คะแนนออกแล้ว ควรทำอะไร ก่อนการสมัคร TCAS ครั้งใหญ่จะเริ่มขึ้น

เวลาคะแนนออก บางคนก็แฮปปี้ เห็นคะแนนแล้วชื่นใจหายเหนื่อยและรู้สึกคุ้มค่ากับความทุ่มเท แต่บางคน...ก็อาจจะสตั๊นนิด ๆ ช็อกหน่อย ๆ ชีวิตเราเอาไงต่อ คะแนนแค่นี้ทำอะไรได้บ้าง จะเหลือคณะอะไรให้เราเลือกบ้าง เรามาหาทางรอดกัน คะแนนออกแล้ว ควรทำอะไร ก่อนการสมัคร TCAS ครั้งใหญ่จะเริ่มขึ้น

ใครยังไม่เช็กผลคะแนนไปเช็กกันก่อนเลย...ช่องทางการเช็กผลคะแนน TCAS >>Click

1. อ่านค่าของคะแนน

การอ่านค่าของคะแนนเป็น จะช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงเบื้องต้นได้ โดยตัวที่พี่นัทอยากให้น้อง ๆ ดูคือ ค่า Mean หรือคะแนนเฉลี่ย ถ้าได้มากกว่ามีน ก็อุ่นใจได้หน่อย อย่างน้อย ๆ ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนสอบวิชานั้นทั้งประเทศ แต่ถ้าได้น้อยกว่ามีน ก็อาจจะเสี่ยงอยู่ แต่ยังไม่หมดหวัง เพราะระบบ TCAS ประกอบด้วยคะแนนหลากหลายองค์ประกอบ และมีวิธีการคำนวณคะแนนที่แตกต่างกันตามแต่ละรอบ หรือแต่ละสถาบัน   

2. คำนวณคะแนน

ก่อนตัดสินใจสมัครเลือกคณะใด รอบไหน ต้องลองคำนวณคะแนนก่อน เพื่อใช้ประเมินความเป็นไปได้ในการสอบติด

คำนวณคะแนน กสพท
พี่นัทขอแนะนำเว็บคำนวณคะแนนของทรูปลูกปัญญา ใช้ง่าย แถมช่วยประเมินการสอบติดและการเลือกอันดับให้แก่น้อง ๆ ด้วย 
ระบบจะคำนวณคะแนนตามสูตรของกสพท คือ วิชาสามัญ 70% วิชาเฉพาะ 30% 
และจะเปรียบเทียบคะแนนกับทุกสาขาวิชาของกสพท ว่าน้องได้คะแนนอยู่ระดับไหน โดยเปรียบเทียบย้อนหลังได้ถึง 5 ปี
- สูงกว่าคะแนนสูงสุด (แบบนี้ติดแน่นอน)
- สูงกว่าคะแนนเฉลี่ย  (แบบนี้ตัดชุดรอไว้ ได้ลุ้นสุด ๆ)
- สูงกว่าคะแนนต่ำสุด แต่ไม่ถึงคะแนนเฉลี่ย (ยังมีสิทธิ์ลุ้น แต่ก็แอบเสี่ยง)
- ต่ำกว่าคะแนนต่ำสุด (รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง แต่ต้องหาแผนสำรอง!)

วิธีการใช้ โปรแกรมคำนวณคะแนน กสพท >> Click
 

คำนวณคะแนน TCAS รูปแบบ Admission 1

กระบวนการคัดเลือกเป็นของแต่ละมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงใช้เกณฑ์และวิธีคำนวณคะแนนแตกต่างกัน บางมหาวิทยาลัยบอกสูตรการคำนวณคะแนน บอกคะแนนต่ำสุด บางสถาบันไม่บอกอะไรเลย เลือกตามความสนใจ เรียกว่าวัดใจกันไป

