มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรืออีกชื่อที่ได้ยินกันติดหู คือ มศว ไม่มีจุด สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ได้เรียนที่ มศว ประสานมิตร ก็คงอยากรู้กันแล้วว่า มหาวิทยาลัยใจกลางเมืองกรุงแห่งนี้เป็นยังไง หรือ มีอะไรบ้าง วันนี้จะพาไปแนะนำให้รู้จักที่แห่งนี้ให้มากขึ้น ที่ที่เป็นแหล่งบ่มเพาะเด็ก มศว ให้เจริญงอกงาม ตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย คือ "การศึกษาคือความเจริญงอกงาม"
สวัสดีค่ะ พี่เนย สลิล สันติพันธ์พิทักษ์ เรียนอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี 2 ค่ะ น้อง ๆ คงอยากจะรู้จักที่นี่ให้มากขึ้นแล้วใช่ไหม พี่จะพาไปทัวร์รอบมหาวิทยาลัยกัน สิ่งแรกที่น้อง ๆ จะได้เห็นเมื่อได้ก้าวเข้ามาในรั้ว มศว ประสานมิตร ก็คงจะหนีไม่พ้น หอนาฬิกา ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลย เพราะจะตั้งอยู่บริเวณกลางของมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ แถมหลาย ๆ คนก็ยังเอาไว้เป็นจุดนัดพบกันด้วย บรรยากาศของที่นี่จะเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างอบอุ่น เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีเนื้อที่ไม่ใหญ่มาก แต่ละคณะก็จะอยู่ห่างกันไม่มาก สามารถเดินเล่นได้รอบมอ อย่างช่วงเช้า ๆ กับเย็นอากาศก็จะเย็นสบาย ยิ่งในช่วงเย็นบริเวณสนามบอลของกลางมหาวิทยาลัยจะเห็นคนมาออกกำลังกาย เตะบอล ปั่นจักรยาน เป็นจำนวนมาก อารมณ์เหมือนเป็นสวนสาธารณะหย่อม ๆ ค่ำหน่อยก็จะมีคนมานั่งรับลมชิว ๆ ดูบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองกรุง บอกเลยว่าบรรยากาศยามค่ำคืนของมศวสวยมาก เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่เลยหละ
เอกลักษณ์อีกอย่างที่แสดงถึงความเป็นเด็ก มศว คือ เด็กปี 1 ทุกคนจะมีป้ายชื่อเป็นของตัวเอง โดยรุ่นพี่จะเป็นคนตั้งชื่อให้เรา ซึ่งชื่อที่ตั้งให้ก็จะบอกความเป็นตัวเองของแต่ละคนแน่นอนว่าแต่ละคนต้องได้ชื่อที่ไม่ธรรมดาแน่นอน อย่างเราชื่อเนย ก็ได้ป้ายชื่อว่า “เนยวัดดาว” เห็นไหมบอกแล้วชื่อที่ได้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วเวลาเดินไปไหนในมอ ก็ต้องห้อยป้ายนี้ไปด้วย ป้ายชื่อของแต่ละคณะก็จะแตกต่างกันออกไป จะมีการออกแบบและแสดงเอกลักษณ์ให้เห็นออกมาว่าแต่ละคนอยู่คณะ สาขาอะไร พอเราได้เห็นก็จะรู้ว่าคนนั้นชื่ออะไร อยู่คณะ สาขาอะไร เราว่ามันเป็นบรรยากาศที่น่ารัก และอบอุ่นมาก ๆ เลยหละ
อาจารย์ รุ่นพี่ และเพื่อน ๆ ทุกคน ก็มีความน่ารักเป็นกันเอง ไม่มีการว้าก แต่จะมีพี่ระเบียบคอยดูแลความเรียบร้อย ในช่วงปี 1 จะมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันหลายอย่างมาก อย่างเช่นมีเข้าระเบียบ ฝึกร้องเพลงเชียร์ ซึ่งถ้ามีใครทำไม่ดี 1 คน ทุกคนก็จะโดนดุไปด้วย แต่มันทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราเองมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เห็นใจส่วนรวมมากขึ้น และทำให้ภายในรุ่นเดียวกันมีความรักใคร่กลมเกลียวกันมากขึ้น
