เบสท์-ธัญทิพ พงษ์ไพบูล สาวใจดีรักสัตว์ รู้ตัวเองตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นสัตวแพทย์ ตั้งใจเรียน ทุ่มเทกับการติวหนังสือ ในที่สุดก็สามารถพิชิตคณะในฝันได้สำเร็จ และยังคว้าคะแนน Admissions อันดับ 1 ของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อีกด้วย เทคนิคการเรียนต่าง ๆ และเส้นทางการเตรียมตัวเข้าสู่มหาวิทยาลัยจะยากง่ายแค่ไหน พี่เบสท์มาแชร์ประสบการณ์ให้น้อง ๆ #AdGang59 ฟังกัน
วิธีเรียน
ตั้งใจเรียนในห้อง พยายามฟังที่คุณครูสอนให้ได้มากที่สุด ไม่เข้าใจก็ถามคุณครูในคาบเลย เพราะถ้าเรากลับบ้านไป บางครั้งเราอาจลืม การสอบเราก็ควรอ่านหนังสือก่อนสอบให้นาน ๆ ทยอยอ่าน อ่านไปเรื่อย ๆ สะสมความรู้ ดีกว่าที่เราจะมาอ่าน หนึ่งหรือสองวันก่อนสอบ แบบนั้นมันค่อนข้างเครียดและก็เหนื่อย เทคนิคเฉพาะตัวก็คือทำสมุดสรุปเนื้อหา แยกเป็นวิชาเลยค่ะ พอใกล้สอบก็เอามาทบทวนอีกที และก็ติวกับเพื่อน ๆ เพื่อนไม่เข้าใจ ก็จะมาถามเรา ถ้าเราตอบได้ ก็จะเป็นการทบทวนเนื้อหาที่เราได้อ่านไป แต่ถ้าเพื่อนบอกให้เพิ่มเนื้อหาก็จะเป็นผลดีกับเรา เราจะได้ความรู้ตรงนั้นด้วย หรือถ้าเพื่อนถามตรงไหนแล้วเราตอบไม่ได้ เราก็ต้องกลับไปดูเนื้อหาอีกครั้งให้เข้าใจ แล้วกลับไปสอนเพื่อนอีกครั้ง เป็นการแชร์ความรู้กับเพื่อน ๆ เป็นการทบทวนความรู้ของเราเองได้ดีมาก ๆ ทำให้เราประหยัดเวลาในการอ่านหนังสือได้เยอะ
เราค้นหาตัวเองอย่างไร
อาชีพที่อยู่ในใจตลอดเวลาก็คือ สัตวแพทย์ เพราะว่าเป็นคนชอบสัตว์ เป็นคนรักสัตว์ ชอบดูแล เวลาที่เห็นสัตว์ป่วยรู้สึกว่า ทำไมเราช่วยอะไรเขาไม่ได้ ทำไมเราทำได้เพียงพาไปหาสัตวแพทย์ และถ้าเราเป็นคนที่รักษาเขาได้ด้วยตนเอง จะเป็นยังไง เราจะทำได้หรือเปล่า เราก็เลยคิดว่า สัตวแพทย์จะเป็นอีกวิชาชีพที่ใช่ตัวเรา หลังจากนั้นพอเราขึ้นมัธยม เราก็ศึกษาข้อมูลการสอบเข้า มีมหาวิทยาลัยไหนเปิดสอนบ้าง การเรียนการสอนเป็นอย่างไร แล้วก็ได้ไปค่ายสัตวแพทย์ที่จุฬาฯ พี่ ๆ ที่คณะก็จะพาไปแนะนำคณะ แนะนำมหาวิทยาลัย ให้ความรู้เกี่ยวกับคณะสัตวแพทย์ อาชีพ ทำให้เรารู้ว่ามันใช่ตัวเองจริง ๆ
เทคนิคการเตรียมตัวแอดมิชชั่น
ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน อย่างของเบสท์ ก็คือคณะสัตวแพทยศาสตร์ มีรับตรงโดยการยื่น 7 วิชาสามัญ และแอดมิชชั่นโดยใช้คะแนน GAT และ PAT 2 เบสท์ทุ่มกับการอ่านวิชา PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์มาก สำหรับ O-NET ไม่ได้เตรียมตัว ด้วยพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่เรามีอยู่ ก็สามารถทำข้อสอบได้ ส่วนวิชาวิทยาศาสตร์ เราก็มีความรู้จาก PAT 2 มาอยู่แล้ว วิชาอื่น ๆ เราก็ตั้งใจเรียนและทบทวนสม่ำเสมอ เลยทำข้อสอบได้ สำหรับเทคนิคในการทำคะแนน GAT/PAT คือทำข้อสอบเก่าเยอะ ๆ ซื้อหนังสือแนวข้อสอบมาบ้าง หาจากอินเทอร์เน็ตบ้าง หนึ่งในนั้นก็จะเป็นเว็บไซต์ ทรูปลูกปัญญา ที่จะมีคลังข้อสอบที่ค่อนข้างเยอะ ที่เราสามารถดาวน์โหลดได้ หรือจะทำแบบออนไลน์ในเว็บไซต์เลยก็ได้ และจับเวลาไปด้วย
วิธีคลายเครียด
ท้อบ้าง ขี้เกียจบ้าง เป็นเรื่องปกติ เพราะว่าวิชาที่ต้องอ่าน ค่อนข้างหนัก ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อังกฤษ เยอะไปหมด เวลาที่เราท้อ เวลาที่เราเครียด เราก็จะปิดหนังสือ ออกไปเดินเล่นกับแม่ ออกไปเล่นกับสุนัข กระต่าย ปลา หรือว่า เล่นดนตรี หรือว่าเราจะนอน ให้ผ่อนคลายก่อน แล้วเราค่อยกลับมาอ่านหนังสือต่อ เพราะว่าถ้าเราดันทุรังอ่านต่อไปมันจะมีแต่ผลเสีย เราก็จะเครียด อ่านไม่ได้ ไม่เข้าใจ หรืออาจจะไปไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำให้เราออกไปจากโลกหนังสือสักครู่ แล้วเราค่อยกลับเข้าไปใหม่
ฝากถึงน้องที่จะแอดมิชชั่นปี 59
ช่วงเวลาในช่วงนั้นเป็นอะไรที่เครียดมาก ๆ แต่มันก็จะเป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่เราจะทุ่มทำในตรงนี้ ลองดูสักตั้ง ลองเอาชนะตัวเองดู สิ่งที่คนอื่นพูดกันมาว่าเราทำไม่ได้ เราสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ พยายามอดทนให้เยอะ ๆ ลองจดจ่ออยู่ที่หนังสือที่เราเกลียดมาก เพื่อที่เราจะได้มีอนาคตที่ดี และสำหรับน้องที่จะเข้าสัตวแพทย์ ปี 59 นี้ก็มีเส้นเพิ่มมา นั่นก็คือ กสพท อยากให้น้อง ๆ ลองทุกสนาม ทำเพื่อคณะในฝันของเรา สู้ ๆ นะคะ