13,343 views
Favorite
สาขาวิชาพัฒนาการท่องเที่ยว คณะพัฒนาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ชื่อคณะก็คงบอกอยู่แล้วว่า พัฒนาการท่องเที่ยว เราเรียนเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน โดยเฉพาะในแหล่งพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เชิงเกษตร ชุมชน เพื่อการต่อยอดและส่งเสริมสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ทุกคนได้เล็งเห็นความสำคัญในสถานที่นั้น ๆ การเรียนของเราจึงได้มีการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวและลงพื้นที่ชุมชนอยู่บ่อย ๆ การเรียนภาษาอังกฤษเองก็เป็นวิชาหลักที่ต้องให้ความสำคัญอย่างแน่นอนและยังมีภาษาที่สามอย่างภาษาจีนที่เพิ่มเข้ามาในหลักสูตรอีกด้วย
1. ชอบท่องเที่ยว ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
แน่นอนว่าอยากเรียนท่องเที่ยว จะไม่ชอบท่องเที่ยวได้ไง เราก็ต้องเป็นคนชอบท่องเที่ยว ชอบเดินทาง ไปในที่ต่าง ๆ และไปเพื่อเรียนรู้ ศึกษา สำรวจแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นได้
2. รักงานบริการ มีความอดทน
งานส่วนใหญ่ของการท่องเที่ยว จะเกี่ยวข้องกับผู้คนเป็นส่วนใหญ่ อย่างอาชีพมัคคุเทศก์ ที่ต้องมีการทำงานและสื่อสารกับผู้คนโดยตรง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีจิตใจที่รักงานบริการ ด้วยใจจริง ๆ มีความอดทดต่อสภาวะที่หลากหลายได้
3. ชอบการพัฒนา
เรียนท่องเที่ยวจะต้องมีการไปสำรวจ และลงพื้นที่ในชุมชนตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่านำมาซึ่งการพัฒนาให้ดีขึ้น ยิ่งถ้าเราพัฒนาได้ดีและรวดเร็วเท่าไหร่ การท่องเที่ยวในประเทศของเราก็จะยิ่งเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น
4. ชอบภาษา
แน่นอนว่าต้องมีการติดต่อสื่อสารเข้ามาอยู่แล้ว สำหรับการเรียนท่องเที่ยว การเรียนรู้ภาษาที่ 3 หรือได้ภาษาที่มากกว่านั้น ก็เป็นเหมือนโอกาสหรือใบเบิกทาง ให้เราได้ทำงานและเรียนรู้ได้กว้างมากยิ่งขึ้น
5. มีความละเอียดรอบคอบ ใส่ใจ
ความละเอียดรอบคอบ ใส่ใจ ควรมีอยู่ในทุกเรื่อง การทำงานในด้านการบริการ หากเราไม่มีข้อนี้ ก็จะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย
การเรียนพัฒนาการท่องเที่ยว จะเน้นเชิงการเรียนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน การเรียนในปี 1 จะเรียนเกี่ยวกับพื้นฐานความรู้ทั่วไป ศึกษาแนวคิดพื้นฐานและธรรมชาติของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ
ปี 2 เน้นการเรียนท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชุมชน และลงสำรวจชุมชนในแหล่งการท่องเที่ยว รวมไปถึงอุตสาหกรรมภาคการบริการ ศึกษาองค์ประกอบที่สำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว
ปี 3 ก็จะเรียนเชิงปฏิบัติเยอะขึ้น วิชาชีพมากขึ้น เน้นการจัดการและบริหารทรัพยากรในแหล่งท่องเที่ยว และยังมีการฝึกงานภาคฤดูร้อนอีกด้วย โดยจะให้เราเลือกฝึกงานในหน่วยงานของภาครัฐ เช่น อุทยานแห่งชาติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ตำรวจท่องเที่ยว เป็นต้น
ส่วนปี 4 ปีสุดท้าย ก็จะเน้นการทำวิจัย บูรณาการความรู้ที่ได้เรียนมา และการปฏิบัติสหกิจศึกษาในหน่วยงานที่เราสนใจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ
นอกจากนั้นเรายังมีการออกทริปเดินทางแบ่งออกเป็น 4 ทริป 4 ภาคทั่วประเทศไทย โดยนักศึกษาเป็นคนดำเนินการเองทั้งหมด ตั้งแต่จัดทำโปรแกรมทัวร์ ประสานงาน ติดต่อสถานที่ท่องเที่ยวและที่พัก เพื่อฝึกทักษะการนำเที่ยว ซึ่งขอบอกเลยว่า สนุกมาก ๆ เลยล่ะ ส่วนวิชาการอื่น ๆ เราก็เรียนนะ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ กฎหมาย จิตวิทยา การบริการจัดการ รวมไปถึงการบริการในภาคอุตสาหกรรมการโรงแรมและที่พักอีกด้วย
