Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
ก้าวข้ามระบบการศึกษาไทย ด้วยหลักสูตรนานาชาติ A-Level และ IB Program

  Favorite
          ปัญหาน่าหนักใจของผู้ปกครองสมัยนี้ นอกจากเรื่องสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว ปัญหาคุณภาพการศึกษาถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวส่วนมากเป็นกังวล และต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมมากมายก่อนจะตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูก 
 
          สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยันปัญหาการศึกษาของประเทศไทยก็คือโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือ PISA (Programme for International Student Assessment) โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการก็เพื่อประเมินคุณภาพของระบบการศึกษาในประเทศต่าง ๆ มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการใน 70 ประเทศทั่วโลก จัดทดสอบทุก ๆ 3 ปี เน้นการประเมินความสามารถด้านความรู้และทักษะการใช้ชีวิตเป็นหลัก ไม่ได้มุ่งเน้นความรู้ในตำราหรือการท่องจำตามหลักสูตร และจากผลการประเมินพบว่า ประเทศไทยมีคะแนนสอบไม่ผ่านมาตรฐาน แพ้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามไปแบบหมดรูป
 
          หลายคนอาจคิดว่าประเทศไทยไม่ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา แต่เปล่าเลย ประเทศไทยทุ่มงบประมาณกว่า 4% ของรายได้ประเทศไปกับเรื่องนี้ นักเรียนของเรามีชั่วโมงเรียนกว่า 1,200 ชั่วโมงต่อปี เราปรับปรุงระบบค่าตอบแทนครูและคัดกรองครูที่มีความสามารถจริง ๆ แต่ปัญหาก็คือ เรากำลังเดินมาผิดทาง จากคำแนะนำด้านการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) นักเรียนควรมีชั่วโมงเรียนประมาณ 800 ชั่วโมงต่อปี ขณะที่เด็กไทยมีชั่วโมงเรียนมากกว่าที่ยูเนสโก้แนะนำ 500 ชั่วโมงต่อปี แถมผลการเรียนของนักเรียนก็ไม่ได้ดีขึ้นไปตามชั่วโมงเรียน แต่กลับแย่ลงอีกด้วย
 
          ความพยายามในการแก้ปัญหาดังกล่าวก็คือ กิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” โดยภาครัฐคาดหวังนักเรียนเลิกเรียนไวขึ้น แล้วใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมตามความสนใจ และใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเด็ก ๆ ก็ยังไม่มีสิทธิ์เลือกกิจกรรมที่ตนเองสนใจจริง ๆ เพราะโรงเรียนก็ยังเป็นฝ่ายจัดกิจกรรมให้เด็กเช่นเดิม ประกอบกับความไม่พร้อมด้านการจัดการเรียนการสอนจึงยังไม่มีกิจกรรมที่หลากหลายมากนัก เพราะเด็กแต่ละคนมีความถนัดแตกต่างกัน การเรียนในหลักสูตรเหมือน ๆ กันจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก การวัดผลด้วยวิธีการเดียวกันทั้งหมด ก็ยิ่งซ้ำเติมให้เด็กท้อแท้ และหมดหวังในการเรียนมากยิ่งขึ้น ทางออกของปัญหานี้น่าจะอยู่ที่การจัดการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างรอบด้าน ทั้งด้านวิชาการ และการเสริมทักษะตามความสนใจ
 
          พ่อแม่หลายคนจึงเริ่มให้ความสนใจโรงเรียนนานาชาติมากขึ้น เพราะโรงเรียนนานาชาติจะมีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ และมีความพร้อมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ได้มากกว่า เป็นโอกาสให้ลูก ๆ ได้ค้นหาความถนัดของตัวเอง และได้ทำในสิ่งที่ชอบ ซึ่งนี่จะนำความสำเร็จและความภาคภูมิใจมาสู่เด็กทุกคน
 
          ในประเทศมีโรงเรียนนานาชาติก่อตั้งขึ้นมากมาย และมีหลายระบบการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นระบบอเมริกัน ที่มีจุดเด่นคือเน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นสนุกและทำกิจกรรม ก่อนจะเริ่มเรียนด้านวิชาการที่เข้มข้นขึ้น ระบบอังกฤษ จุดเด่นคือความเข้มข้นด้านวิชาการที่มาพร้อมกับการฝึกทักษะผ่านการเล่นของเด็ก ๆ เน้นทักษะการเข้าสังคม และระเบียบวินัย หลักสูตรสิงคโปร์ เน้นการเรียนวิชาการเป็นหลัก และต้องเรียนภาษาถึง 3 ภาษา เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่ฉายแววความถนัดด้านภาษา เป็นต้น
 