และก็มีการเล่นสายเทค คล้าย ๆ สายรหัส มีตั้งแต่พี่เทค (ปี 2) ป้าเทค (ปี 3) ยายเทค (ปี 4) บางทีพี่บัณฑิตก็มาเล่นด้วย บอกเลยว่าปี 1 สบายสุด ๆ ได้ของเทคแทบทุกวัน น้ำฟรี ขนมฟรี เครื่องเขียนฟรี แล้วยิ่งช่วงเฉลยสายเทคนะ โอ้โห ชาบู บิงซู ซูชิ ฟรีหมด!! ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว 55555 แต่นอกจากความฟินที่ได้จากการเล่นสายเทคก็คือ มันทำให้เราได้รู้จักกับรุ่นพี่ภายในสาขาเพิ่มขึ้น พูดคุยปรึกษากันได้อย่างเข้าใจ อย่างเรื่องเรียนถ้าเราไม่เข้าใจตรงไหน หรือควรจะอ่านหนังสืออะไร บางทีก็จะมีชีสเรียนจากรุ่นพี่มาให้เราได้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น คือการเล่นสายเทคมันได้หลายความรู้สึกทั้งความฟิน ความสนุก ความซึ้ง ความห่วงใย ความเข้าใจ ที่ต่างฝ่ายต่างเทคแคร์ซึ่งกันและกันดีเหลือเกิน
มศว ประสานมิตร ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 23 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร แถวอโศก- เพชรบุรี ใกล้ตึก GMM Grammy
1. รอบรับตรงทั่วไป
2. รอบโครงการต่าง ๆ
3. รอบแอดมิชชั่น
โดยสามารถดูรายละเอียดการรับสมัครทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์มหาวิทยาลัย admission.swu.ac.th
1. คณะทันตแพทยศาสตร์
2. คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
3. คณะวิทยาศาสตร์
4. คณะศิลปกรรมศาสตร์
5. คณะมนุษยศาสตร์ เฉพาะสาขาวิชาภาษาเพื่ออาชีพ
6. วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม
7. วิทยาลัยนานาชาติเพื่อศึกษาความยั่งยืน
8. คณะเศรษฐศาสตร์
9. คณะศึกษาศาสตร์
มศว ประสานมิตรแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพ ที่ขึ้นชื่อในย่านรถติดมาก ๆ เรียกได้ว่า ลงเดินก็อาจจะถึงเร็วกว่ารถได้ แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะความสะดวกสบายมีพร้อมให้น้อง ๆ แล้ว การเดินทางสามารถมาได้หลายเส้นทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ MRT BTS Airport link รถประจำทาง เรือ หรือจะมาทางอากาศก็ได้นะเพราะที่ มศว มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์เช่นเดียวกัน 55555 งั้นมาดูหลายละเอียดแต่ละเส้นทางกัน
1. MRT มาลงสถานีเพชรบุรี (ทางออก 2) หรือสถานีสุขุมวิท (ทางออก 2) ก็ได้ แต่เพชรบุรีจะเดินใกล้กว่า ถ้าลงสุขุมวิทจะเดินไกล ต้องต่อวินมอเตอร์ไซต์ หน้า Interchange เสีย 10 บาท จะถูกกว่า ขึ้นวินมอเตอร์ไซต์ตรงทางออก MRT สุขุมวิทเลย อันนั้นจะเสีย 20 บาท มอเตอร์ไซต์จะมาจอดตรงทางเข้าประตู 1 ติดกับ GMM (ราคา 14 - 29 บาท (ราคานักเรียน) )
2. BTS ลงสถานีอโศก (ทางออก 3) แล้วต่อวินมอเตอร์ไซต์หน้า Interchange เข้ามอทางประตู 1
3. รถประจำทาง
- ลงบริเวณทางเข้าด้านหลังมหาวิทยาลัย สายรถเมล์ : 11 23 60 72 99 113 93 206
(ป้ายรถเมล์อยู่ตรง My Resort Bangkok เดินเข้าซอยระหว่าง CP Freshmart และ 7-11 ตรงเข้าไป และข้ามสะพานคลองแสนแสบ)
- ลงบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัย สายรถเมล์ : 38 185 136
(ป้ายรถเมล์อยู่ตรง Q House อโศก สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ 2 ช่องทาง คือเดินเข้าซอยด้านข้างโรงพยาบาลจักษุรัตนิน หรือ เดินเข้าด้านหน้าของมหาวิทยาลัย)
- ลงบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 23 สายรถเมล์ : 2 38 511 501 508 25 40
(ป้ายรถเมล์อยู่ตรงอาคาร Jasmine City เดินเข้ามาในซอยเล็กน้อย และต่อวินมอเตอร์ไซต์เพื่อมายังมหาวิทยาลัย ราคา 10 บาท)
4. Airport link ลงสถานีมักกะสัน และต่อวินมอเตอร์ไซต์เพื่อมายังมหาวิทยาลัย (ราคา 15 - 35 บาท)
5. เรือ ลงท่าเรือมศว ประสานมิตร ถึงมอทันที ให้บริการ 5.30 - 20.30 น. (ราคาประมาน 10 - 17 บาท)
อย่างที่บอกว่าที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอยู่ในย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติดมาก เพราะอยู่ในเมือง แล้วแถวมอก็มีสำนักงาน ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า เยอะแยะเต็มไปหมด ดังนั้นถนนจะโล่งตอนเช้าตรู่ถึง 7.30 หลังจากนั้นก็ติดตลอดทั้งวัน คนส่วนใหญ่จึงนิยมนั่งรถไฟฟ้ากันมามากกว่า ซึ่งในรถไฟฟ้าคนก็แน่นมากเช่นกัน แต่ก็จะเป็นเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนเท่านั้น อย่างวันไหนขึ้น MRT ประมาน 8 โมง ต้องรอไปประมาน 4 - 5 ขบวนเลยกว่าจะได้ขึ้น อย่างตอนเย็น ๆ คนก็แน่นเหมือนกันต่อคิวค่อนข้างยาว เพราะมีทั้งคนเลิกงาน เลิกเรียน แนะนำให้จัดสรรเวลาการเดินทางให้ดี อาจจะออกเช้าหน่อยก็จะทำให้เดินทางสะดวกและเซฟเวลาได้มากขึ้น แถมยังสามารถเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ
สำหรับน้อง ๆ ที่ไม่สะดวกในการเดินทางมามหาวิทยาลัย หรือบางคนก็มาจากต่างจังหวัด จำเป็นจะต้องหาหอพักเพื่ออาศัยระหว่างการเรียนก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะแถวมหาวิทยาลับมีหอพักเยอะมาก อย่างถ้าใครชอบสะดวกสบายหน่อย ก็จะมีคอนโดใกล้มออย่างเช่น Sukhumvit Living Town ห้องละประมาน 15,000 บาท ก็จะอยู่ตรงข้ามกับมอเลย ซึ่งราคาก็อาจจะสูงหน่อย แต่เด็ก มศว พักที่นี่เยอะ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับรูมเมท หรืออีกแบบที่เป็นที่นิยมมากเช่นกัน ก็จะเป็นหอพักตามแนวรถไฟฟ้า ตั้งแต่แถวพระราม 9 ศูนย์วัฒนธรรม ห้วยขวาง ย่านนี้หอพักจะเยอะมาก ๆ มีให้เราได้เลือกหลายขนาด หลายราคา แนะนำว่าให้เลือกอยู่หอพักที่มีรุ่นพี่ หรือ เพื่อน ๆ อยู่เป็นส่วนใหญ่ เพราะเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือ ต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็ยังมีคนรู้จักที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ยิ่งโดยเฉพาะน้อง ๆ ที่ไม่ได้อยู่กับรูมเมท ควรจะเลือกหอพักให้ดี ๆ ส่วนราคาหอพักส่วนใหญ่ยู่ที่ประมาน 4,000-8,000 บาท และก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน แทบทุกที่มีของกินหมด เผลอ ๆ มีตลอดทั้งคืนด้วย