เราเองเป็นคนที่รักการในการเดินทางอยู่แล้ว ชอบการท่องเที่ยวที่เราได้พบเจอวัฒนธรรมใหม่ ๆ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ นอกจากนั้นเราก็อยากออกไปท่องเที่ยวที่ทำให้เราได้อะไรมากกว่าการไปท่องเที่ยวพักผ่อนเฉย ๆ เราอยากเห็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติไม่เสื่อมโทรมและไหลไปตามกระแสนิยม อยากให้แหล่งท่องเที่ยวมีระบบการจัดการที่ดี เลยเกิดความคิดที่เราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยค่ะ แล้วอีกอย่างสำหรับหลักสูตรนี้เมื่อเรียนจบแล้วยังมีอาชีพทางเลือกที่ไม่ใช่แค่มัคคุเทศก์ด้วยค่ะ
เริ่มจากการออกเดินทางแล้วเราได้พบเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ วัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่เราอยู่ วิถีชีวิตของแต่ละท้องถิ่น เราได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น แล้วเราก็อยากเห็นสิ่งเหล่านี้ให้คงอยู่ตลอดไปไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สำหรับคนที่อยากจะเข้าเรียนในสาขานี้ ชอบเที่ยวอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องรักในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และมีใจรักในการบริการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กท่องเที่ยวควรจะมีนะ!
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงเป็นรายได้หลักของประเทศที่ทำให้รายได้ให้กับประเทศมากมาย ซึ่งถ้าเราอยากให้การท่องเที่ยวบ้านเรายังคงเป็นที่น่าสนใจต่อนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศอยู่นั้น ก็จะต้องมีการพัฒนาในแหล่งการท่องเที่ยวให้มีระบบการบริหารจัดการที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมโทรมและรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่มากที่สุด เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวก็ถือได้ว่าเป็นหน้าตาของประเทศเลยก็ว่าได้
มีความสุขตั้งแต่เลือกเรียนสาขานี้แล้วค่ะ อย่างที่หลาย ๆ คนบอกว่าถ้าเราเลือกเรียนในสิ่งที่เราชอบไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนเราจะมีความสุขและสนุกไปกับมัน ซึ่งมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ มีความอบอุ่นตั้งแต่แรกเข้ามหาลัยแห่งนี้ด้วยค่ะ เราอยู่กันแบบพี่น้องเพื่อนพ้องที่คอยช่วยเหลือกัน กับเพื่อน ๆ ในสาขาก็สนิทกันเร็วมาก สามารถทำงานร่วมกันได้หมด ส่วนใหญ่เราจะทำกิจกรรมร่วมกันทุกคน ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมให้ทำตลอด อาจารย์ประจำสาขาก็ให้ความใกล้ชิดกับนักศึกษามาก ทำให้การเรียนที่นี้ไม่ยากระบบการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาของที่นี่สอนอะไรเราได้หลายอย่างมาก แม่โจ้จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาลัยชีวิตค่ะ
จบคณะนี้ จริง ๆ ไม่ใช่แค่เป็นมัคคุเทศก์ อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษาก็มีอีกมากมาย ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว แผนกขาย แผนกรับจอง แผนกต้อนรับหรืองานธุรการในธุรกิจนำเที่ยวและธุรกิจโรงแรม หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
- รอบที่ 1 การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน
- รอบที่ 2 การรับแบบโควตา พิจารณาผลการเรียนและแฟ้มสะสมผลงาน
- รอบที่ 3 การรับตรงร่วมกัน
- รอบที่ 5 การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
- ม. 6 หรือเทียบเท่า ปวช. กศน. หรือเด็กซิ่ว สมัครได้
- GPAX ไม่ต่ำกว่า 2.00
- มีคุณสมบัติตามเกณฑ์และเงื่อนไขของมหาวิทยาลัย
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมสิ่งใหม่ พี่ก็อยากแนะนำให้น้องได้มาทำความรู้จักกับ คณะพัฒนาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่รับรองว่าการเรียนที่นี้จะสอนให้น้องได้เรียนรู้ และรู้จักอีกหลาย ๆ ด้าน ของการท่องเที่ยวแน่นอน แล้วเราจะเข้าใจว่า ทำไมเราถึงต้องเรียนท่องเที่ยว
เรื่องโดย เกษรพี รัตนนุกิจ
