การอ่านการ์ตูนนั้นต้องพยายามตีความหมายจากภาพประกอบไปทีละช่อง มุขตลกมักอยู่ในช่องสุดท้าย วิธีการทำโจทย์ประเภทนี้คือ อ่านการ์ตูนทั้งหมดก่อนหนึ่งรอบแล้วไปอ่านคำถามทั้งหมดก่อนว่าถามอะไรบ้าง หลังจากนั้นค่อยๆ ตอบคำถามทีละข้อโดยย้อนกลับไปทำความเข้าใจการ์ตูนอย่างละเอียด นักเรียนจำเป็นจะต้องฝึกทำโจทย์แนวนี้ให้มากเพื่อให้คุ้นเคยกับการตีความมุขตลกของการ์ตูนซึ่งมักจะใช้คำพูดอ้อมๆ รวมไปถึงฝึกสังเกตรายละเอียดรูปภาพประกอบ เนื่องจากอาจมีคำใบ้สำคัญปรากฏอยู่ด้วย
ต่อไปนี้คือตัวอย่างข้อสอบการอ่านการ์ตูนบางส่วนที่เคยปรากฏในข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ตัวอย่างที่ 1
1. Based on what the man is wearing, we can assume that he is a/an …
1. Viking
2. Roman
3. Indian
4. Arabian
จากในรูปผู้ชายสวมเขาสัตว์แต่งตัวเป็นชาวไวกิ้ง ดังนั้นตอบข้อ a
2. Why did the man say: “If you don’t mind, I’ll just stand”? It is because …
1. he does not mind sitting
2. he prefers standing to sitting
3. he can’t wait to see the doctor
4. he is afraid he might hurt himself
ช่องที่ 1 ผู้ชายพูดว่า “ผมอยากจะพบหมอ” พยาบาลพูดว่า “ได้ค่ะ” “เชิญนั่งค่ะ อีกสักครู่จะได้พบคุณหมอค่ะ”
ช่องที่ 2 ผู้ชายพูดว่า “ถ้าไม่เป็นไร ผมขอยืนนะครับ”
จากรูปผู้ชายในช่องที่ 2 มีธนูปักอยู่ที่ก้นแสดงว่าโดนยิงมา จึงนั่งไม่ได้เพราะเจ็บ ตอบข้อ 2
ตัวอย่างที่ 2
1. They are in a …
1. supermarket
2. cafeteria
3. restaurant
4. theater
จากในรูปจะเห็นว่ามีรถเข็นอยู่ แสดงว่าพวกเขาอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ตอบข้อ 1
2. The phrase “on an empty stomach” (frame 1) means …
1. with nothing in your shopping cart
2. when you’re hungry
3. without money
4. if you’ve just eaten
ช่องที่ 1 พูดว่า “คุณไม่ควรมาซื้อของตอนท้องว่าง”
ช่องที่ 2 พูดว่า “ไม่อย่างนั้นคุณจะเผลอซื้อของกินเยอะไปหมด”
