ไวทยากรณ์ (Grammar) Articles
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
24 ม.ค. 66
 | 1.1K views



คำนามโดยส่วนใหญ่จะมี Article นำหน้า Article คือคำที่ใช้นำหน้าคำนาม แบ่งเป็น Indefinite Articles (คำนำหน้านามที่ไม่ชี้เฉพาะ) ได้แก่ a, an และ Definite Article (คำนำหน้านามที่ชี้เฉพาะ) ได้แก่ the และในบางครั้งคำนามก็ไม่จำเป็นต้องมี Article นำหน้า

I. Indefinite Articles

a/an เป็นคำนำหน้านามที่ไม่ชี้เฉพาะ ใช้นำหน้าคำนามนับได้เพื่อให้มีความหมายเป็นเอกพจน์และเป็นการกล่าวถึงคำนามนั้นๆ โดยทั่วไป ไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น

Miami is a city in Florida.        (ไมอามี่เป็นเมืองๆ หนึ่งในรัฐฟลอริด้า)
A dog is a loyal friend.        (สุนัขเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์)

นอกจาก a และ an จะใช้นำหน้าคำนามนับได้ทั่วไปแล้ว ยังใช้นำหน้าคำนามนับได้ต่างๆ ที่เรากล่าวถึงเป็นครั้งแรก เช่น

    I bought a jacket and a T-shirt. The jacket was cheap but the T-shirt …
    (ฉันซื้อแจ็คเก็ตมาตัวนึงแล้วก็เสื้อยืดตัวนึง แจ็คเก็ตตัวนั้นราคาถูกแต่เสื้อยืดนั้น...)

 

a/an มีหลักการใช้ดังนี้

        1. a ใช้นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ เช่น

I have got a camera.
There’s a girl at the bus stop.

    คำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระแต่ออกเสียงพยัญชนะ “ย” ต้องใช้ a นำหน้า เช่น

We didn’t have to wear a uniform.
Poland is a European country.

        2. an ใช้นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ “อ” หรือ a/e/i/o/u เช่น

Do you want an umbrella?
He say that he want to be an Edison.

คำนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะแต่ออกเสียงสระ “อ” ต้องใช้ an นำหน้า เช่น

I study an hour.
It’s an honor to meet you.

*คำนามที่มีคำขยายอยู่ข้างหน้า ให้พิจารณาจากคำขยายนั้นว่าขึ้นต้นด้วยเสียงอะไร เช่น

Tony wants to learn a foreign language.
There was an interesting programme on Netflix last night.

 

        3. ใช้ a/an ในสำนวนต่าง ๆ

           1. จำนวน, ตัวเลขอัตราส่วน เช่น He works eight hours a day, five days a week.
           2. อาการเจ็บป่วย เช่น. Are you having a fever?
           3. สำนวนกริยา เช่น
               make a mistake    (ทำผิด, ทำพลาด)
               have a goodtime    (สนุก, มีความสุข)
               take a shower    (อาบน้ำ)

 

II. Definite Article

the เป็นคำนำหน้านามที่ชี้เฉพาะ ใช้นำหน้าคำนามที่ถูกกล่าวถึงมาแล้วหรือเพื่อชี้เฉพาะเจาะจงว่าหมายถึงคนใด สิ่งใด หรือสถานที่ใด เช่น

    We enjoyed our holiday. The hotel was very nice.
    (พวกเรามีความสุขกับวันหยุดที่ผ่านมา โรงแรม (ที่เราพัก) มันดีมาก)

    I’d like to speak to the manager, please.        
    (ขอฉันคุยกับผู้จัดการ (ร้านนี้) หน่อย)

 

the ใช้นำหน้าได้ทั้งนามนับได้ (เอกพจน์และพหูพจน์) และนามนับไม่ได้ เช่น

I’m going out with the girls tonight.
Pass me the sugar, please.

 

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในภาษาอังกฤษ เรายังใช้ the นำหน้าในกรณีต่อไปนี้

1. สิ่งที่มีเพียงสิ่งเดียวในโลก เช่น

The Earth goes round the sun.
I lay down on the ground and looked up at the sky.

*ยกเว้น Would you like to go travel in space.

