โฆษณา คือการป่าวประกาศ เสนอข่าวเกี่ยวกับสินค้า บริการกระจายให้คนทั่วไปในสังคมได้รู้จักกับสินค้าบริการ ผ่านช่องทางสื่อมวลชน ได้แก่ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ อินเทอร์เน็ต ด้วยการจ่ายเงินซื้อพื้นที่ใช้ในการโฆษณา เพื่อจูงใจให้เกิดการตัดสินซื้อสินค้าบริการ ส่วนวิธีการโฆษณามีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แสดงให้คนรับชมโฆษณาทราบตั้งแต่แรกว่าตั้งใจขาย หรือพูดอ้อมผ่านเรื่องราวหนังสั้นฮิต ๆ ที่พวกเราชอบดูกันนี่แหละ
ก่อนอื่นต้องปูพื้นฐานทางด้านสื่อสารมวลชนให้แน่นเสียก่อน เริ่มจากการเรียนวิธีการทุกรูปแบบ การเขียน บทความ เรียงความ การเขียนข่าวรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเขียนข่าวหนังสือพิมพ์ การเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ การเขียนข่าววิทยุ การเขียนข่าวโฆษณา เรียนการคิด วิเคราะห์ การสร้างสรรค์ และเรียนการถ่ายภาพพื้นฐาน เรียนรู้วิธีใช้โปรแกรมตกแต่งรูป โปรแกรมตัดต่อ เพื่อนำไปใช้ในการทำโปรดักชั่นงานโฆษณา ต่อมาเรียนวิชาหลักการโฆษณาและประชาสัมพันธ์เบื้องต้น ตามด้วยวิชาการตลาด การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค พอปีสุดท้ายนำความรู้จากที่ผ่านมา มาประยุกต์ใช้และทำเป็นตัวจบ ส่วนใหญ่จะให้วางแผน ลงมือคิด ทำโปรดักชั่นโฆษณาให้กับลูกค้าจริง
ส่วนใหญ่เรียนสายนี้มักจะได้ทำงานกับลูกค้าจริง เรียกว่าได้ทำงานเองทุกกระบวนการทำงาน ตั้งแต่ติดต่อพูดคุยกับลูกค้า สอบถามความต้องการการทำโฆษณาของลูกค้าว่าลูกค้าต้องการอะไร อยากได้โฆษณาแนวไหน จากนั้นกลับไปคิดงาน ครีเอทงานให้เจ๋งที่สุดเพื่อนำไอเดียไปขายงานลูกค้า พอขายงานได้ต้องรีบทำโปรดักชั่นให้เสร็จภายใต้ระยะเวลาที่กำหนดและเงินที่จำกัด และนำผลงานไปเสนอลูกค้า เป็นอันเสร็จสิ้น การได้ทำงานโฆษณากับลูกค้าจริง ช่วยทำให้เรียนรู้กระบวนการทำงานจริง ได้เจอปัญหาการทำงานว่ามันคืออะไร มีอะไรบ้างที่ต้องเจอในอนาคตการทำงานข้างหน้า แถมยังได้ฝึกแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอีกด้วย
เมื่อมีคนมาแจกแบบสอบถามให้เด็กโฆษณาทำ ส่วนใหญ่จะตั้งใจอ่านและทำมาก เพราะรู้ซึ้งถึงความยากของแบบสอบถาม ตั้งแต่กระบวนการตั้งคำถาม ไม่ใช่คิดอยากถามอะไรก็อยากถาม แต่ต้องคิดว่าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง ต้องถามยังไงให้คนทำตอบคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการครบ เลือกใช้คำศัพท์คำไหนถึงเหมาะสม เข้าใจได้ง่าย เพราะเวลาแจกแบบสอบถาม จะไม่สามารถไปอธิบายทุกข้อให้ทุกคนที่ได้รับแบบสอบถามได้ ดังนั้น แบบสอบต้องเข้าใจง่าย ความสำคัญของเจ้าแบบสอบถาม คือทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์รู้จักผู้บริโภคอย่างพวกเรามากขึ้น ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนา ปรับปรุงสินค้าของตนให้มีคุณภาพ สะดวกต่อการหาซื้อมากขึ้น
เรียกว่าเป็นคำคู่หู แยกขาดออกจากกันไม่ได้ เหมือนกับช้อนส้อมที่ต้องมาคู่กันเสมอ แต่เจ้าสองคำนี้มีความแตกต่างกันนะ AD ย่อมาจาก Advertising ที่แปลว่าการโฆษณา ส่วน PR มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Public Relationship เป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกดี ๆ องค์กรจนไปถึงสินค้าบริการขององค์กรด้วย และช่วยจูงใจให้คนตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการง่ายขึ้นนั่นเอง นี่คือสาเหตุที่ทำให้หลายแบรนด์ทุ่มเงินมหาศาลไปกับการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์
ขอตอบเลยว่าเยอะมาก! สามารถไปเป็นครีเอทีฟสร้างสรรค์งานโฆษณา นักเขียนบทโฆษณา นักวางแผนสื่อโฆษณา ผู้กำกับโฆษณา นักวิจัยสำรวจความต้องการของผู้บริโภค ออร์แกนไนซ์เซอร์จัดงานอีเว้นท์ หรือถ้าอยากเป็นเจ้าของกิจการ ก็เปิดบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ รับจ๊อบทำโฆษณา จบสาย Ad ไม่มีตกงาน เป็นสายงานที่มีความต้องการสูง เงินดี เรียกว่าเป็นแหล่งงานของคนจบสายนิเทศกันเลยทีเดียว พวกเรียนวิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสารหางานทำไม่ได้ก็ชิงหนีมาทำสายนี้กันหมด