ส่วนใหญ่คนที่มาจากต่างจังหวัดก็จะไปพักอยู่กับญาติที่อยู่ในกรุงเทพก่อน ไม่ก็พักอยู่กับเพื่อนก่อนจนกว่าจะหาหอได้ แต่อย่างที่บอกบริเวณแถวมหาวิทยาลัยมีหอพักให้เลือกเยอะมาก เรื่องการหาหอพักจึงไม่น่ากังวลมาก แต่แนะนำว่า ควรเตรียมตัวในการหาหอพักแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเราหาก่อน ตัวเลือกดี ๆ ราคาที่เหมาะสมก็มีให้เลือกมากเช่นกัน แล้วอย่างก่อนเปิดเทอมในเพจ พี่ มศว พาน้องสอบ ที่เป็นเพจประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย จะมีการโพสแนะนำหอพัก และให้น้อง ๆ ปี 1 ที่กำลังจะเข้าใหม่ได้มาหารูมเมทกัน ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะหาที่พักไม่ได้เลยค่ะ
1. โรงร้อน
เป็นโรงอาหารของมอนี้หละ ตั้งอยู่ตรงทางไปโรงเรียนสาธิต ที่เรียกว่าโรงร้อนก็เพราะ โรงอาหารไม่ได้ติดแอร์ 55555 มันก็จะร้อน ๆ หน่อย ก็จะขายพวกข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ทั่วไปเลย อร่อย ที่สำคัญราคาถูกมาก คนไม่เยอะมากเท่าไหร่ด้วย
2. Canteen
เป็นโรงอาหารที่ถัดมาจากโรงร้อนนิดหน่อย จำง่าย ๆ คืออยู่ข้างหลังอาคารหอนาฬิกา เดินเข้ามาหน่อยก็จะเห็น เป็นโรงอาหาร 2 ชั้น ชั้นบนจะติดแอร์ คนก็จะค่อนข้างเยอะหน่อย ยิ่งเฉพาะช่วงเที่ยง หลบแดดไปหาแอร์กัน 5555 อาหารก็จะมีหลากหลาย พวกสเต็ก สปาเก็ตตี้ ข้าวผัดอเมริกัน ที่สำคัญให้เยอะมาก คุ้มเกินราคา ส่วนชั้นล่างไม่ได้ติดแอร์ แต่ก็นั่งได้สบาย ๆ มีร้านส้มตำ แนะนำมากต้องไปกิน อร่อยทุกอย่าง คนเยอะหน่อย เพราะบางทีก็มีคนข้างนอกมากินด้วย แต่คุ้มค่าที่รอแน่นอน
3. เบเกอรี่
ตั้งอยู่ตรงใต้ตึกไข่ดาว จะอยู่ใกล้ ๆ กับสนามบาส คือเป็นร้านขายเบเกอรี่ชื่อดังของ มศว เลยหละ ที่เด็ด ๆ ก็มีช็อคสติ้กอร่อยมาก อันละ 17 บาท ต้องไปลอง วันไหนอยากกินไม่ค่อยได้กิน เพราะหมดไว 555 แล้วก็มีเค้กชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นละ 10 บาท เอแคร์ และก็ขนมปังอย่างอื่นอีกเยอะมาก อร่อยทุกอย่าง ราคาก็ถูก ทำสดใหม่ทุกวัน อย่างว่าง ๆ หรือช่วงระหว่างรอเรียนเด็กส่วนใหญ่ก็จะไปนั่งกินกัน เพราะเป็นห้องแอร์เย็นสบายด้วย
4. มาม่าซุ้ม
ตั้งอยู่ใกล้สนามเทนนิส ข้าง ๆ ร้านถ่ายภาพ เป็นร้านขายมาม่าธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะมันอร่อยมาก คือจะมีเครื่องให้ใส่เพิ่ม พวกหมูสับ ไส้กรอก ลูกชิ้น ไข่ลวก ประมาณนี้แต่อร่อยมาก อันนี้ต้องไปลองเอง ถ้ากินแล้วก็อยากกินอีกแน่นอน คือถ้าใครเรียนที่นี่แล้วไม่เคยกิน ถือว่าพลาดเลยหละ 5555
5. ร้านจัดจ้าน
ร้านนี้มีชื่อเสียงมานานมาก บอกต่อกันรุ่นต่อรุ่นว่าต้องไปกิน ที่ตั้งร้านก็คือเดินข้ามสะพานคลองแสนแสบไป ร้านอยู่ขวามือ เป็นร้านอาหารตามสั่งที่อร่อยมาก เมนูเด็ด ๆ คือ แกงส้มชะอมกุ้ง ต้มยำกุ้งน้ำข้น ยำผักบุ้งกรอบ ไก่ผัดพริกเผา เอ็นข้อไก่ พูดแล้วน้ำลายจะไหล 5555 ราคาไม่แพง และที่สำคัญเป็นแบบรีฟิลข้าว เติมกี่รอบก็ได้ เหมาะกับคนกินเยอะ คุ้มสุด ๆ แนะนำให้ไปก่อนเที่ยง เพราะตอนเที่ยงคนเยอะมาก ไม่ค่อยมีที่นั่ง แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันรอ เพราะกับข้าวอร่อยทุกอย่างจริง ๆ
