ชีวิตวัยเรียนนอกจากเรื่องทั่วไปแล้ว สิ่งที่ทำให้เกิดความกังวลขึ้นมาได้คือช่วงเวลาที่คะแนนออก นาทีระทึกที่มาพร้อมความลุ้นและความกดดัน ไม่ว่าจะเป็นคะแนนอะไรก็ตาม มีผลต่อจิตใจแทบทั้งนั้น เพราะอย่างที่รู้กันว่าคะแนนสอบมีผลต่อการศึกษาต่อ เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นสิ่งที่สำคัญกับเด็กทุกคนคือพ่อแม่และคนในครอบครัว กำลังใจใกล้ตัวที่น้อง ๆ ทุกคนอยากได้ ไม้ว่าผลจะออกมาดีหรือแย่ เชื่อเถอะว่าพ่อแม่คือส่วนสำคัญกับจิตใจของน้อง ๆ วัยเรียน โดยเฉพาะน้อง ม. 6 ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย แต่ถ้าลูกได้คะแนนสอบน้อยขึ้นมา ในฐานะพ่อแม่ควรเริ่มต้นกับเหตุการณ์นี้อย่างไร เรามาดูพร้อมกันเลยดีกว่า
เมื่อเหตุการณ์ที่เราทุกคนไม่อยากให้เกิดดันเกิดขึ้นมาแล้ว นั้นคือลูกได้คะแนนสอบน้อย สิ่งแรกที่เราอยากจะแนะนำคุณพ่อคุณแม่คือ เห็นคะแนนแล้วตกใจได้ ผิดหวังได้ แต่อย่าเพิ่งแสดงท่าทางหรือถ้อยคำที่มีผลทำให้ลูกของเราต้องรู้สึกแย่ในทันที แม้ว่าสิ่งที่เราอยากแสดงออกมาคือการตักเตือนให้ลูกรู้ ว่าได้คะแนนน้อยเพราะอะไร สาเหตุมาจากตรงไหน นั้นคือความหวังดีที่พ่อแม่หลายท่านคิดและอยากจะสอนลูก แต่ในสถานการณ์กดดันแบบนี้ น้อง ๆ กำลังรู้สึกผิดหวังกับคะแนน หรือบางคนได้น้อยแล้วอาจจะโทษตัวเอง เป็นเรื่องที่สร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้กับน้อง ๆ ทุกคนอยู่หลังคะแนนออก เด็กวัยนี้อยู่ในวัยอยากรู้อยากลอง โตพอที่จะรับฟังเหตุผลและการตักเตือน แต่มีข้อจำกัดตรงที่สภาพจิตใจที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ การถูกตักเตือนตอนที่กดดันอยู่จะยิ่งทำให้น้อง ๆ รู้สึกแย่เข้าไปอีก แนะนำว่าปล่อยให้น้อง ๆ มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นกว่าเดิมก่อน หายเครียดก่อน หลังจากนั้นถึงค่อยเริ่มสอน ตักเตือนและอธิบายเหตุผลด้วยท่าทางและคำพูดที่ดีในเรื่องคะแนนที่ออกมาน้อย เชื่อว่าพอน้องหายเครียดแล้ว สติในการรับฟังเหตุผลที่พ่อแม่สอนจะดีขึ้นตามมาแน่นอน วิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีกับตัวน้อง ๆ เอง รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะยังไงความสัมพันธ์ในครอบครัวก็สำคัญที่สุด
พ่อแม่คือสิ่งสำคัญที่สร้างลูกมา เราให้ชีวิตแล้วเราก็ต้องให้กำลังใจลูกในทุกเหตุการณ์ โดยเฉพาะช่วงเครียดหลังคะแนนสอบออกแล้วได้น้อยแบบนี้ เชื่อว่าคนที่ผิดหวังไม่ใช่แค่พ่อแม่ ตัวลูกเองก็ผิดหวังไม่ต่างกัน การได้กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นเรื่องที่น้อง ๆ ต้องการ บางคนไม่เอ่ยปากแต่ในใจลึก ๆ ก็อยากได้กำลังใจแรกจากพ่อแม่กันทั้งนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตให้ดีว่าสภาพจิตใจลูกตอนนี้เป็นแบบไหน เด็กบางคนแสดงออกว่าเสียใจน้อย แต่คนเราได้คะแนนน้อยยังไงก็ต้องรู้สึกเสียใจอยู่แล้ว การสังเกตว่าลูกมีอาการแบบไหนเป็นเรื่องสำคัญ เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการให้กำลังใจด้วยคำพูดสั้น ๆ ว่า “ไม่เป็นไร ทำเต็มที่แล้ว” เป็นคำธรรมดาแต่สร้างพลังให้ลูกได้ ยิ่งคำปลอบใจที่มาจากพ่อแม่ เป็นอะไรที่ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นแล้วก็มีความหวังอีกครั้งได้แน่นอน ครอบครัวเดียวกันไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรเข้ามา สิ่งสำคัญคือกำลังใจที่มีให้กันในทุกเหตุการณ์ จะช่วยให้ลูกมีแรงสู้ใหม่อีกครั้งได้แน่นอน
