สวัสดีครับน้อง ๆ จะว่าไปชีวิตเด็ก ม.ปลาย อย่างเราเนี่ยยิ่งกว่าละครหลังข่าวซะอีกว่าไหมล่ะ (555+) ยิ่ง ม. 6 ด้วยแล้วยิ่งต้องสตรองคูณสองสามสี่กันทีเดียวเชียวแหละ ก็แหม่ !! เรียนเอย สอบเอย เตรียมแอดมิชชั่นอีกต่างหาก แล้วก็เชื่อเลยจริงจริ๊งว่าช่วงใกล้เข้ามหา’ลัยแบบนี้ต้องรับมือสารพัดคำถามจากคนรอบตัว พ่อแม่ ครูอาจารย์ หนัก ๆ ก็แก๊งมนุษย์ป้าข้างบ้านเจ้าเดิมเจ้าประจำ (555+ใจเย็นไว้ก่อนวัยรุ่น) แล้วอยากรู้ไหมล่ะว่า “คำถามจี้ใจที่เด็ก ม. 6 ไม่อยากได้ยิน” เอาล่ะ ! คำถามที่ว่ามีอะไรบ้าง มาดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
การันตี 100 % ว่านี่เป็นคำถามแรก ๆ ที่น้อง ๆ ม. 6 ต้องเจอ ใครไม่เจอทำบุญกับอะไรกันล่ะเนี่ยบอกหน่อย (555+) ซึ่งคนที่ถามดู ๆ แล้วก็แทบจะทุกคน พ่อแม่ ครู เพื่อน คุณลุงคนขับรถ คุณป้าแม่ค้าหน้าโรงเรียน เอาเข้าไป !! บางคนได้ที่เรียนแล้วก็จะยิ้มสวย ๆ เชิด ๆ แล้วก็ตอบเต็มปากเต็มคำว่า “ได้แล้วจ้า” แต่น้อง ๆ ที่ยังไม่ได้นี่สิแอบเสียความมั่นใจใช่ไหมล่ะ กังวลว่าคนอื่นจะมองตัวเองไม่ดี ไม่เก่ง ไม่ขยัน เฮ้อ !! ซึ่งจริง ๆ แล้วเหตุที่น้อง ๆ ยังไม่ได้ที่เรียนก็อาจเป็นเพราะยังรอมหา’ลัยที่ต้องการประกาศรับสมัคร รอผลสอบบ้างไรบ้าง แต่ก็เข้าใจแหละว่าเห็นเพื่อนส่วนใหญ่ได้ที่เรียนก่อนแล้วไอ้เราจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็แปลก ๆ ใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่าถ้าใครถามน้อง ๆ ก็ตอบไปตามความจริงพร้อมอธิบายเหตุผลดูสิถึงไม่อยากตอบก็เถอะ แต่ถ้าโดนเซ้าซี้เยอะ ๆ ก็ตัดบทให้เป็น แบบนี้เป็นไง “เดี๋ยวได้ที่เรียนแล้วจะโทร.ไปรายงานคุณป้าคนแรกเลย” (555+) เอาเป็นว่าจะยังไงก็แล้วแต่ก็ต้องมีสติและตอบไปแบบสุภาพนะครับน้อง ๆ เพราะยังไงเรื่องนี้ก็มองข้ามไม่ได้
คำถามสั้น ๆ ชวนหน้าชา เจ็บปวดรวดร้าว เสียความมั่นใจใช่เล่นสำหรับเด็ก ม. 6 อย่างเรา ๆ แต่ทำได้แค่เก็บความรู้สึกไว้ในใจ (TT) ซึ่งคนที่มักจะถามดู ๆ แล้วก็เพื่อนเรานี่แหละ แต่พี่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องแปลกล่ะมั้งที่เราจะสอบติดบ้างไม่ติดบ้างจะให้เก่งซะทุกอย่าง ติดท็อปทุกสนามสอบทุกมหา’ลัยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะขอบอก (แล้วคนที่ถามสอบติดทุกที่เปล่าล่ะ แซวเล่น ๆ 555+) ซึ่งพี่ไม่อยากให้น้อง ๆ เครียดหรือกดดันตัวเองมากไปจากคำพูดของใครที่ไม่รู้จักเราดีพอนะครับ เอาเป็นว่าเราต้องฮึดสู้สอบติดให้ได้ตามที่ตัวเองตั้งใจไว้ เพื่อพิสูจน์ว่าเราก็เก่งเหมือนกันนะ (สู้โว้ย^^) และก็อย่าโกรธเพื่อนเชียวล่ะ พี่คิดว่าเพื่อนคงไม่ได้ตั้งใจแหละแต่อาจจะเผลอพูดไปไม่ได้คิดให้ดีก่อน แต่จริง ๆ แล้วใครจะรู้ล่ะว่าเพื่อนคนนั้นที่ถามอาจเป็นคนที่ห่วงใยเรามากที่สุดก็ได้ คิดเหมือนกันไหมเอ่ย
โอ้โห !! เจอคำถามเด็ดนี้เข้าไปน้อง ๆ คงสตั๊น พูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันเป็นแถว ๆ หรือบางคนเริ่มไม่มั่นใจคณะที่ตัวเองเลือกเอาจนได้ ถ้าถามว่าคำถามแบบนี้ใครกันนะมักชอบถาม พี่คิดว่าคงเป็นมนุษย์ป้ามนุษย์ลุงใกล้ ๆ ตัวล่ะมั้งเนี่ยหรือไม่บางทีก็เพื่อนตัวดีของเรานี่แหละ 555+ แต่ถ้ามองในแง่ดีคนที่ถามก็อาจไม่รู้ก็ได้ว่าคณะที่น้อง ๆ เลือกเค้าเรียนเกี่ยวกับอะไร จบแล้วทำงานอะไรได้บ้างเมื่อจบออกมา เลยอยากรู้อยากถามซะหน่อย ถ้าเจอคำถามแบบนี้ก็อย่าเพิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่หรือวีนขึ้นมาก่อนล่ะยังไงก็ต้องฝืนใจตอบทั้งที่ไม่อยากตอบก็เถอะ หายใจเข้าลึก ๆ หุบหนอ พองหนอ ท่องเข้าไว้ 555+ ยิ้มสักทีนึงแล้วอธิบายให้เค้าเข้าใจว่าอะไรเป็นยังไง จะได้คลายสงสัยกันไปเลยไม่ต้องถามซ้ำไปซ้ำมาให้ปวดหัวทุกครั้งที่เจอกันยังไงล่ะครับน้อง ๆ