6. เตี๋ยวรู
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นรสชาติเข้มข้น แซ่บมาก แต่ถ้าไม่กินรสเผ็ดก็สั่งเขาได้ ร้านจะแอบ ๆ อยู่ในซอยหลังโรงยิมพละ ค่อนข้างลึกลับหน่อย เลยเรียกว่า ‘รู’ มั้ง 555 ร้านนี้ก็ไปกินบ่อยเหมือนกัน ราคา 35 บาท/ชาม
7. ตลาดนัด มศว
มีทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่คนแถวนั้นจะรู้กันว่ารถจะติดเป็นพิเศษ เพราะมีตลาด นอกจากเด็ก มศว ที่เดินแล้ว ก็มีพวกคนที่อยู่แถวนั้นก็มาเดินด้วย ฝรั่ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เดินเยอะมาก เรียกว่าเหมือนเป็นตลาดนานาชาติเลยหละ ตลาดเปิดตั้งแต่เช้าถึงบ่าย 3 ที่นี่ขายทุกอย่างจริง ๆ ของใช้ เสื้อผ้า รองเท้ามีหมด ส่วนอาหารที่อร่อย ๆ ก็มี ข้าวยำไก่แซ่บ บะหมี่เป็ด บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ถ้วยละ 40 บาท อันนี้เด็ดมากต้องลองขนมตาล เกี๊ยวทอด คนจะต่อแถวยาวหน่อย แล้วก็มีร้านน้ำร้านนึง ชื่อร้านน้ำผลไม้ปั่น แต่ขายทุกน้ำแหละ ที่ชอบสั่งคือ โอริโอ้ปั่นใส่วิป ทีเด็ดอยู่ตรงวิปครีม คือให้เยอะมาก แบบไม่หวงเลย กินกันให้อ้วนไปข้าง
8. Seoul BBQ
ร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ราคาไม่แพง คุ้มกับอาหาร เห็นเพื่อนไปกินบ่อย เลยไปกินบ้าง ก็อร่อยจริง ๆ อิ่ม ฟิน เหมือนนั่งอยู่ที่เกาหลี 555 ร้านอยู่ตรงข้ามมิดทาวน์ ข้าง ๆ อีฟแอนด์บอย วันไหนหิวมาก ๆ ต้องไปจัด
อันนี้แค่ตัวอย่างจริง ๆ แถวมอมีร้านอร่อยเยอะกว่านี้แต่จะให้เล่าคงไม่หมด ไว้มามหาลัยเมื่อไรเดี๋ยวพี่พากินเอง แล้วเราจะอ้วนไปด้วยกัน อิอิ
มศว อยู่กลางเมืองใกล้กับหลายที่ เอาใกล้ ๆ เดินไปง่าย ๆ เลยก็มี Midtown มีร้านอาหารเยอะอยู่ ช้อปปิ้งเสื้อผ้าก็มี หรือร้านเครื่องสำอางชื่อดังอย่าง Eveandboy ก็มีเป็นสาขาอโศก อยู่ติด ๆ กับมอเลย แอบบอกคนไม่เยอะมากเท่าไหร่ด้วย ช้อปสบาย แล้วก็มีพวกร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านขนมเยอะ อยู่แถว ๆ ในซอยสุขุมวิทต่าง ๆ มีร้านนึงชื่อ Café Little Spoon อยู่ปากซอยสุขุมวิท 21 ร้านอยู่ชั้น 2 เป็นร้านเล็ก ๆ แต่นั่งสบาย ขายไอศกรีม เค้ก เครื่องดื่ม ไปนั่งอ่านหนังสือในร้านได้ เงียบดี เดินจากมอไปแป็ปเดียวถึง
ถ้าเป็นตามสายรถไฟฟ้าเดินทางสะดวกที่ไปบ่อย ๆ ก็มี เทอมินอล 21 เซนทรัลพระราม 9 เอสพลานาดรัชดา ตลาดนัดรถไฟ เดอะสตรีทรัชดา วันไหนว่าง ๆ ก็จะไปเดินเล่นหาอะไรกินกับเพื่อน ๆ เวลาไปเดินก็จะเจอแต่เด็ก มศว เรียกว่าเป็นถิ่นของเราก็ว่าได้ 5555
1. ค่ายอัตลักษณ์
ที่มศว จะมีกิจกรรมบังคับอันนึงที่ทุกคนต้องเข้าร่วมตอนปี 1 เรียกว่ากิจกรรมเข้าค่ายอัตลักษณ์ ประมาน 3-4 วัน ที่ มศว องครักษ์ เหมือนกิจกรรมรับน้อง ให้ทุกคณะได้ไปทำกิจกรรมร่วมกัน มีการทำจิตอาสา แล้วก็ประกวดดาวเดือนกันที่นั่น ตอนกลางคืนจะมีคอนเสิร์ต ซึ่งแต่ละปีก็จะมีวงดนตรีแตกต่างกันไป อย่างปีล่าสุด มี Lomosonic Zeal สนุกมาก!
