เรื่องและภาพ: กัลยาณี แนวเล็ก
“หุ่นยนต์คุณลำไย” หุ่นยนต์รับใช้ในบ้านเพียงตัวเดียวของไทย ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกจากการแข่งขันในสหรัฐอเมริกา ชาว #AdGang59 ที่เป็นสาวกโรบอท ถ้าอยากลงมือสร้างหุ่นยนต์ด้วยตัวเอง ต้องเรียนอะไรบ้าง เยล-กลยุทธ์ สรงกระสินธ์ รุ่นพี่ปี 4 ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ พาไปเจาะลึกถึงภาควิชากันเลย
เบนเข็มจากจากหมอมาวิศวะ
ตอนเด็ก ๆ มีความฝันอยากเป็นหมอ แต่พอถึงช่วงแอดมิชชันก็ปรึกษากับที่บ้าน พ่อ-แม่อยากให้เรียนวิศวกรไฟฟ้ามากกว่า พอเข้ามาเรียนก็ดีครับ พื้นฐานผมค่อนข้างชอบคณิตศาสตร์ ซึ่งคณะนี้ส่วนใหญ่ก็จะเรียนวิชาคณิตศาสตร์เป็นหลักครับ
หลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้า
ปีหนึ่ง เรียนพื้นฐานวิศวะทั่วไปครับ เคมี ฟิสิกส์ แต่ไม่มีชีววิทยาครับ และคณิตศาสตร์ พวกแคลคูลัสต่าง ๆ เรียนการเขียนโปรแกรม การเขียนแบบ และแยกภาคตอนปีสองครับ ภาควิชาไฟฟ้า ก็มีเรียนเป็นพื้นฐานวิศวกรไฟฟ้า ก็จะมีการคิดวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น พื้นฐานทั่วไปที่วิศวกรไฟฟ้าควรจะรู้
ส่วนพอขึ้นปีสามก็จะเป็นคล้าย ๆ กับว่าเลือกสาขาอีกทีหนี่ง ซึ่งที่ ม.เกษตร วิศวะไฟฟ้าจะแบ่งออกเป็น 4 สาขาหลัก ๆ ก็คือ วิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง ออกแบบระบบไฟฟ้าในตึกและภายในบ้าน ซึ่งต้องรับผิดชอบชีวิตคน วิศวกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ หลัก ๆ เรียนเรื่องวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เน้นไปด้านการออกแบบไมโครชิป วิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารเกี่ยวกับการสื่อสาร เกี่ยวกับความปลอดภัยของความมั่นคงของชาติ และวิศวกรรมไฟฟ้าควบคุม เรียนเกี่ยวกับการควบคุมต่าง ๆ ซึ่งการควบคุมมีอยู่ในทุก ๆ ด้าน ไม่จำเป็นต้องมาคุมวงจรหรือว่าคุมเครื่องจักร ทุก ๆ ภาควิชาต้องเรียนวิชานี้ แต่ภาคไฟฟ้าจะเรียนควบคุมเครื่องจักรเป็นหลักครับ ควบคุมหุ่นยนต์ ควบคุมเครื่องจักรอุตสาหกรรม
ก่อนจะเลือกเรียนสาขาอะไร ผมมองที่จุดประสงค์ว่าผมอยากได้ใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมหรือเปล่า ถ้าผมอยากได้ก็จะมี วิศวะไฟฟ้ากำลังและวิศวะไฟฟ้าสื่อสาร แต่ทีนี้ผมไม่สนใจใบประกอบวิชาชีพ ผมก็จะเลือกเรียนวิชาที่สนใจ อย่างอิเล็กทรอนิกส์ วิชาควบคุม เน้นว่าวิชานี้ผมอยากเรียนมากกว่าครับ ถามว่าดีไหม ผมว่าดีนะครับ คือมีความรู้ที่ค่อนข้างหลากหลาย และได้เรียนตามใจตัวเอง แต่ข้อเสียคือว่าผมไม่มีสิทธิสอบใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมครับ
วิชาที่เรียนแล้วสนุกที่สุด
ตอนนี้เป็นวิชา Embedded Control System ครับ ที่สนุกเพราะมันใช้ความรู้หลากหลายวิชามากเลยครับ ไม่ใช่วิชานี้วิชาเดียวจะเรียนได้ ต้องมีอย่างน้อย 4-5 วิชาความรู้พื้นฐานที่จะเรียนวิชานี้ได้ครับ ซึ่งจริง ๆ วิชานี้บนโลกนี้มีสอนอยู่ 2 มหาวิทยาลัยคือ Uof Michigan กับ ETH Zurichครับ ส่วนที่ ม.เกษตรฯ ก็มีอาจารย์เปิดสอน แต่ว่าเป็นการเปิดการเรียนการสอนคอร์สสั้น ๆ คือเรียนแค่หนึ่งเทอม ซึ่งมันสนุกตรงที่ว่า มันมีทั้งการเรียนทฤษฎีและการเรียนปฏิบัติ ทำให้เห็นภาพจริง ๆ ซึ่งแตกต่างจากวิชาทั่วไป