ตอนท้องว่าง = ตอนหิว ดังนั้นตอบข้อ 2
3. What can be implied?
1. They haven’t eaten yet.
2. They bought a lot.
3. They disagree with each other.
4. They are wise shoppers.
ช่องที่ 3 พูดว่า “ดีแล้วที่เรากินแซนด์วิชมาก่อน” ส่วนอีกคนพูดว่า “ฉันจะเอารถเข็นคันนี้ไปรวมกับคันอื่นๆ ของเรา” แปลว่าซื้อของเยอะมาก ตอบข้อ 2
4. The word “Otherwise” (frame 2) means …
1. If so
2. Likewise
3. Even though
4. Whenever
if so = มิฉะนั้น, likewise = ในทำนองเดียวกัน, even though = แม้ว่า, whenever = เมื่อใดก็ตาม ดังนั้นตอบข้อ 1
5. In frame 3, the word “others” refers to other …
1. shops
2. carts
3. sandwiches
4. collections
“ฉันจะเอารถเข็นคันนี้ไปรวมกับคันอื่นๆ ของเรา” จากคำพูดนี้ ตอบข้อ 2
ตัวอย่างที่ 3
1. Sandi is …
1. the one who is after him
2. the one he loves
3. his traveling companion
4. his sister
จากเนื้อเรื่องโดยรวมคือ กบหนุ่มจะทำทุกอย่างเพื่อจะได้จูบกบสาว แซนดี้ แสดงว่าแซนดี้คือคนที่เขารัก ข้อ c แปลว่าเพื่อนร่วมเดินทาง ดังนั้นตอบข้อ b
2. He is asking Sandi to …
1. climb a mountain
2. give him a kiss
3. hop around the world
4. swim in the ocean
กบหนุ่มนั้นอยากจะทำทุกอย่างเพียงเพื่อจะขอจูบกบสาว ตอบข้อ 2
3. He is trying to tell Sandi that …
1. she never listened to him before
2. he is planning to go away
3. she doesn’t have to do anything
4. he loves her very much
กบหนุ่มยอมทำสิ่งต่างๆ มากมายเพราะเขารักแซนดี้มาก ตอบข้อ 3
4. In frame 5, “That’s sweet” could best be replaced by “…”
1. Let’s go home
2. Just try
3. How nice
4. Don’t go honey
That’s sweet = น่ารักจังเลย มีความหมายใกล้เคียงกับ How nice ดังนั้นตอบข้อ 4
5. In the last frame, Sandi implies that …
1. she is not interested in him
2. she wants to be his girlfriend
3. she prefers postcards to letters
4. she will go on vacation with him
ในช่องสุดท้าย กบสาวพูดว่า “จำไว้ด้วยว่าฉันสะสมโปสการ์ดจากหลายๆ ประเทศ” แปลว่ากบสาวอยากได้โปสการ์ดแต่ไม่ได้สนใจกบหนุ่ม ดังนั้นตอบข้อ a
ตัวอย่างที่ 4
1. What should Theme Park Land be?
1. an aquarium
2. a wonderland
3. an amusement park
4. a heritage show park
จากช่องที่ 1 มีรูปปราสาทด้านหลังและมีเด็ก 2 คนกำลังกินไอติม สถานที่น่าจะเป็นสวนสนุก ตอบข้อ c
2. What makes this cartoon funny?
1. the children’s response to their mother’s order
2. the mom’s plan to visit some other museum
3. the boy’s remark on his mom’s decision
4. the girl’s reply to her brother’s question
ช่องที่ 1 เด็กพูดว่า “พวกเราจะกลับมาอีกพรุ่งนี้ใช่มั้ย?” พี่สาวพูดว่า “ไม่, พวกเราจะไปพิพิธภัณฑ์แทนเพราะแม่”
ช่องที่ 3 เด็กพูดว่า “ผมได้ยินว่าสวนสนุกลงโทษพวกเราไม่ให้มาที่นี่อีก เพราะคุณแม่ไปทำอะไรไว้”
เด็กตีความคำตัดสินใจของคุณแม่ในเชิงตลก ดังนั้นตอบข้อ 3
3. What was the boy’s mood when he talked to his sister?
1. anxiety
2. disappointment
3. curiosity
4. excitement
anxiety = ความวิตกกังวล, disappointment = ความผิดหวัง, curiosity = ความอยากรู้, excitement = ความตื่นเต้น ตอบข้อ 3
4. What should be the time of day?
1. dawn
2. afternoon
3. evening
4. midnight
จากช่องที่ 2 มีรูปพระอาทิตย์อยู่ ดังนั้นตอบข้อ b ตอนเที่ยง/บ่าย
5. What wouldn’t the mother take her children back to Theme Park Land the next day?
1. She though that Theme Park Land was amusing for children only.
2. She felt that Theme Park Land was not a suitable place for her children to visit.
3. She knew that her children had done something wrong in Theme Park Land the day before.
4. She would like her children to gain knowledge from the museum rather than have fun at Theme Park Land.
จากการตัดสินใจของแม่ว่าจะไปพิพิธภัณฑ์แสดงว่าแม่อยากให้เด็กๆ มีความรู้มากกว่าไปเล่นสนุกในธีมปาร์คแลนด์ ดังนั้นตอบข้อ d