสชาติอร่อยใช้ได้เลย แต่ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศนะครับ แค่เดินข้ามถนนออกมาจากตึกคณะ เราก็จะเจอกับร้านอาหารมากมาย ที่อยู่ติดกับท่ารถธรรมศาสตร์ หรือบางวันถ้าเราอยากกระทบไหล่เด็กวิศวะ ก็สามารถไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ครับ ยัง! ยังไม่หมดครับ! สำหรับสายแข็งยืนหนึ่งด้านการกินนะครับ น้อง ๆ ก็สามารถไปทานข้าวที่ U-square ครับ ที่นี่คือสวรรค์ของนักกินครับ ในระยะหลายร้อยเมตรจาก U-square ไปจนถึงประตูเชียงราก 1 จะอุดมไปด้วยร้านของกินล้วน ๆ ครับ มีให้กินหลายประเภทมากครับ อาหารไทย ญุี่ปุ่น หรืออาหารตะวันตก รับรองได้ครับ ว่าไม่มีเบื่อ บริเวณนี้จะมีหอพักนักศึกษาด้วยครับ ใครที่พักอาศัยอยู่บริเวณนี้ หมดหวงเรื่องของกินได้เลยครับ แน่นอนว่าพี่ก็อยู่แถว ๆ นี้ด้วยครับ กินอิ่มนอนหลับฝันดีทุกคืน 55555555
 

ขอบคุณภาพจาก https://mapio.net

 

          จบแล้วครับสำหรับสำหรับการรีวิวหลักสูตร UDDI ก็หวังว่าน้อง ๆ จะได้ข้อมูลดี ๆ ไปไว้สำหรับการตัดสินใจกันนะครับ สุดท้ายนี้ก็ขอให้น้อง ๆ ที่อยากเข้ามาเรียน สมหวังกันทุกคนนะครับ ใครที่มีข้อสงสัยตรงไหนก็สามารถสอบถามทาง Facebook หรือ Instagram ของทาง UDDI ได้โดยตรงครับ หรือจะถามพวกพี่ ๆ ในสาขาก็ได้เช่นเดียวกัน แล้วเจอกันนะครับ !!!!! ขอบคุณมากครับที่อ่านกันจนจบ :)

 

แบงค์ สรวิศ UDDI #6

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us