          สำหรับโรงเรียนนานาชาตินั้น การนำหลักสูตรต่าง ๆมาใช้นั้นมีหลายรูปแบบ อาทิ บางโรงเรียนใช้ระบบการศึกษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลจนจบม6  บางโรงเรียนใช้ระบบอังกฤษตลอดแต่มาจบ 2 ปีสุดท้ายด้วย IB ก็มี หรือบางโรงเรียนก็ใช้ระบบ IB ตั้งแต่อนุบาลถึงจบก็มี ทั้งนี้จึงอยากนำเสนอหลักสูตรการศึกษาที่สำคัญ 2 หลักสูตร ที่หลายโรงเรียนได้ใช้สำหรับหลักสูตรการศึกษา 2 ปีสุดท้าย (หรือเทียบเท่า ม. 5 - ม. 6) ที่ควรต้องทำความรู้จัก นั่นคือ A Level และ IB
 

 

หลักสูตร A Level

The General Certificate of Education Advanced Level Certificate – GCE A Level เรียกอีกอย่างว่า Sixth Form คือวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลาย (Y 12-13) ของประเทศในเครือสหราชอาณาจักร ผลการเรียนในระบบ A Level สามารถใช้เป็นเครื่องการันตีความรู้ความสามารถทางวิชาการของผู้เรียน สำหรับเรียนต่อในสหราชอาณาจักร หรือในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้
 
ก่อนจะทำความรู้จักกับหลักสูตร A Level ต้องทราบก่อนว่าในหลักสูตรแบบอังกฤษ นักเรียนสามารถขึ้นชั้นเรียนใหม่ได้ทันทีที่จบการศึกษาในแต่ละชั้น เรื่อยไปจนถึงอายุ 16 ปี หรือก่อนขึ้น Y 12 จะมีการสอบวัดความรู้ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ และผลการสอบนี้จะนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อพิจารณารับเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยต่อไป การสอบที่ว่านี้มี 2 ระดับ รายละเอียดดังต่อไปนี้
 

 

การสอบ GCSE (General Certificate of Secondary Education)

เป็นการสอบประเมินก่อนเข้าเรียนในระดับ A Level หรือ Sixth Form โดยนักเรียนต้องเลือกสอบประมาณ 6 – 10 วิชาหลัก ๆ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ และศิลปะ เป็นต้น ผลการสอบมีทั้งหมด 7 ระดับจากเกรด A – G นักเรียนต้องสอบได้เกรด C ขึ้นไปจึงถือว่าสอบผ่าน และสามารถเรียนต่อในหลักสูตร A Level สำหรับเตรียมพร้อมเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยต่อไป
 

 

การสอบ A Level (Advanced Level)

หลังจากผ่านการสอบ GCSE และได้เข้าเรียนในหลักสูตร A Level แล้ว ก่อนจบการศึกษาจะต้องมีการวัดความรู้ความสามารถของนักเรียน การสอบนี้มีวิชาให้เลือกหลายวิชา ซึ่งนักเรียนจะเลือกเพียง 3-4 วิชาที่สนใจ และมักเกี่ยวข้องกับสาขาที่อยากเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีเกณฑ์คะแนนที่ต่างกันในการรับเข้าศึกษาต่อ จากผลการสอบ A Level ที่มี 5 ระดับ ตั้งแต่ คือ A – E 
 
จุดเด่นของหลักสูตร A Level ก็คือ ด็กสามารถเลือกวิชาลงได้เองตามความชอบและถนัด สามารถเรียนรู้อย่างเจาะลึกในสิ่งที่สนใจจริง ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนวิชาที่ไม่ถนัด ส่งผลให้ผลการเรียนไม่สะท้อนความสามารถของเด็ก ๆ และมิหนำซ้ำเป็นตัวดึงเกรดเฉลี่ยต่ำลง หลักสูตร A Level จึงเรียกได้ว่าเป็นการดึงเอาศักยภาพด้านที่ถนัดของเด็กมาพัฒนาและนำไปสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นในสาขาที่ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถจริง ๆ และจะมีความสุขกับการเรียนและการใช้ชีวิตต่อไป 
 
จากจุดเด่นของหลักสูตรที่เน้นการส่งเสริมศักยภาพให้กับเด็ก ทำให้โรงเรียนนานาชาติที่สามารถตอบโจทย์การศึกษาในรูปแบบนี้ได้จะต้องมีความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย 
 

ตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติที่สอนด้วยหลักสูตร A-Level

1. Bangkok Prep

Bangkok Prep หรือ BANGKOK INTERNATIONAL PREPARATORY & SECONDARY SCHOOL โรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถือเป็นโรงเรียนนานาชาติสุขุมวิทที่เดินทางสะดวก และตอบโจทย์พ่อแม่ที่ทำงานในเมือง โรงเรียนนานาชาติแห่งนี้ทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับ Early Year จนถึง Year 13 โดยใช้หลักสูตรและวิธีการเรียนการสอนของประเทศอังกฤษ ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องการปลูกฝังระเบียบวินัยและค่านิยมที่ดีให้กับเด็ก ๆ เน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการในช่วงวัยเด็ก และลงลึกในสาขาวิชาในช่วงชั้นมัธยม
 

