กฎหมายเรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นกฎหมายหนึ่งที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ กฎหมายเรื่องทรัพย์สินทางปัญญานั้น เป็นกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อป้องกัน และปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือทรัพย์สินทางปัญญาของเจ้าของผู้ผลิตผลงาน ซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์ และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นนั้น สามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นวงกว้าง ทั้งในส่วนของผู้ผลิต และประเทศเจ้าของการผลิตนั้น

ในมุมของผู้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ การถูกลอกเลียน หรือฉกฉวยเอาความรู้ความสามารถของตนเองไปอย่างมิได้รับการอนุญาต ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลอันเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ในแง่นี้ การละเมิดลิขสิทธิ์อาจจะสามารถถูกพิจารณาได้ว่าเป็นอาชญากรรมในรูปแบบหนึ่ง นอกจากนี้ การละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญานั้น ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย

การมีกฎหมายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จึงส่งผลโดยตรงต่อการคุ้มครองเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา รวมไปถึงการปราบปรามผู้ละเมิด หรือผู้ลอกเลียนลิขสิทธิ์ หรือทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น

ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ การละเมิดลิขสิทธิ์ หรือการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญ ในการใช้เป็นเหตุผลของการกีดกันทางการค้า ที่อาจจะก่อให้เกิดผลเสียหายต่อระบบการค้าของประเทศต่างๆ ดังนั้น ในแต่ละประเทศจึงมีความพยายามในการจัดการกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อมิให้ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงยังคงเป็นการรักษาสิทธิ และเสรีภาพของปัจเจกบุคคลในระบบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ด้วยในอีกทางหนึ่ง

เมื่อพิจารณาในมิติทางเศรษฐกิจแล้วพบว่า กฎหมายการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญานั้น ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการพัฒนา และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ กล่าวคือ ความสามารถในการควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ผ่านทางเครื่องมือทางกฎหมาย เป็นพื้นฐานหลักที่สำคัญในการวางรากฐานของความมั่นคง และความไว้วางใจในความปลอดภัย และการคุ้มครองในเชิงเศรษฐกิจที่มีต่อนักลงทุนต่างประเทศ ในแง่นี้ การสร้างความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นดังกล่าว คือมูลเหตุที่สำคัญในการขยายความก้าวหน้า และการขยายการลงทุนของนักลงทุน ซึ่งมีส่วนผลักดันให้เกิดการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจของประเทศ

เรียบเรียงโดย : ถาปกรณ์ กำเนิดศิริ