2. ช่วงเวลาของวันและฤดูกาล (ที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น) เช่น

the morning        the afternoon        the evening
the past        the present        the future
(the) winter        (the) summer    (the) autumn
(the) spring        the rainy season

3. ตำแหน่งและทิศทางต่างๆ เช่น

the top    the left    the right    the end    the beginning
the middle     the north    the south    the east    the west
I’ve been to the north of Japan but not to the south.
Do you drive on the right or on the left in your country?    

4. ชื่อหรือสำนวนในรูป the … of เช่น

the Great Wall of China
the Tower of London
the University of Tokyo
Seoul is the capital of Korea.

5. ลำดับที่ เช่น

When was the first time you traveled abroad?
Our classroom is on the third floor.

6. ารปรียบเทีย เช่น

     1. ขั้นสูงสุด    the best~    the most~    the worst~    the biggest~ 
        Who is the best player in the team?
        ขั้นกว่า        The + ขั้นกว่า~, the + ขั้นกว่า~ (ยิ่ง~ก็ยิ่ง~)
        The more you eat, the fatter you will be.     (ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน)

     2. เท่ากัน        the same    the same~
        These two photographs are the same.

7. การเล่นเครื่องดนตรี เช่น

Diana is learning to play the piano.
She’s playing the violin.

8. ชื่อประเทศที่มีคำว่า States, Republic, Kingdom เช่น

the United Kingdom
the United States of America
the Republic of Ireland

9. ชื่อประเทศ, หมู่เกาะ, เทือกเขา ที่เป็นรูปพหูพจน์ (มี ~s เติมท้าย) เช่น

the Netherlands    the Philippines    the Alps
The highest mountain in the Alps is Mont Blanc.

10. ชื่อมหาสมุทร, ทะเล, แม่น้ำ, คลอง เช่น

the Atlantic (Ocean)            the Mediterranean (Sea)
the Chao Phraya River        the Suez Canal
The longest river in the world is the Nile.

11. ชื่อโรงแรม, ภัตตาคาร, ผับ, โรงหนัง, โรงละคร, พิพิธภัณฑ์, สถาบัน, องค์กร หรือสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากๆ ของประเทศ เช่น

the Hilton Hotel            the Peninsula Hotels    
the National Theatre        the Louvre
the Royal Palace            the White House    

12. ชื่อตระกูล, หนังสือพิมพ์, สายเรือหรือเที่ยวบินสำคัญ, ยุคสมัยสำคัญ, ตำแหน่งสำคัญ, กลุ่มคนหรือชนชาติ ฯลฯ

the Kennedys                the New York Times
the Queen Mary            the Renaissance            
the President                the Irish (ชาวไอริช) 
Do you think the rich should pay more taxes to help the poor?
The Chinese invented printing.

*กลุ่มตำรวจ, กองทัพทหาร, นักดับเพลิง และคณะรัฐบาลของเมืองหรือประเทศ เราใช้

the police    the army    the fire brigade    the government

 

III. No Article

คำนามส่วนใหญ่จำเป็นต้องมี article นำหน้า แต่คำนามบางประเภทไม่ต้องมี article นำหน้า เช่น นามนับไม่ได้หรือนามนับได้ (พหูพจน์) ที่หมายถึงเรื่องทั่วไปไม่ได้เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น

Water is consisted of Hydrogen and Oxygen.

    (น้ำประกอบด้วยไฮโดรเจนกับออกซิเจน)

    I don’t like cold weather.            (ฉันไม่ชอบอากาศหนาวๆ)
    I hate exams.                (ฉันเกลียดการสอบ)

Teachers must be good role models to students.  (ครูต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน)

 

โดยปกติแล้ว the ใช้นำหน้าได้ทั้งนามนับได้และนามนับไม่ได้ แต่ยกเว้นกรณีต่อไปนี้

          1. มื้ออาหาร เช่น

What did you have for breakfast?        

          2. ชื่อกีฬา เช่น

My favourite sport is skiing.        

          3. ชื่อวิชาหรือภาษา เช่น

Jack’s brother is studying physics and chemistry.    

          4. วัน, เดือน, ฤดูกาล (ในความหมายทั่วไป) เช่น

What are you doing Saturday?        
We got married in December.        
In autumn the leaves turn red.        

          5. next/last + week/weekend/month/year/summer/Monday ฯลฯ

I’m not working next week.        
Last winter the temperature fell to minus 25 degrees.
It was our wedding anniversary last Sunday.     

