โอ๊ย !! จะทำไงดี อวสานเช้าวันสดใสก็เพราะถูกเพื่อนทักมาแต่ไกลว่า “ขอลอกการบ้านหน่อยดิ” ไอ้เราก็อุตส่าห์นั่งคิดนั่งทำไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไม่ให้ลอกก็กลัวเพื่อนเสียความรู้สึก จะให้ลอกแต่เอ๊ะนั่นมันความคิดเราทั้งนั้นนะเธอ ! คิดไรไม่ออกบอกพี่ม่อนเอาของวิเศษมาช่วยก็เห็นจะไม่ได้ (ก็เราไม่ใช่โนบิตะนี่หน่า) แต่อย่ากังวลไปเดี๋ยวแก่ซะก่อนวันนี้พี่มีกลเม็ดเคล็ด (ไม่) ลับ “เทคนิคปฏิเสธ เมื่อเพื่อนขอลอกการบ้าน” ไว้รับมือมาฝากกันด้วยล่ะขอบอก ตามมาด่วนจี๋เลย
ทำไมต้องทำการบ้านด้วย ไม่ทำไม่ได้เหรอ น่าเบื่อมากเลยอ่ะ .. ฮั่นแน่ !! คุ้น ๆ ใช่ไหมล่ะว่าเหมือนเคยได้ยินเสียงบ่นนี้จากที่ไหนกันหน๊อ (หรือเสียงเราเอง) เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า การบ้านก็เหมือนการฝึกให้เราได้คิด ทดสอบความเข้าใจว่าขาดตกบกพร่องตรงไหนไปบ้าง ลองคิดเล่น ๆ ดูสิถ้าเรียนอย่างเดียวไม่ทงไม่ทำมันหรอกการบ้านหน่ะเสียเวลา น้อง ๆ จะเข้าใจที่เรียนจริงหรือเปล่า ถึงเข้าใจก็คงแบบไม่จริงใช่ไหมล่ะ (สารภาพมาซะดี ๆ ^^) พี่จึงมองว่าการบ้านเป็นสิ่งจำเป็นเลยแหละสำหรับวัยอย่างเรา ๆ นอกจากทดสอบความเข้าใจก็ยังฝึกความรับผิดชอบอีกต่างหาก ว่าแล้วก็อย่าลืมจัดการการบ้านที่ดองไว้ให้เสร็จด้วยซะเลย
1. ไม่เข้าใจเนื้อหาที่เรียนเลยทำเองไม่ถูก
2. ขี้เกียจทำ/ไม่มีเวลา (แต่มีเวลาเล่นเกม, ดูหนัง!!)
3. กลัวทำส่งครู/อาจารย์ ไม่ทัน (ก็การบ้านเยอะเกิ๊น)
4. ไม่มั่นใจในคำตอบที่ตัวเองทำ กลัวผิด กลัวได้คะแนนน้อย
5. ลืมทำการบ้าน (คำตอบสุดฮิตตลอดกาล)
1. บ่ายเบี่ยงว่ายังทำไม่เสร็จ มาถึงโรงเรียนเพื่อนก็เอ่ยปากขอการบ้าน เราก็บอกเพื่อนไปเลยว่า ยังทำไม่เสร็จเหมือนกัน เพื่อนจะได้เริ่มฝึกฝนทำด้วยตัวเอง แม้ทีละนิดก็ยังดีกว่ารอลอกท่าเดียว
2. บอกว่าลืมเอาการบ้านมาเหมือนกัน แอบทำท่าตกใจนิดนึง และบอกว่า ลืมเอามาเหมือนกัน แล้วค่อยเนียน ๆ แอบไปส่งครูทีหลัง
3. ทำเนียนว่าครูไม่ให้ตอบเหมือนกัน จริง ๆ ข้อนี้ก็ใช้ได้ตลอดนะ ยกเว้นพวกวิชาที่มีคำตอบเดียวตายตัว เช่น คณิต วิทย์ อังกฤษ คำตอบเหมือนกันหมด ก็แบ่ง ๆ เพื่อนลอกไปเถอะ แต่หากพวกวิชาคิดวิเคราะห์ เราก็อ้างเพื่อนได้ว่า ใครตอบเหมือนกันจะไม่ให้คะแนนหรือปรับตก
4. ชวนทำการบ้านพร้อม ๆ กันซะเลย แกล้งเป็นทำยังไม่เสร็จ แล้วชวนเพื่อนทำพร้อม ๆ กันเลย หากเพื่อนไม่เข้าใจ เราก็จะได้สอนไปด้วย