หลังจากรู้ว่าคะแนนน้อยแล้ว สิ่งที่ตามมาหลังจากนี้คือการหาข้อมูลเรื่อง TCAS คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความรู้เรื่องระบบการเข้ามหาวิทยาลัย เราต้องมีข้อมูลเพื่อเป็นหลักให้ลูก ศึกษารายละเอียดการเปิดรับสมัครในรอบต่าง ๆ ติดตามข่าวสารการเข้ามหาวิทยาลัยไว้ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะการที่เรามีความรู้ทันเหตุการณ์ ก็สามารถแก้ปัญหาได้ทัน เพราะในทุกวันข่าวการเข้ามหาวิทยาลัยมีมาใหม่เรื่อย ๆ ตลอด เพราะถ้าลูกเกิดลืมการสมัคร หรือจำรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ได้ อย่างน้อยถ้าพ่อแม่รู้ข้อมูลก็สามารถช่วยกันเตือนได้ ว่าตอนนี้ที่ที่ไหนเปิดรับสมัครบ้าง ยิ่งช่วงที่น้อง ๆ กำลังอ่อนแอเพราะคะแนนน้อยแบบนี้ ข้อมูลที่ดีจากพ่อแม่สามารถช่วยลูกให้เจอทางออกได้
เมื่อเรามีความรู้เรื่อง TCAS ดีแล้ว ต่อมาก็เข้าสู่ช่วงการช่วยหาทางออกให้กับลูก ตำหนิหรืออบรมเรื่องคะแนนสอบน้อยอย่างเดียวไม่พอ การยื่นมือเข้าไปช่วยหาทางออกคือสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหลังคะแนนออกแล้วได้น้อย น้อง ๆ ก็คงกดดันจนสติเบลอไปหมด คนที่จะช่วยดึงสติลูกให้กลับมาเจอทางออกคือพ่อแม่ ยิ่งถ้าพ่อแม่ช่วยกันคิดหาทางออก ว่ามีช่องทางไหนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยได้บ้าง จะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นที่พึ่งในการหาทางออกให้กับลูกนั้นเอง การหาทางออกรอไว้ หรือหาทางออกตอนปัญหาถึงทางดันแล้ว คือสิ่งสำคัญที่ต้องมีโดยเฉพาะเรื่องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยแบบนี้ ถ้ารู้ว่ามีทางไหนบ้างที่จะทำให้ได้ที่เรียนคือเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจไปพร้อมกับลูก อย่าลืมว่าลูกของคุณต้องแข่งกับเด็ก ม. 6 เกือบทั้งประเทศ ! (ศึกนี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก) ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยเป็นหลักที่สำคัญให้ลูกในการพาไปสู่ทางออกที่ดี
สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดสามารถเกิดได้ตลอดเวลา คะแนนสอบใคร ๆ ก็อยากได้เยอะ ใครก็อยากได้ที่เรียนดี ๆ แต่ถ้าทุกอย่างที่คิดไว้ดันพลาด ผลออกมาไม่เป็นอย่างที่เราหวัง ความเสียใจและความกดดันตามมาแน่ ๆ แต่จะทำอย่างไรให้ปัญหาดีขึ้นนั้นคือเรื่องสำคัญที่สุด เมื่อไหร่ก็ตามที่ปัญหาเกิดกับลูก พ่อแม่คือหัวใจสำคัญ เพียงแค่ได้กำลังใจ ได้ความเข้าใจจากพ่อแม่ก็ทำให้ความรู้สึกแย่ลดลงได้ อยากให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจและรับฟังเหตุผลของน้อง ๆ ไม่ว่าจะโดนใจหรือไม่เห็นด้วย ความใจเย็นรับฟังด้วยความเข้าใจ เอาใจใส่และช่วยกันหาทางออกจะช่วยให้ดีขึ้นได้ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าอนาคตของลูกออกมาดี คนที่ดีใจร่วมกับลูกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือพ่อแม่เอง ที่จะรู้สึกมีความสุชไปพร้อมกัน