          6. ชื่อประเทศ, เมือง, รัฐ, เกาะ, ทวีป เช่น

Tokyo is the capital of Japan.        
Malta is an island in the Mediterranean.    
Marco Polo once travelled from Europe to Asia.

*ภูมิภาค northern/southern/central + of Okinawa is in southern of Japan.

          7. ชื่อถนนหรือสถานที่สำคัญในเมือง เช่น สถานี สนามบิน สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สะพาน น้ำตก ชายหาด โรงเรียน มหาวิทยาลัย วัด โบสถ์ ปราสาท พระราชวัง เป็นต้น

Fifth Avenue            Victoria Station        Narita Airport    
London Zoo            Lumpini Park            Waterloo Bridge
Niagara Falls            Pattaya Beach        Edinburgh Castle
Buckingham Palace        Westminster Abbey        
Can you tell me where Oxford Street is?
Times Square is in New York.
Do you regret going to Cambridge University?

          8. ชื่อเฉพาะต่างๆ เช่น โรค, เชื้อชาติ, ศาสนา, เทศกาล, วันสำคัญ เป็นต้น

She can’t go to school because of influenza.
My friend is American.
Most of Thai people believe in Buddhism.
I have to work on Christmas Day.

          9. ชื่อคน, ตำแหน่งที่ได้ เช่น

Joe Biden was elected President for the first time.
Do you know Professor Johnson’s number?

          10. วิธีการ เช่น การเดินทาง, การสื่อสาร, การชำระเงิน เป็นต้น

I usually go to school by bus.
Much of his work is done by phone.
Can I pay by credit card?

          11. คำนามที่ตามด้วยตัวเลข เช่น

Can you tell me where Room 25 is, please?
Our train leaves from Platform 4.
Flight VE123 to Hong Kong is now boarding at Gate 16.

          12.สำนวนที่เกี่ยวกับ home/bed/work

Are you staying home today?        (วันนี้อยู่บ้านมั้ย?)
I’m going to bed now. Goodnight!        (จะไปนอนแล้วนะ ฝันดี)
I finish work at 5 o’clock every day.    (ฉันเลิกงานตอน 5 โมงเย็นทุกวัน)

*คำนามบางคำหรือบางสำนวน หากมี the และไม่มี the นำหน้า ความหมายจะต่างกัน เช่น

ไม่มี article นำหน้า

มี article นำหน้า

go to school

ไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ

go to the school

ไปโรงเรียนเพื่อไปเที่ยวหรือติดต่อธุระ

go to church

ไปโบสถ์เพื่อร่วมกิจกรรมทางศาสนา

go to the church

ไปเที่ยวชมโบสถ์

go to hospital

ไปโรงพยาบาลเพื่อรักษา

go to the hospital

ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมคนอื่นหรือติดต่อธุระ

 

การไปสถานที่เพื่อวัตถุประสงค์ปกติ

I usually go to school by bus.            (ปกติฉันนั่งรถบัสไปเรียนหนังสือ)
David usually goes to church on Sundays.    (เดวิดไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์)
He was in an accident. He had to go to hospital.   (เขาได้รับอุบัติเหตุ เขาจึงต้องไปโรงพยาบาล)
What did you study at university?            (เธอเรียนคณะอะไรเหรอ?)
Why is he in prison?                    (ทำไมเขาถึงโดนจับเข้าคุก?)

 

การไปสถานที่นั้นเพื่อทำกิจกรรมอื่น

Every term parents are invited to the school to meet the teachers.
(ทุกๆ เทอม ผู้ปกครองจะถูกเชิญให้ไปพบปะกับคุณครู)

Anne has gone to the hospital to visit Jane.    
(แอนไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเจน)

The workmen went to the church to repair the roof.
(คนงานไปโบสถ์เพื่อซ่อมหลังคา)

 

*ส่วนสถานที่ดังต่อไปนี้ใช้ the นำหน้าเพื่อแสดงถึงการไปใช้บริการ

the cinema        the theatre        the bank        the post office
the station        the airport        the city centre    the doctor

I need some money. I must go to the bank.
There were a lot of people at the station waiting for the train.
You’re not well. Why don’t you go to the doctor?



 

Tag :