สำนักงานอัยการสูงสุดมีบทบาทหน้าที่อะไร ทำงานร่วมกับฝ่ายใดบ้าง วันนี้จะมาสรุปข้อมูลมาให้ทำความเข้าใจกันได้ง่าย ๆ ค่ะ สำนักงานอัยการสูงสุด มีบทบาทหน้าที่คือช่วยอำนวยความยุติธรรมทางอาญา รักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือทางกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนรวมถึงหน่วยงานผู้มีส่วนได้เสียต่อการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานทางกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ
Q : ทำไมถึงเปรียบอัยการเป็นทนายของแผ่นดิน
A : อัยการทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นทนายของแผ่นดิน ก็เพราะว่าอัยการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ให้แก่รัฐ เป็นทนายของรัฐในกรณีที่เกิดข้อพิพาทระหว่างรัฐกับเอกชน นอกจากนี้อัยการยังเป็นบุคคลที่ช่วยให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชนทั่วไปด้วยค่ะ
Q : บทบาทหน้าที่ของอัยการ มีอะไรบ้าง
A : อัยการทำหน้าที่หลายอย่างด้วยกัน อธิบายให้เข้าใจง่ายคือ อัยการจะทำหน้าที่นำผู้ที่กระทำความผิดเข้าคุก ดำเนินคดีในชั้นศาลให้ฝ่ายโจทก์ นำคดีขึ้นสืบ อธิบายชี้แจงข้อเท็จจริงแก่ศาล ตรวจสำนวน แก้ต่างคดีระหว่างรัฐกับเอกชน นอกจากนี้ในบางกรณีอัยการยังทำหน้าที่เป็นโจทก์ฟ้องคดีแทนราษฎรที่ไม่สามารถฟ้องคดีเองได้เพราะกฎหมายกำหนดห้ามเอาไว้ค่ะ
Q : คุณสมบัติของการสอบเข้าเป็นอัยการ มีอะไรบ้าง
A : โดยหลักแล้ว ผู้ที่ต้องการจะสอบเข้าเป็นอัยการจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ คือ
- จบหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต
- สอบได้เนติบัณฑิตไทย
- เก็บประสบการณ์โดยทำอาชีพทางกฎหมาย เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี
- มีสัญชาติไทยโดยโดยกำเนิด และมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นผู้ประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
- ไม่เคยถูกจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลเว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษหรือเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท
Q : เส้นทางสู่อาชีพอัยการ
A :
- เรียนจบหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยต่าง ๆ (4 ปี)
- เรียนหลักสูตร pre - degree มหาวิทยาลัยรามคำแหง (เร็วที่สุด 2 ปีครึ่ง)
- สอบผ่านเนติบัณฑิตไทย > เก็บประสบการณ์การทำงาน อย่างน้อย 2 ปี > อายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ > สอบเข้าเป็นอัยการให้ได้
**การสอบเข้าเป็นอัยการก็จะมี 3 สนามด้วยกันค่ะ ได้แก่ สนามใหญ่ สนามเล็ก สนามจิ๋ว แต่ละสนามก็จะใช้คุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ซึ่งจากแผนผังด้านบนจะใช้สอบเข้าสู่อัยการในสนามใหญ่ค่ะ
Q : ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ
A : ทุก ๆ คนรู้มั้ยคะ ว่าปัจจุบันประเทศเรากำลังขาดแคลนอัยการเป็นอย่างมาก นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อทางด้านกฎหมาย จบมาไม่ตกงานแน่นอนค่ะ และภาพด้านล่างก็เป็นความก้าวหน้าของเงินเดือนทั้งหมดของอัยการชั้นแรกสุดไปจนถึงอัยการสูงสุดค่ะ
Q : ข้อดีของการเรียนกฎหมาย
A :
- ประโยชน์อันเกิดจากการได้รู้สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายและปฏิบัติตนได้ถูกต้อง
- ประโยชน์จากการระวังตัวเองไม่ให้พลั้งพลาดกระทำผิด
- ประโยชน์ในทางวิชาชีพ เพราะการประกอบอาชีพต่าง ๆ ล้วนอาศัยกฎหมาย
- ประโยชน์ในทางการเมืองการปกครอง เพราะกฎหมาย เกี่ยวข้องกับเราตั้งแต่เกิดจนตาย กฎหมายจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรศึกษา
บทบาทที่สำคัญในชั้นศาล
ไม่ได้มีแค่อัยการเพียงบุคคลเดียว แต่ยังมีบุคคลอื่นซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกันไป ดังนี้ค่ะ
ตำแหน่งที่ 1 เป็นตำแหน่งของผู้พิพากษามีหน้าที่ในการตัดสินคดีความต่าง ๆ
ตำแหน่งที่ 2 เรียกว่าคอกพยานมีไว้ให้สำหรับพยานขึ้นไปเบิกความโดยที่โต๊ะจะมีกระดาษเขียนให้เบิกความแต่ความจริงโดยให้สาบานตามหลักศาสนา
ตำแหน่งที่ 3 จะเป็นตำแหน่งที่นั่งของจำเลยก็คือผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิด
ตำแหน่งที่ 4 จะเป็นตำแหน่งของทนายฝ่ายจำเลยมีหน้าที่แก้ต่างว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด
ตำแหน่งที่ 5 จะเป็นตำแหน่งทนายฝ่ายโจทก์หรือพนักงานอัยการมีหน้าที่ในการแสดงข้อเท็จจริงให้ศาลเห็นว่าจำเลยกระทำความผิดจริง
ตำแหน่งที่ 6 จะเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์มีหน้าที่ในการพิมพ์คำให้การของพยานและช่วยเหลืองานศาลหน้าบัลลังก์
ตำแหน่งที่ 7 จะเป็นตำแหน่งของการนั่งของจำเลยและญาติฝ่ายจำเลยผู้ที่เข้ามานั่งฟังการพิจารณาคดีฝ่ายจำเลย
ตำแหน่งที่ 8 จะเป็นตำแหน่งของคนที่มานั่งฟังคดีฝ่ายโจทก์
การศึกษา
นิติศาสตร์ เป็นวิชาที่ศึกษาเรื่องกฎหมาย หรือวิชาที่มีกฎหมายเป็นวัตถุของการศึกษา เป็นการศึกษากฎเกณฑ์ประพฤติของคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม คนที่จบการศึกษาทางด้านนี้จะมีความรอบรู้เรื่องกฎหมาย ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยฝึกฝนให้นักศึกษาใช้วิชานิติศาสตร์ให้ถูกต้อง รู้จักใช้เหตุผล เข้าใจในกฎหมาย ภายใต้คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพ มีความหนักแน่น มั่นคง มีจิตสำนึกทางสังคม มีความรับผิดชอบในการทำงาน และใช้ความรู้ทางกฎหมายในทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนคณะนิติศาสตร์
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- มหาวิทยาลัยบูรพา
- มหาวิทยาลัยนครพนม
- มหาวิทยาลัยพะเยา
- มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- กลุ่มราชภัฏ
เรื่อง : จิดาภา รัตนไพบูลย์