ในการเปิดการสนทนาหรือเริ่มที่จะพูดกับใครก็ตามนั้น เราจำเป็นจะต้องเรียกความสนใจจากผู้ที่เราต้องการจะพูดด้วย ก่อนที่เราจะพูดในสิ่งที่เราต้องการต่อไป ทั้งนี้ถือเป็นมารยาทของการสนทนาเพื่อแสดงความสุภาพ คำพูดเพื่อเรียกความสนใจนั้นมีหลายแบบ ดังนี้
ตัวอย่างสำนวนทั่วไปที่ใช้ในการขัดจังหวะ
Sorry ขอโทษนะ
Pardon ขอโทษครับ
Excuse me ขอโทษครับ
May I interrupt for a moment? ขอขัดจังหวะสักครู่
เมื่อเราโทรศัพท์ไปหาใคร แล้วไม่แน่ใจว่าผู้ที่เราโทรศัพท์ไปหานั้นกำลังยุ่งหรือมีธุระอะไรอยู่รึเปล่า สามารถถามโดยใช้สำนวนตัวอย่าง ดังนี้
Am I interrupting? ฉันรบกวนคุณรึเปล่า?
Do you have a minute? มีเวลาสักพักมั้ย?
Are you free to talk? ว่างคุยมั้ย?
Can you give me some advice? ฉันขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ย?
กรณีที่สนทนากันไปสักพักหนึ่งแล้ว เราต้องการแทรกขึ้นกลางคันในขณะที่คู่สนทนากำลังเล่าเรื่องหรืออธิบาย เราอาจจะพูดว่า
Sorry, but ขอโทษนะ คือ
Excuse me for interrupting, but ขอโทษที่ขัดนะ แต่ว่า
May I ask a question? ฉันขอถามหน่อยได้มั้ย?
I’d like to say something. ฉันอยากจะพูดอะไรหน่อย
หรือหากเราต้องการจะกล่าวเสริมในเรื่องเล่าหรือคำอธิบายข้างต้น สามารถใช้สำนวนต่อไปนี้
Wait a minute. เดี่ยวก่อนๆ
I might add that. ขอเพิ่มเติมหน่อย
I have a point here. ฉันมีข้อสังเกตว่า
May I make a comment on that? ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้มั้ย?
เมื่อต้องการจะถามใครคนใดคนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจจะเปิดการสนทนาด้วยสำนวน
Do you know …? รู้มั้ยว่า ...?
I’d like to know … อยากรู้ว่า...
Could you tell me …? บอกหน่อยได้มั้ยว่า ...?
I’m interested in … ฉันสนใจเรื่อง...
นอกจากนี้ยังมีคำเชื่อมที่ใช้ในการสนทนาเพื่อให้คู่สนทนายังรับรู้อยู่ว่าเรากำลังให้ความสนใจหรือกำลังฟังอยู่เรื่อยๆ มาตลอด ถือเป็นการให้เกียรติแก่ผู้สนทนา ตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างสถานการณ์ 1
A: You know. We’ll never finish cleaning the house at this rate.
B: Listen, there’s not that much left to do.
A: รู้มั้ย, เราจะไม่มีทางทำความสะอาดบ้านเสร็จเลยถ้าช้าขนาดนี้
B: ฟังนะ, ยังมีที่ต้องทำอีกไม่มากแล้ว
ตัวอย่างสถานการณ์ 2
A: Every time we agree to meet, you’re late.
B: Well, if we didn’t agree to meet so early, I wouldn’t be late.
A: Look, ten o’clock is not that early.
B: Now, to some people ten o’clock is very early.
A: Of course, you are one of those people.
B: It’s because I’m working nights this month.
A: ทุกครั้งที่เรานัดกัน คุณช้าตลอด
B: เอ, ก็ถ้าเราไม่นัดกันเช้านัก ฉันก็คงไม่สายหรอก
A: ฟังนะ, 10 โมงเช้านี่ไม่ได้เช้าอะไรเลย
B: แต่ว่า, สำหรับบางคน 10 โมงเช้าคือเช้ามากอยู่
A: ก็แน่สิ, คุณคือหนึ่งในคนกลุ่มนั้นนี่
B: ก็เดือนนี้ฉันทำงานกลางคืนนี่นา