ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย นอกจากจะต้องรู้เนื้อหาที่จะออกสอบ รู้คำตอบที่ถูกต้อง เพื่อทำให้เป็นคะแนนแล้ว เรื่องคะแนนยังมีสิ่งสำคัญและจำเป็นต้องรู้อีก 5 เรื่องด้วยกัน จะเป็นเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามพี่นัทไปดูกันเลย
- คะแนนในกลุ่มข้อสอบกลาง ได้แก่ O-NET, GAT/PAT และวิชาสามัญ
- คะแนนในกลุ่มวิชาเฉพาะ เช่น วิชาเฉพาะแพทย์, นิติศาสตร์, รัฐศาสตร์หรือ สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ฯลฯ
- คะแนนวัดความสามารถทางภาษา เช่น TOEFL, IELTS, SAT, CU -TEP, TU-GET ฯลฯ
- คะแนนสอบภาคปฏิบัติ เช่น วาดรูป ร้องเพลง เล่นดนตรี นาฏศิลป์ไทย - สากล ฯลฯ
- คะแนนสอบสัมภาษณ์
- คะแนนสอบตรงของมหาวิทยาลัย
ในการเข้ามหาวิทยาลัยมีการใช้คะแนนจากการสอบประเภทเดียวกัน เช่น ใช้ GAT/PAT อย่างเดียว หรือ ใช้วิชาสามัญอย่างเดียว เพียงแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้คะแนนประเภทเดียวกันทั้งหมด แต่เป็นการจับกลุ่มจับคู่การใช้คะแนนประเภทต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น
- ใช้ GAT/PAT + O-NET + GPAX
- ใช้ GAT/PAT + วิชาสามัญ
- ใช้ GAT/PAT + วิชาเฉพาะ
- วิชาสามัญ + วิชาเฉพาะ
- GAT/PAT + วิชาสามัญ + วิชาเฉพาะ
ในการเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ใช่รู้แค่ผลคะแนนสอบเท่านั้น น้อง ๆ จะต้องรู้ว่าในแต่ละวิชาที่เป็นองค์ประกอบ นำมาคิดเป็นค่าน้ำหนักเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้นำคะแนนสอบที่ได้ มาคำนวณเป็นคะแนนรวม เพื่อใช้ในการคัดเลือก และประเมินความเสี่ยง ความน่าลุ้น และความเหมาะสมในการเลือกคณะ
คะแนนขั้นต่ำคือ เกณฑ์ของคะแนนที่ต้องทำให้ได้ไม่น้อยกว่าที่สาขากำหนด โดยทำหน้าที่เป็นเกณฑ์ผ่านคุณสมบัติ แต่ไม่นำมาใช้คิดค่าน้ำหนักคำนวณคะแนน
คะแนนต่าง ๆ ในการเข้ามหาวิทยาลัย ไม่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดไป มีอายุการใช้งานเป็นตัวกำหนด เช่น GAT/PAT, CU-TEP, SAT, IELTS มีอายุ 2 ปี ส่วนวิชาสามัญ วิชาเฉพาะแพทย์ มีอายุ 1 ปี ส่วน O-NET ไม่มีวันหมดอายุ อยู่กันยาวไป
เรื่องของคะแนนจึงไม่ได้มีสิ่งต้องรู้แค่ว่า เราได้คะแนนเท่าไหร่ แต่ต้องรู้เงื่อนไข ข้อกำหนด กติกาต่าง ๆ เกี่ยวกับคะแนนด้วย จะได้นำไปใช้วางแผนออกแบบการเลือกคณะให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นระบบ TCAS หลักสูตรนานาชาติ หรือการรับตรงอื่น ๆ นอกระบบ TCAS
พี่นัท ปลูกปัญญา