ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดานั้น มีความร่วมมือกันที่จะลดปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยมีการจัดตั้งเขตอุทยานแห่งชาติขึ้น เพื่อให้การคุ้มครองพันธุ์สัตว์และพืช ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ มีการเชื่อมอุทยานต่างๆ เข้าด้วยกัน และมีความพยายามในการลดการตัดไม้ทำลายป่าของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่การทำลายพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติก็ยังมีอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ทำให้แนวทางในการลดภาวะโลกร้อน ยังต้องได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทวีปอเมริกาเหนือ
ในส่วนของพลังงานทดแทนในทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา มีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน แทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยในสหรัฐอเมริกา มีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลม และมีการติดตั้งกังหันลมไฟฟ้ากันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และมีการผลิตพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีการผลิตกระแสไฟฟ้า และพลังงานชีวภาพได้เป็นจำนวนมาก แต่กฎหมายก็ยังบังคับใช้ในเรื่องพลังงานทดแทนเพียงแค่ในระดับรัฐเท่านั้น
ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาได้หันมาแก้ไขปัญหาลดโลกร้อนมากขึ้น โดยเมื่อ ค.ศ. 2009 สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมาย America Clean Energy and Security Act นอกจากนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ยังเป็นผู้ให้หลักการที่เป็นที่มาขององค์กรในการสนับสนุนกองทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม (Global Environment Facility : GEF) เป็นการสนับสนุนเงินทุนให้แก่โครงการในประเทศอื่นๆ
การลดปัญหาชุมชนแออัดในเมืองเม็กซิโกซิตี อันเนื่องมาจากชาวเม็กซิกันเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการขยายตัวของเขตเมือง เกิดมลพิษทางน้ำและอากาศ และเกิดปัญหาคุณภาพชีวิตของประชากร รัฐบาลเม็กซิโกจึงได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชากรมีรายได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังพยายามลดอัตราการว่างงาน ลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน ปรับเปลี่ยนระบบการขนส่งทางน้ำ และวางแผนปลูกต้นไม้ในประเทศให้ได้มากกว่า 1 ล้านต้น
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทวีปอเมริกาใต้
ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ทำให้แนวทางในการลดภาวะโลกร้อน ยังต้องได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม (GEF) โดยประเทศบราซิล เป็นประเทศที่มีโครงการที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนมากที่สุด และเป็นประเทศเดียวในทวีป ที่มีการบังคับใช้กฎหมายการใช้พลังงานทดแทนในระดับประเทศ ในปี ค.ศ. 2009 หลังการประชุมเจรจาอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศบราซิลได้ตกลงที่จะลดอัตราการทำลายพื้นที่ป่าแอมะซอน และลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ ในทวีปอเมริกาใต้มีเพียงประเทศซูรินาเมเท่านั้น ที่ไม่รับพิธีสารเกียวโต ขณะที่ประเทศบราซิลมีบทบาทในการลดภาวะโลกร้อนบนเวทีโลกมากที่สุดในทวีป
ปัจจุบัน ประเทศบราซิลถือเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ในการแก้ปัญหาด้านพลังงานทดแทนในอเมริกาใต้ ด้วยการสนับสนุนการผลิตพลังงานชีวภาพ โดยมีการออกแบบรถยนต์ที่สามารถใช้ได้กับทั้งน้ำมัน และเอทานอล ซึ่งโครงการนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก การหันมาใช้พลังงานเอทานอลของประเทศบราซิลนี้ ถือเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและเป็นต้นแบบของหลายๆ ประเทศ
ทวีปอเมริกาใต้ ยังมีนโยบายการลดอัตราการทำลายพื้นที่ป่าฝนในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ของป่าแอมะซอนนั้น มีความพยายามในการลดอัตราการตัดไม้ทำลายป่า ด้วยการไม่ขยายพื้นที่เข้าไปอยู่อาศัยในป่า และไม่ปรับสภาพพื้นที่ป่าเป็นทุ่งหญ้าและเลี้ยงสัตว์ และการสนับสนุนเกษตรอินทรีย์
เรียบเรียงโดย : ถาปกรณ์ กำเนิดศิริ