ฝึกงานที่ต่างประเทศ
ฝึกงานตอนปีสาม ตอนนั้นผมไปแข่งขันหุ่นยนต์อยู่แล้ว แล้วอยู่ต่อฝึกงานเลยช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน ผมไปฝึกงานที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีประเทศญี่ปุ่น ช่วงที่ไปตอนแรกเขาก็จะคุยก่อนว่าที่ห้องวิจัยเขาทำงานประมาณไหน และเขาอยากให้เราทำงานประมาณไหนให้เขา เป็นหัวข้อกว้าง ๆ พูดมาว่าอยากให้เราทำอะไร แล้วเราค่อยเจาะจงอีกทีว่าเราจะทำอะไรให้เขา ซึ่งมันเป็นโปรเจ็กต์ที่เปิดมากครับ อยากทำอะไรทำเลย เขาซัพพอร์ทเต็มที่ ขอแค่เราคิด และทำให้เขาครับ แต่วงจรนี้ต้องสามารถให้เด็กที่วิทยาลัยของเขาศึกษาตามได้ คือไม่ซับซ้อนและยากจนเกินไป ตอนนั้นเลือกทำหุ่นยนต์ดูดฝุ่นภายในบ้านครับ
ธีสิสหุ่นยนต์
ผมทำหุ่นยนต์ขี่ฟุตบอลครับ มันจะทรงตัวเองได้อัตโนมัติโดยไม่ล้ม เลือกทำเพราะว่ามันน่าสนใจดีครับ คือแค่คนไปยืนมันยังยากเลยครับ แล้วทำไมหุ่นยนต์มันถึงยืนได้ เอามือไปตีลูกบอลมันยังไม่ล้มเลยครับ ซึ่งต่างประเทศมีงานวิจัยด้านนี้ค่อนข้างเยอะ เราเรียกงานวิจัยด้านนี้ว่า mobile robot ครับ คือหุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ เช่น หุ่นยนต์ไปสำรวจดาวอังคารของ NASA
วิ่งประเพณี
กิจกรรมที่สร้างความสามัคคีในรุ่นครับ ปีหนึ่งทุกคนจะมาวิ่งรอบคณะ เท่ากับจำนวนรุ่นของตัวเอง ผมรุ่น 68 ก็วิ่งรอบคณะ 68 รอบ โดยที่ไม่ใช่ต่างคนต่างวิ่งนะครับ วิศวกรต้องทำงานเป็นทีมครับ เราต้องวิ่งไปพร้อม ๆ กัน ทุกคนจะต้องกอดคอกันวิ่งครับ
สิ่งสำคัญของวิศวกร
ต้องมีความคิดแปลกใหม่อยู่เสมอครับ ต้องสนใจเทคโนโลยีเนื่องจากสิ่งที่เรียนส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ที่คนรุ่นก่อน ๆ เขาได้ศึกษาไว้แล้ว ความรู้ในปัจจุบันมันก้าวหน้าไปไกลมาก เราต้องเรียนรู้อยู่เสมอ คือแค่ในห้องเรียนมันไม่พอให้เราทำงานได้ ต้องศึกษาเพิ่มเติมครับอันนี้เป็นสิ่งสำคัญ และต้องทำงานเป็นทีมครับ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีงานไหนที่วิศวกรจะทำงานคนเดียวครับ เราต้องรู้จักการแบ่งงานและต้องมีการทำงานร่วมกับคนอื่น
ตลาดงานวิศวกรไฟฟ้า
อย่างที่ผมเรียนมาเรียกได้ว่าเป็นงานที่เด็กไทยไม่ค่อยเรียนแล้วกัน เพราะเขามองว่ายาก แต่ละปีมีนิสิตทั้งรุ่น 200 คน ที่เรียนสายวิศวะไฟฟ้ามีคนเรียนรุ่นละ 10-20 คนเท่านั้นเองครับ ซึ่งการแย่งงานกับคนอื่นผมคิดว่าถ้าเรียนมาแนวผมเป็นไปได้ยากมาก ตลาดงานเรียกว่าต้องการค่อนข้างสูงมาก จบไปก็ไปเป็นนักออกแบบครับ ออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้ครับ
Admission Unlock
- ต้องมีใจครับ สอบเข้าว่ายากแล้ว เรียนยากกว่า
- ต้องชอบคณิตศาสตร์ เพราะที่เรียนมาคณิตศาสตร์เจอทุกวิชาครับ
- รักที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- มีความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากวิศวกรเราเป็นผู้สร้างครับ เรียกว่าต้องนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาสู่สังคมครับ
- ต้องทำงานเป็นทีมให้ได้ครับ รู้จักการทำงานเป็นทีม