2. Harrow International School

โรงเรียนนานาชาติที่มีต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ หากผู้ปกครองคนไหนต้องการโรงเรียนที่มีสังคมแบบผู้ดีอังกฤษ มีระเบียบวินัย และทำการเรียนการสอนในหลักสูตรอังกฤษ ที่นี่เป็นอีกโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพที่น่าสนใจ อย่างที่บอกว่า Harrow International School ในประเทศอังกฤษเปรียบเสมือนบ้านที่ฟูมฟักชนชั้นสูงและผู้นำประเทศ ทำให้เมื่อมาเปิดการเรียนการสอนที่เมืองไทยก็จะมุ่งเน้นสร้างความเป็นผู้นำให้กับเด็ก ๆ หลักสูตรการเรียนรู้ของที่นี่จึงจัดให้มี Leadership in Action หรือแนวทางการสร้างผู้นำด้วยทักษะต่าง ๆ นอกเหนือจากด้านวิชาการ
Sixth Form ซึ่งโรงเรียนได้จัดให้มี Sixth Form Centre หรือศูนย์การเรียนรู้สำหรับนักเรียน ที่เปิดพื้นที่สำหรับการศึกษาค้นคว้า ทำงานร่วมกัน รวมทั้งแนะแนวการเรียนต่อยังต่างประเทศ 
 
 

หลักสูตร International Baccalaureate (IB)

หลักสูตร IB หรือ International Baccalaureate เป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นสำหรับใช้เป็นมาตรฐานกลางของระบบการศึกษาที่ใช้หลักสูตร IB แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ Primary Years Program เริ่มจากเด็กอายุ 3-11 ปี ระดับ Middle Years Program สำหรับเด็กจากอายุ  11-16 ปี และระดับ Diploma Program (IBDP) ใช้เวลาเรียน 2 ปี จากอายุ 16-18 ปีโดยประมาณ และเมื่อจบการเรียนในระดับนี้จะมีการจัดสอบวัดระดับพร้อมกันทั่วโลก โดยใช้ข้อสอบกลางจาก International Baccalaureate Organization
 
หลักสูตร IBDP ประกอบไปด้วย 6 กลุ่มวิชา ได้แก่ ภาษาและวรรณกรรม ทักษะการใช้ภาษา ปัจเจกและสังคม วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศิลปะ ซึ่งนักเรียนต้องเรียนให้ครบทุก 6 กลุ่มวิชาและสามารถปรับใช้ทฤษฎีต่าง ๆ การเขียนเรียงความและลงมือปฏิบัติจากวิชาการเรียนที่มา รวมทั้งต้องทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์
จุดเด่นของหลักสูตร IB ก็คือ ความเป็นหลักสูตรที่ได้มาตรฐานเดียวทั่วโลก (เช่นเดียวกับระบบอังกฤษที่ได้มาตรฐานเดียวทั่วโลกเช่นกัน) และยังมีความรอบรู้เรื่องนานาชาติ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม และความหลากหลายด้านภาษา และแม้ว่าหลักสูตร IB จะมี 3 ระดับการเรียน แต่โรงเรียนไม่จำเป็นต้องจัดหลักสูตรนี้ในทุกระดับ สามารถแยกสอนแค่บางระดับก็ได้ และนักเรียนก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบ IB ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบหลักสูตร
 
โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยที่ทำการเรียนการสอนในหลักสูตร IB มีเป็นจำนวนมาก ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นโรงเรียนระบบอังกฤษ อเมริกา หรือสิงคโปร์เท่านั้น 
 

ตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติที่สอนด้วยหลักสูตร IB Program

1. KIS 

โรงเรียนนานาชาติ KIS ตั้งอยู่ในย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นย่านที่เดินทางสะดวกและอยู่ในระแวกที่พักอาศัย จึงค่อนข้างได้เปรียบในแง่ของการเดินทาง โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญการศึกษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่นี่ทำการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตร IB ทั้งในระดับประถมและมัธยม ซึ่งเป็นหลักสูตรนานาชาติที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศและมีโรงเรียนนานาชาติจำนวนมากเปิดสอนในหลักสูตรนี้ โรงเรียนนานาชาติ KIS เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและมุ่งพัฒนาทักษะ ความสามารถของเด็ก ๆ แบบเฉพาะบุคคล 
 

2. NIST International School

NIST International School เป็นโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพ ที่อยู่ใจกลางเมืองย่านอโศก อยู่ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ เป็นโรงเรียนแรกในประเทศไทยที่จัดการเรียนการสอนแบบ IB เต็มรูปแบบ แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เลือกเรียนหลักสูตร IB หรือเลือกผสมผสานกับหลักสูตรที่ทางโรงเรียนจัดให้ก็ได้
 
 
Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us