ข้ออ้างสุดคลาสสิกที่ทำให้เราไม่กล้าทำอะไรนอกเหนือจากระยะปลอดภัยเลยนั่นก็คือ “ความกลัว” แน่นอนว่าความกลัวมักจะเกิดขึ้นตอนที่เราจินตนาการภาพต่าง ๆ ไปก่อนที่มันจะเกิด ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือตอนที่เปลี่ยนจากนักเรียนไปเป็นนิสิตนักศึกษาในโลกของรั้วมหาวิทยาลัยนั่งเอง บอกเลยว่าช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น น้อง ๆ ของเราจะเกิดภาพที่ปะติดปะต่อขึ้นมาเอง ตั้งวันแรกที่ไปสอบสัมภาษณ์ บางคนเลยเถิดไปถึงตอนอยู่ในห้องเชียร์เลยก็ว่าได้ วันนี้เรามาปรับพื้นฐานอัพสกิลตัวเองกันหน่อยไหมว่าอะไรกันนะที่เราควรจะมีก่อนที่จะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย

ความยืดหยุ่น

          การปรับตัวและโอนอ่อนผ่อนตามในบางสถานการณ์ก็อาจจะทำให้เราเพิ่มสกิลการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่าหากเป็นเรื่องผิดก็ให้มองว่าถูก แต่ความหมายก็คือเราต้องรู้จักปรับการสื่อสารให้เหมาะสมกับเหตุการณ์หรือว่าคนที่เราจะต้องสื่อสารด้วย การไม่ตั้งแง่หรือมีกำแพงขนาดใหญ่ เป็นสิ่งที่ทำให้เรากลายเป็นคนที่มีคุณภาพและเข้ากับเพื่อนได้ดี ความยืดหยุ่นนี้จะอยู่ติดตัวไปจนถึงตอนที่คุณได้ทำงานเลยแหละ

ติดตามเทคโนโลยี

          ในช่วงที่ผ่านมาการเรียนการศึกษาต่างก็ถูกพัฒนและมีทางเลือกในการเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ การสื่อสารแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นอย่างการเรียนผ่าน VDO CALL การสอบสัมภาษณ์ผ่าน VDO CALL ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเพราะว่าเทคโนโลยีเป็นเหมือนสิ่งที่เชื่อมต่อเราทุกคนได้อย่างดีและมีคุณภาพ ทุกมหาวิทยาลัยกำลังปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยเพื่อตอบสนองต่อโลกที่เปลี่ยนไป  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องติดตามเทคโนโลยีอยู่เสมอ และเราต้องรู้จักการใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยจึงจะได้เปรียบ

สร้างโอกาสใหม่ ๆ

          โอกาสไม่ได้ต่อท้ายด้วยคำว่า “ราบรื่น” หรือ “สำเร็จ” เสมอไปหรอก แต่คำว่าโอกาสคือการที่เราได้เปิดประตูบานใหม่ ๆ ให้กับชีวิต และช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเปิดประตูเหล่านี้ ช่วงมหาวิทยาลัยนั้นก็เหมาะมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดเราจะลองทำกิจกรรมคณะดูบ้าง เช่น ละครเวที, งาน Open House หรือแม้กระทั่งร่วมงานในมหาวิทยาลัย ประตูบานนั้นก็น่าจะทำให้น้อง ๆ ได้โอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนเพิ่มเติมมากขึ้นนะ

ฝึกฟังและเลคเชอร์

          เอาละนะถึงแม้ว่าคณะของน้องบางคนจะเน้นการปฎิบัติมากกว่าท่องสูตร แต่เชื่อเหอะนะว่าสักวิชาต้องมีการท้าทายสกิลการจดเลคเชอร์แน่ ๆ เพราะฉะนั้นเมื่อตอนที่ยังไม่เปิดเทอมแนะนำว่าให้ลองฝึกฟัง Podcast และจดบันทึกใจความสำคัญให้ได้ ฝึกแบบทุกวัน หรือวันเว้นวัน ก็จะช่วยให้สกิลการฟังและจดใจความสำคัญของน้องปังสุด ๆ ข้อดีก็คือไม่ต้องเมื่อยจดทุกคำ แต่จดเฉพาะเรื่องสำคัญก็พอ เริ่มฝึกเลยนะ

จงเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

          ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเองได้มีโอกาสฟัง Podcast ของคุณนิ้วกลม กับการเล่าถึงหนังสือชื่อดังก้องโลกอย่าง Sapiens มีส่วนหนึ่งที่ถูกเล่าว่า เมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ อย่างเช่น วัว, ม้าลาย, ช้าง แล้วนั้น มนุษย์นับว่าถูกธรรมขาติส่งให้เราเกิดมาในตอนที่ยังไม่พร้อม เราไม่ได้เกิดมาแล้วยืนได้เลยแบบสัตว์ที่กล่าวมา เราเกิดมาและต้องการการเลี้ยงดู นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเข้าสังคมเพื่อให้คนในสังคมขัดเกลาเรา สิ่งที่สื่อในสกิลนี้ก็คือว่า คนเราจะเติบโตและพร้อมจะใช้ชีวิตได้นั้นเราจะผ่านสังคมหลายขนาดคนหลายแบบ และในมหาวิทยาลัยก็เป็นสังคมคุณภาพอีกทีหนึ่งเลยทีเดียว น้อง ๆ น่าจะลองเปิดใจเข้าหาเพื่อน พี่ และน้องดูนะ เพราะ Connection เหล่านี้จะช่วยให้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยดีงามอย่างบอกไม่ถูกเลยแหละ

          สกิลที่แนะนำมาทั้งหมดยังไม่หมดหรอกจริง ๆ มีสกิลอีกมากมายที่เราควรฝึกฝน เพราะสกิลพวกนี้ก็เหมือนเป็นการปรับพื้นฐานตัวเอง ให้รับมือกับความกลัวที่สร้างขึ้นมาก่อนจะเปิดเทอม ถ้าน้อง ๆ มีสกิลแบบนี้อยู่บ้างแล้วละก็ เห็นที่ว่าโลกในรั้วมหาวิทยาลัยไม่มีอะไรให้ต้องกลัวแล้วละ