5. บอกตรง ๆ ไปเลยว่าไม่ให้ลอก อธิบายเหตุผลให้เพื่อนฟังอย่างเข้าใจ เช่น ทำเองจะได้เข้าใจไปตลอด ทำการบ้านได้จะได้ทำข้อสอบได้ ฯลฯ
แต่ละข้อใช้ปฏิเสธในสถานการณ์ที่แตกต่างกันนะ เช่น หากครูให้ส่งในคาบเรียน เราจะบอกเพื่อนว่าลืมเอามาก็ไม่ได้ หากวันนี้ไม่มีคาบเรียนนั้น แต่ครูให้ไปส่งห้องพักครู เราสามารถใช้ข้ออ้างลืมเอามาได้ แล้วแอบไปส่ง หากหัวหน้าห้องรวบรวมส่งพร้อมกัน เราไม่อยากให้เพื่อนลอก ก็ลองพูดตรง ๆ ไปเลย หรือบอกว่าคำตอบเหมือนกันเดี๋ยวไม่ได้คะแนน แล้วอาสาสอนเพื่อนทำตอนนั้นเลย สอนเพื่อนเราก็ได้ทบทวนไปด้วย เป็นต้น
บอกเลยว่าพี่ไม่ส่งเสริมให้น้อง ๆ ลอกการบ้านนะครับ แต่ถ้าบางทีเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องลอกให้ได้ประโยชน์กลับไปบ้าง ไม่ใช่แค่ส่งให้ทันเพื่อนนะ !! ต้องลอกด้วยความเข้าใจ เข้าใจว่าเรากำลังเขียนเรื่องอะไรอยู่ พูดถึงอะไรบ้าง ไม่ใช่ลุกลี้ลุกลนตาถลนจนตัวเองก็อ่านไม่ออกว่าเขียนอะไรไปนะเออ (แอบสงสารครูขึ้นมา TT) อ้อ !! แล้วต้องกลับไปอ่านทำความเข้าใจด้วยล่ะเพราะถ้าครั้งหน้าน้อง ๆ ยังไม่เข้าใจก็หนีไม่พ้นลอกเพื่อนอีกตามเคย ถึงตอนสอบแขวนพระรอดก็คงไม่รอดแน่ ๆ ไม่ต้องพึ่งหมอดูก็รู้อนาคตได้ !!
จะบ้าตายอยู่แล้ว ครูสั่งงานเยอะเหมือนสั่งบุฟเฟ่ต์ตั้งอยู่ข้างหน้า ครูคนนั้นก็สั่งแยะเหมือนเราเป็นมนุษย์เหล็ก แถมส่งพร้อมกันอีกอยากจะแปลงร่างเป็นทศกัณฐ์ซะจริงจริ๊ง !! แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปทำล่ะ ? ไม่ยากเลยครับน้อง ๆ อย่างแรกต้องมีปฏิทินเวลาของตัวเองสักเล่ม ลองเอากระดาษ A4 หรือสมุดเก่า ๆ มาพับทำสมุดบันทึกเล็ก ๆ จดบันทึกว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้างดูสิ ช่วยงานที่บ้านได้เมื่อไหร่ ทำการบ้านอ่านหนังสือตอนไหน พักเที่ยง หลังเลิกเรียน หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ดี หรือไม่ก็ลองเปลี่ยนเวลานัดเม้าท์มอยกับเพื่อน ๆ มานัดทำการบ้านนี่แจ๋วสุด ๆ ไปเลยล่ะ
รู้อย่างนี้แล้วใครที่ชอบลอกการบ้านเพื่อนท่าเดียวก็ต้องเข้าใจคนอื่นด้วยนะครับ ส่วนคนไหนที่เพื่อนขอลอกการบ้านทุกวันก็ต้องปฏิเสธให้เป็น แต่อย่าลืมยื่นมือช่วยเพื่อนด้วยวิธีอื่นล่ะ ไม่ว่าจะช่วยสอน ช่วยติว ตักเตือนเพื่อนให้ทำการบ้าน ให้ลอกบ้างยามจำเป็น เพราะยังไงมิตรภาพระหว่างเพื่อนก็สำคัญไม่แพ้กัน
เรื่อง : ภานุวัฒน์ มานพ