หลักการคำนวณคะแนนมีหลายแบบ
- ใช้คะแนนดิบ นำคะแนนที่น้องได้มาวัดกันเลย
- นำคะแนนที่ได้ คูณกับค่าน้ำหนักที่ใช้ 
- นำคะแนนที่ได้ คูณตัวแปร ที่ทำให้คะแนนกลายเป็นฐานเดียวกัน แล้วคูณค่าน้ำหนัก เช่น การคำนวณ O-NET ที่ต้องนำคะแนนมาคูณ 3 ก่อน เพื่อทำให้คะแนนเต็ม 100 กลายเป็นฐานคะแนน 300 เพื่อให้เท่ากับคะแนนของ GAT/PAT ที่เต็ม 300
- ใช้เป็นคะแนนขั้นต่ำ บางสาขาอาจมีการกำหนดเป็นคะแนนขั้นต่ำ คือ เกณฑ์ของคะแนนที่ต้องได้ไม่น้อยกว่าที่สาขากำหนด

คำนวณคะแนน TCAS รูปแบบ Admission 2

คะแนนเต็ม 30,000 สูตรการคำนวณแบบง่าย ๆ คือ
- GPAX x 1,500 
- O-NET x 18
- GAT PAT x ค่าน้ำหนัก

เมื่อเข้าใจหลักการแล้ว เราลองมาคำนวณไปพร้อมกัน 

- GPAX (2.5 x 1,500) = 3,750 คะแนน
- O-NET ไทย 50 คะแนน, สังคม 50 คะแนน, วิทย์ 50 คะแนน, คณิต 50 คะแนน และอังกฤษ 50 คะแนน (250 x 18) = 4,500 คะแนน
- GAT (250 x 30) = 7,500 คะแนน
- PAT (200 x 20) = 4,000 คะแนน
= 19,750 คะแนน

จากนั้นน้องก็นำคะแนนที่ได้นี้ไปเปรียบเทียบกับคะแนนต่ำสุดของปีที่แล้ว หรือสามปีย้อนหลัง ก็จะทำให้เราสามารถวางแผนได้ว่า เราควรจะเลือกคณะไหน พร้อมกับประเมินโอกาสสอบติดได้ด้วยตัวเอง

วิธีคำนวณคะแนน TCAS รอบ Admission >> Click
 

3. ปรับแผน เมื่อคะแนนน้อย หลุดเป้าหมาย

ถ้าคำนวณคะแนนแล้วพบว่า มีความเสี่ยงที่จะหลุดจากเป้าหมาย พี่นัทยังมีทางรอดมาฝากค่ะ 
 

ทางรอดที่ 1 เก็บคณะเดิม เติมมหาวิทยาลัยใหม่

 แนวทางนี้คือพวกยึดสาขาที่อยากเรียนเป็นหลัก แต่เปลี่ยนมหาวิทยาลัยใหม่ เลือกสถาบันที่มีคะแนนลดลงมา ผลที่ได้คือได้เรียนในสาขาที่ต้องการโดยไม่ยึดติดสถาบัน 

ทางรอดที่ 2 เปลี่ยนคณะใหม่ มหาวิทยาลัยเดิม

อีกแนวทางที่เป็นที่นิยมคือ เปลี่ยนคณะใหม่ไปเลย แต่ขอคงไว้ที่มหาวิทยาลัยเดิม คณะไหน สาขาใดก็ได้ ที่คะแนนถึงหรือมีลุ้น แบบนี้คือสายยึดติดสถาบันเป็นหลัก ถึงจะเป็นที่นิยม แต่พี่นัทไม่แนะนำ

ทางรอดที่ 3 เปลี่ยนคณะใหม่ แต่สไตล์เดิม  

เปลี่ยนไปเลือกสาขาที่ใกล้เคียงกับเป้าหมาย อาจไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง โดยไม่ยึดติดกับสถาบัน ซึ่งจะทำให้น้อง ๆ ค้นพบทางเลือกใหม่ ๆ ที่อาจจะไม่ตรงกับทางในฝัน แต่ก็ไม่ถึงกับต้องหลงทางไปในคณะที่ไม่เคยฝัน

ไม่ว่าคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไร เรายังไปต่อได้ ถ้ารู้จักปรับเปลี่ยนแผน ที่สำคัญ...สติค่ะ

เพราะสติคุมชีวิต ความคิดคุมจิตใจ

พี่นัท ทรูปลูกปัญญา