เชื่อเลยว่าน้อง ๆ หลายคนเก่งและมีความสามารถพอตัวเลยแหละ แต่พอโดนคำถาม “คณะนี้มีแต่คนเก่ง ๆ จะไปรอดเหรอ ?” เข้าไปคงมีอาการลังเลกับตัวเองและสิ่งที่ตัวเองเลือกใช่ไหมล่ะ ไม่รู้ว่าจะเก่งพอไหม จะเรียนจบหรือเปล่าอย่างที่เพื่อนหรือคนในครอบครัวเคยถาม ทั้งที่ก่อนหน้าก็มั่นใจว่านี่แหละสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองและเรียนไหวแน่นอนหายห่วง เอาล่ะ !! ถ้าน้อง ๆ เจอสถานการณ์แบบนี้คงไม่อยากได้ยินไม่อยากตอบและเลือกเดินหนีไปไกล ๆ ใช่ไหมล่ะ แต่บางทีเราก็เลี่ยงไม่ได้ว่าไหมล่ะเออ เดี๋ยวจะโดนดุได้ว่าเสียมารยาท ถ้างั้นก็ตอบสั้น ๆ ง่ายได้ใจความไปเลยว่า “ไหว” เป็นอันเข้าใจกัน
ส่วนใหญ่คนที่มักถามคำถามนี้จากประสบการณ์ของพี่ก็เป็นผู้ใหญ่ซะส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าน้อง ๆ บอกชื่อมหา’ลัยไปแล้วไม่ดังตามความคิดของเค้าก็เหมือนจะถูกเมินใส่ใช่ไหมล่ะ แอบจิตตกเลยนะเนี่ย (TT) เชื่อเลยว่าน้อง ๆ หลายคนไม่สบายใจแน่ ๆ เลยไม่อยากได้ยินหรือตอบเมื่อได้ยินคำถามจี้ใจแบบนี้ขึ้นมาใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าต้องตอบจริง ๆ ก็ตอบไปเถอะครับ ใครจะคิดยังไงก็ช่างขอให้น้อง ๆ มั่นใจซะอย่างและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มหา’ลัยจะดังหรือไม่ดังบางทีก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จทุกอย่างในชีวิตว่าไหมล่ะครับ
เป็นอีกคำถามฮิตที่เชื่อเหลือเกิ๊นเหลือเกินว่าได้ฟังแล้ว ไม่ชอบซะเท่าไหร่เลย เพราะแอบรู้สึกใช่ไหมล่ะว่าเหมือนมีคนมากำหนดทางให้มากเกินไปซึ่งเป็นทางที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง แน่นอนว่าน้อง ๆ ก็รู้ดีว่าตัวเองชอบหรือถนัดอะไร หลายคนได้แต่อมยิ้มและเก็บคำตอบไว้ในใจเมื่อถูกคนในครอบครัว ครู หรือเพื่อนถาม เพราะไม่อยากตอบคำถามเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาทุกวี่ทุกวัน ส่วนน้อง ๆ บางคนอาจโดนประโยคต่อท้ายชวนปวดขมับเข้าไปอีก (ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครจริงด้วยนะ 555+) เช่น “ทำไมไม่เรียนคณะนั้นล่ะ ลูกป้าหลานป้าก็เรียน” หรือจะเป็น “ทำไมไม่เรียนคณะนั้นล่ะเท่จะตาย”
1. คิดในแง่บวกว่าเขาอาจห่วงใยเราก็เป็นได้
2. หายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติ แล้วตอบคำถามไปให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายถามซ้ำอีก
3. ยิ้มไว้ก่อน
4. เบี่ยงเบนประเด็นพูดคุย อาจยกเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญกว่าของตัวเองกับฝ่ายคนถามขึ้นมา พูดคุยแทน
เอาล่ะ !! ดู ๆ แล้วเราคงห้ามใครไม่ให้ถามไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ถ้านั้นน้อง ๆ ซึ่งเป็นผู้ถูกถามก็ต้องทำใจกับสถานการณ์ที่ต้องเจอนะครับ ถ้าหนีไม่พ้นก็ตอบแบบสุภาพ ๆ ไปดีที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นปัญหาอื่นตามมาอีกชัวร์ ๆ ส่วนฝ่ายคนถามก็ต้องให้ความสำคัญนะครับ ต้องคิดก่อนถาม เพื่อไม่ให้คำถามเหล่านั้นกระทบจิตใจอีกฝ่ายด้วยเหมือนกัน เพราะบางเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่าจะพูดถึงหรือเจ้าตัวอยากให้คนอื่นรู้ ยังไงแล้ว “ใจเขาใจเรา” คำกล่าวนี้ยังใช้ได้เสมอนะครับ
เรื่อง : ภานุวัฒน์ มานพ