ถ้าใครอยากเรียนโฆษณา ต้องเข้าคณะนิเทศศาสตร์ เลือกสาขาวิชาโฆษณา บางมหาวิทยาลัยให้เลือกสาขาตั้งแต่ตอนเข้า บางมหาวิทยาลัยเลือกหลังจากเข้าไปเรียนแล้ว ซึ่งในประเทศไทยเปิดการเรียนการสอนนิเทศศาสตร์ทั้งหมด 49 สถานบัน ดังต่อไปนี้
1. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
2. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
3. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก
4. คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
5. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
6. วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
7. คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
8. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา
9. คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
10. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
11. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
12. คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
13. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
14. ณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
15. สำนักวิชาเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
16. คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
17. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
18. คณะวิทยาการจัดการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยนครพนม
19. คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร
20. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
21. หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเนชั่น
22. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
23. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี
24. คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
25. สำนักวิชาสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
26. คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
27. คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
28. วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
29. คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
30. คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
31. วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
32. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
33. คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
34. คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
35. คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง
36. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล
37. วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
38. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
39. คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร
40. คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
41. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
42. คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
43. สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
44. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
45. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
46. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
47. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
48. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
49. คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่สนใจจะเข้าเรียนด้านโฆษณา คะแนนที่ใช้สอบเข้ามีดังต่อไปนี้
TCAS รอบแอดมิชชั่น (ยื่นได้ 3 รูปแบบ)
1. พื้นฐานวิทยาศาสตร์
- GPAX 20%
- ONET 30%
- GAT 30%
- PAT1 20%
2. พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 1
- GPAX 20%
- ONET 30%
- GAT 50%
3. พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 2
- GPAX 20%
- ONET 30%
- GAT 30%
- PAT 7 20%
TCAS รับตรง
- Portfolio เรียนดีหรือมีผลงานเกี่ยวกับด้านนิเทศ
- รับตรงแบบมีสอบ จะใช้คะแนน วิชาสามัญ (ไทย สังคม อังกฤษ) GAT ความถนัดทั่วไป และ PAT 7 (เลือก 1 วิชา)
เรื่อง : พิชญา เตระจิตร