บทสนทนา (Conversation) สำนวนการขัดจังหวะเพื่อเรียกความสนใจ
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
24 ม.ค. 66
 | 1.4K views



ในการเปิดการสนทนาหรือเริ่มที่จะพูดกับใครก็ตามนั้น เราจำเป็นจะต้องเรียกความสนใจจากผู้ที่เราต้องการจะพูดด้วย ก่อนที่เราจะพูดในสิ่งที่เราต้องการต่อไป ทั้งนี้ถือเป็นมารยาทของการสนทนาเพื่อแสดงความสุภาพ คำพูดเพื่อเรียกความสนใจนั้นมีหลายแบบ ดังนี้

 

ตัวอย่างสำนวนทั่วไปที่ใช้ในการขัดจังหวะ

Sorry                    ขอโทษนะ
Pardon                ขอโทษครับ
Excuse me                ขอโทษครับ
May I interrupt for a moment?    ขอขัดจังหวะสักครู่

 

เมื่อเราโทรศัพท์ไปหาใคร แล้วไม่แน่ใจว่าผู้ที่เราโทรศัพท์ไปหานั้นกำลังยุ่งหรือมีธุระอะไรอยู่รึเปล่า สามารถถามโดยใช้สำนวนตัวอย่าง ดังนี้

Am I interrupting?            ฉันรบกวนคุณรึเปล่า?    
Do you have a minute?        มีเวลาสักพักมั้ย?
Are you free to talk?        ว่างคุยมั้ย?
Can you give me some advice?    ฉันขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ย?

 

กรณีที่สนทนากันไปสักพักหนึ่งแล้ว เราต้องการแทรกขึ้นกลางคันในขณะที่คู่สนทนากำลังเล่าเรื่องหรืออธิบาย เราอาจจะพูดว่า

Sorry, but                ขอโทษนะ คือ 
Excuse me for interrupting, but    ขอโทษที่ขัดนะ แต่ว่า
May I ask a question?        ฉันขอถามหน่อยได้มั้ย?
I’d like to say something.        ฉันอยากจะพูดอะไรหน่อย

 

หรือหากเราต้องการจะกล่าวเสริมในเรื่องเล่าหรือคำอธิบายข้างต้น สามารถใช้สำนวนต่อไปนี้

Wait a minute.            เดี่ยวก่อนๆ
I might add that.            ขอเพิ่มเติมหน่อย
I have a point here.            ฉันมีข้อสังเกตว่า
May I make a comment on that?    ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้มั้ย?

 

เมื่อต้องการจะถามใครคนใดคนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจจะเปิดการสนทนาด้วยสำนวน

Do you know …?            รู้มั้ยว่า ...?
I’d like to know …            อยากรู้ว่า...
Could you tell me …?        บอกหน่อยได้มั้ยว่า ...?
I’m interested in …            ฉันสนใจเรื่อง...

 

นอกจากนี้ยังมีคำเชื่อมที่ใช้ในการสนทนาเพื่อให้คู่สนทนายังรับรู้อยู่ว่าเรากำลังให้ความสนใจหรือกำลังฟังอยู่เรื่อยๆ มาตลอด ถือเป็นการให้เกียรติแก่ผู้สนทนา ตัวอย่างเช่น

ตัวอย่างสถานการณ์ 1

A:    You know. We’ll never finish cleaning the house at this rate.
B:    Listen, there’s not that much left to do.

A:    รู้มั้ย, เราจะไม่มีทางทำความสะอาดบ้านเสร็จเลยถ้าช้าขนาดนี้
B:    ฟังนะ, ยังมีที่ต้องทำอีกไม่มากแล้ว

 

ตัวอย่างสถานการณ์ 2

A:    Every time we agree to meet, you’re late.
B:    Well, if we didn’t agree to meet so early, I wouldn’t be late.        
A:    Look, ten o’clock is not that early.                        
B:    Now, to some people ten o’clock is very early.            
A:    Of course, you are one of those people.                    
B:    It’s because I’m working nights this month.

A:    ทุกครั้งที่เรานัดกัน คุณช้าตลอด
B:    เอ, ก็ถ้าเราไม่นัดกันเช้านัก ฉันก็คงไม่สายหรอก
A:    ฟังนะ, 10 โมงเช้านี่ไม่ได้เช้าอะไรเลย
B:    แต่ว่า, สำหรับบางคน 10 โมงเช้าคือเช้ามากอยู่
A:    ก็แน่สิ, คุณคือหนึ่งในคนกลุ่มนั้นนี่
B:    ก็เดือนนี้ฉันทำงานกลางคืนนี่นา


 

Tag :