สวัสดีค่ะ ในบทความนี้ “พี่พิงค์” จะพาน้อง ๆ มาทำความรู้จักกับการเรียนหลักสูตรนานาชาติ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า ภาคอินเตอร์ ในมหาวิทยาลัยกันให้มากขึ้น หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าภาคไทยหรือภาคปกติกับภาคอินเตอร์นี่มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน มีไลฟ์สไตล์การเรียน การทำกิจกรรมที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง แล้วตัวเราเองเหมาะกับการเรียนภาคอินเตอร์มากน้อยแค่ไหนกัน เดี๋ยวเราไปดูกันในบทความนี้ได้เลยค่ะ

ภาษาจำเป็นมากไหม

พี่พิงค์ต้องบอกเลยว่าภาษาเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเลยค่ะ เพราะในหลักสูตรอินเตอร์เราก็เรียนทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะด้วยว่าคณะนั้น ๆ ต้องแน่นภาษาขนาดไหน แต่ยังไงพื้นฐานก็ต้องได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเข้าได้แต่คนที่เรียนอินเตอร์มา คนที่เรียนภาคไทยก็สามารถเข้าได้ถ้ามีพื้นฐานภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ที่ทางคณะบอกไว้ เพราะในภาคอินเตอร์ตอนนี้เด็กไทยก็มีไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

คุณสมบัติที่ต้องมี

คุณสมบัติที่ต้องมีอย่างแรกที่สำคัญที่สุดคือ คะแนนสอบตามเกณฑ์คณะ แต่ละคณะจะแตกต่างกันไป เราต้องทำคะแนนให้ถึงก่อนแล้วค่อยไปสอบข้อสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ของคณะในลำดับต่อไป ส่วนเรื่องคุณสมบัติก็ไม่ตายตัว เพียงแต่ว่าอยากให้เลือกคณะที่น้องๆชอบจริงๆ อย่างอักษรอาจจะชอบอ่านหนังสือ ชอบคำนวณก็อยู่บัญชี เพราะยังไงก็ต้องเรียนไปอีกสี่ปีค่ะ

สอบอะไรบ้าง

แต่ละคณะสอบไม่เหมือนกัน แต่ข้อสอบจะเป็นข้อสอบนานาชาติ เช่น ไอเอล (IELTS) แซท (SAT) และก็สอบข้อสอบทางมหาวิทยาลัยอีกทีในส่วนข้อเขียนกับสัมภาษณ์ เช่นอักษรสอบไอเอลกับซียูแอท (CU-AAT) ถ้าคะแนนถึงก็มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ต่อ วิศวะสอบไอเอล โทเฟล (TOFEL) และแซททั้งแซทสายคณิต (SAT MATH) กับแซทสายวิทย์ (SAT PHYSICS/ SAT CHEMISTRY) แต่ละคณะก็โฟกัสไม่เหมือนกัน อย่างบัญชีก็เอาคะแนนแซทแมทสูงกว่านิเทศ อักษรก็คะแนนภาษาสูงมากแต่ไม่ดูเรื่องของคะแนนคณิตเลย

ไลฟ์สไตล์ของเด็กอินเตอร์

จริง ๆ ก็เหมือนกับเด็กภาคไทยนั่นแหละค่ะ บางคนคิดว่าเรียนอินเตอร์จะเป็นสังคมไฮโซฟุ่มเฟือย แต่ความจริงแล้วเหมือนกับภาคไทยเลย มีกิจกรรมที่ทำร่วมกันระหว่างเด็กอินเตอร์กับภาคไทยด้วย เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไลฟ์สไตล์ของเด็กอินเตอร์ก็เหมือนกับเด็กมหาลัยคนอื่น ๆ เรียนตอนเช้าทำกิจกรรมตอนเย็น มีชมรมมีค่าย มีกิจกรรมต่าง ๆ เยอะแยะ แต่ไม่เหมือนมัธยมตรงที่เราต้องดูแลตัวเอง ไม่มีครูมาบังคับเรา อย่างวิชาเรียนถึงจะเรียนชั่วโมงน้อยกว่าแต่เวลาว่างเราก็ต้องเอาไปอ่านหนังสือเพราะเนื้อหามันเยอะมาก อะไรที่อ่านเองได้อาจารย์จะสั่งไปอ่านเองเป็น reading requirement ไปเลย เราก็ต้องพยายามตามเนื้อหาที่อาจารย์สอนและแบ่งเวลาตัวเองให้เป็นค่ะ

จบอินเตอร์ดียังไง มีโอกาสมากกว่าไหม

จบอินเตอร์มันดีตรงที่เราได้ภาษา เพราะภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงาน ในเรื่องของการสื่อสารเราก็ต้องใช้ภาษา แต่ถามว่ามีโอกาสมากกว่าปกติไหมก็อาจจะได้รับการพิจารณาตอนไปสมัครงานเป็นพิเศษเพราะเรามีความสามารถด้านภาษาเพิ่มขึ้นมาด้วย แต่เอาจริงๆมันอยู่ที่ว่าที่ไหนคือที่ของเรามากกว่า อย่างบางคนไม่ได้ภาษาแต่มีความสามารถพิเศษในการใช้โปรแกรมต่างๆก็คงได้รับการพิจารณาเหมือนกัน จริงๆแล้วมันอยู่ที่ว่าที่ไหนคือที่ของเรามากกว่า ถ้ามันเป็นที่ที่เหมาะสมกับความสามารถและศักยภาพของเราที่นั่นก็ถือว่าเป็นโอกาสของเรา

          จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วภาคอินเตอร์หรือภาคไทยในมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้แตกต่างกันในเรื่องของไลฟ์สไตล์มากเท่าไหร่ จะมีแค่เรื่องของการสอบเข้าที่ใช้ข้อสอบที่แตกต่างกัน และก็เรื่องของการเรียนที่ทางภาคอินเตอร์จะเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเท่านั้น ถ้าน้อง ๆ คนไหนสนใจอยากจะเข้าภาคอินเตอร์ก็อย่ากลัวที่จะลองไปสอบดู เพราะจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเด็กอินเตอร์เท่านั้นที่จะเข้าภาคอินเตอร์แต่หากน้อง ๆ มีความตั้งใจและความพยายามเราก็สามารถสอบเข้าภาคการศึกษาที่น้องใฝ่ฝันได้อย่างแน่นอนค่ะ

เรื่อง พิชญา วัชโรดมประเสริฐ