2. SWU GAME
เป็นเหมือนกีฬาสี แข่งกีฬา แข่งผู้นำเชียร์ แสตน ซึ่งจะไปแข่งกันที่มศว องครักษ์ โดยที่ปี 1 จะได้เป็นคนจัดโชว์ส่วนใหญ่ของคณะตัวเอง ทำให้รู้ว่าใครมีความเป็นผู้นำ ใครถนัดอะไรด้านไหน แบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ แล้วช่วยกันทำออกมาให้ดีที่สุด
3. พิธีไหว้ครู
ถือเป็นพิธีที่สำคัญงานหนึ่งของมศว มีการประดิษฐ์พานไหว้ครูของแต่ละคณะ แล้วไปประกวดกันที่องครักษ์ โดยที่ทุกคนตอนปี 1 ต้องไป โดยจะต้องแต่งชุดพิธีการถูกระเบียบ ห้ามแต่งหน้า ห้ามย้อมผม คนที่แต่งหน้าก็อาจจะโดนล้างเครื่องสำอางได้
นอกจากนี้ช่วงเทศกาลต่าง ๆ ในมอก็มีกิจกรรม ขายของ ขายอาหาร เช่น งานวันลอยกระทง ก็มีการจัดมอให้เหมือนงานวัด มีชิงช้าสวรรค์ให้ขึ้นไปเล่นได้ มีทำกระทงขาย แล้วก็ทำสระน้ำให้ลอยกันในมอเลยทีเดียว แล้วก็มีงานของแต่ละคณะที่ให้เราสามารถเข้าไปร่วมงานได้อีกด้วย เช่น งานของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มีการแสดงดนตรี เต้น โชว์การแสดงต่าง ๆ ที่บอกได้เลยว่าเจ๋งมาก ๆ และการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาลัย ก็จะได้รับแสตมป์แต่ละหมวดกิจกรรม ซึ่งเด็ก มศว ทุกคนต้องเก็บแสตมป์ให้ครบตามจำนวน ไม่อย่างนั้น ก็จะไม่จบ
บางวันมีเรียนแค่วิชาเดียว เลิกครึ่งวัน ก็จะมีเวลาว่างมาก ส่วนใหญ่ก็จะไปสิง เอ้ย อยู่ห้องสมุด แต่ไม่ได้ไปอ่านหนังสือนะ 555 ไปดูหนัง ที่ชั้น 1 ห้องสมุดจะมีที่ดูหนัง แบ่งเป็นคอก ๆ มีทีวีมีโซฟา แล้วก็ไปเลือกหนัง รับหูฟัง มานั่งดูกับเพื่อน ๆ ถ้ามีเพื่อนมาดูเยอะก็มีห้องคล้าย ๆ โรงหนัง แบบมีจอเหมือนโปรเจกเตอร์ใหญ่ ๆ ฉายหนัง ดูได้หลายคน แต่ต้องไปจองห้องก่อน อารมณ์เหมือนโรงหนังส่วนตัวนิด ๆ หรือถ้าง่วง ๆ ที่ชั้น 2 หอสมุดก็มีโซฟานิ่ม ๆ สามารถไปนอนได้ด้วย หรือบางทีก็จะนั่งเล่นอยู่ตามโต๊ะเอก หรือใต้คณะ ก็จะมีโต๊ะให้ได้นั่งเล่น จับกลุ่มคุยกันกับเพื่อน ๆ รุ่นพี่ อย่างบางคนเรียนเสร็จแล้วก็ยังไม่กลับ นั่งคุยนั่งเล่นกันไปเรื่อย ๆ
ช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นอีกช่วงเวลาแห่งการจดจำ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาแค่ 4 ปี แต่เชื่อว่าใน 4 ปีนั้น เราจะได้เรียนรู้อะไรในหลาย ๆ อย่าง การเรียน การใช้ชีวิต หลากหลายอารมณ์ความรู้สึกที่เราจะได้รับรู้ ที่จะเป็นบทเรียนสอนเราได้อย่างดี ก่อนที่เราจะก้าวไปสู่ชีวิตการทำงานที่แท้จริง
เรื่อง : สลิล สันติพันธ์พิทักษ์