ภาษาจีน ม. ปลาย ลักษณนามในภาษาจีน
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
06 ส.ค. 64
 | 39.4K views



ลักษณนามในภาษาจีน

汉语中的量词

 

      ลักษณนามนับเป็นบทเรียนสำคัญบทหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในเนื้อหาของข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยแทบทุกปี  และบางปีออกมากถึง 4-5 ข้อ สำหรับการสอบที่เฉือนคะแนนเข้าเส้นชัยกันเพียงสองสามคะแนนล่ะก็ 4-5 คะแนนย่อมมีความหมายอย่างยิ่งสำหรับผู้เข้าสอบอย่างแน่นอน   และที่สำคัญไปกว่านั้น คือจะมีนักเรียนสักกี่คนที่เคยทราบว่าแท้จริงแล้วข้อสอบลักษณนามไม่ได้วัดความสามารถในการท่องจำแต่อย่างใด   หากแต่วัดความเข้าใจในการใช้ลักษณนามต่างหาก   ข้อพิสูจน์คือ  บ่อยครั้งที่นักเรียนอ่านโจทย์ออก  แปลได้  แต่ตอบผิด   ผลสืบเนื่องมาจากความไม่เข้าใจในหลักการใช้ทางไวยากรณ์ของลักษณนามนั่นเอง

 

      ในบทนี้  ผมจะไม่สอนโดยการยัดเยียดคำศัพท์ให้น้อง ๆไปท่องจำอย่างเดียว  เพราะนั่นเท่ากับว่าผมไม่ได้สอนอะไรเลย  แค่ลอกลักษณนามจากพจนานุกรมมาให้น้อง ๆ ท่องเท่านั้น    เนื้อหาในบทเรียนนี้ผมจะแนะนำวิธีการใช้และวิเคราะห์โจทย์อย่างมีหลักการและจำง่าย  เพื่อให้นักเรียนเสียแรงท่องน้อยที่สุดและเข้าใจมากที่สุด

 

      ก่อนอื่นผมมีข้อสังเกตหลายประการเกี่ยวกับลักษณนามในภาษาจีนมาแนะนำ  เพื่อให้ผู้เรียนเกิดมโนภาพคร่าวๆ เกี่ยวกับโครงสร้างของลักษณนาม

 

1. ความแตกต่างของโครงสร้างระหว่างภาษาจีนและภาษาไทย

 

น้ำหนึ่งแก้ว    一杯 ; ในภาษาไทยคำขยายคำนามจะวางหลังคำนาม  แต่ในภาษาจีนคำขยายคำนามจะวางอยู่หน้าคำนาม 

ฉะนั้น หนึ่งแก้ว ซึ่งขยายคำว่า น้ำ จึงต้องวางอยู่ด้านหน้าดังตัวอย่าง 一杯+水

 

2. การเรียงลำดับของลักษณะนามกับคำขยายคำนาม 

 

他是一个不爱看电影的人

(ต.他是一個不愛看電影的人。)

Tā shì yī gè bù ài kàn diàn yǐng de rén  

เขาเป็นคนคนหนึ่งที่ไม่ชอบดูหนัง      

*เราจะพบว่า  ลักษณนามจะวางอยู่หน้าสุดของกลุ่มคำขยายเสมอ

 

ตัวอย่าง:

这是一个令人痛苦的晚上。           

(ต.   這是一個令人痛苦的晚上。)

Zhè shì yī gè lìng rén tòng kǔ de wǎn shàng。

นี่เป็นคืนคืนหนึ่งที่ชวนให้คนรู้สึกเจ็บปวด

*痛苦tòngkǔ (ค.) = เจ็บปวด

 

我有一件被朋友撕破的衣服。          

Wǒ yǒu yī jiàn bèi péng yǒu sī pò  de yī fú。                 

ผมมีเสื้อผ้าตัวหนึ่งที่ถูกเพื่อนฉีกจนขาด

  *撕破sīpò (ก.) = ฉีกจนขาด

 

他是一个叫马丁的美国朋友。       

(ต.   他是一個叫馬丁的美國朋友。)

Tā shì yī gè jiào mǎ dīng  de měi guó péng yǒu。

เขาเป็นเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่งที่ชื่อว่ามาร์ติน

             马丁mǎdīng (น.) = มาร์ติน
 

他是一个国家队里最优秀的教练。            

(.   他是一個國家隊裏最优秀的教練。)

Tā shì yī gè guó jiā duì lǐ zuì yóu xiù  de jiào liàn。 

เขาเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในทีมชาติ

             优秀yoūxiù (ค.) = ยอดเยี่ยม

 

这个完美无缺的陶器是一位富翁的家宝。                                          

(ต.  這個完美無缺的陶器是一位富翁的家寶。)

Zhè gè wán měi wú quē de táo qì shì yī wèi fù wēng  de jiā bǎo。

เครื่องปั้นดินเผาที่สมบูรณ์ไร้ที่ตินี้เป็นสมบัติประจำตระกูลของเศรษฐีท่านหนึ่ง

             陶器 táoqì (น.) = เครื่องปั้นดินเผา     富翁fùwēng (น.) = เศรษฐี

 

ประโยชน์ของลักษณะนาม

      ลักษณนามมีบทบาทสองประการเป็นสำคัญ  คือ การบรรยายลักษณะของสิ่งของ และการเพิ่มอรรถรสให้กับสิ่งของที่ถูกบรรยายถึง  (ดูตัวอย่าง)

色彩sècǎi

อรรถรสและสีสัน

例:

老师 (ต.一位老師) อาจารย์หนึ่งท่าน                          

公司  บริษัทหนึ่งแห่ง 

孤儿院 (ต.一所孤兒院) ศูนย์เด็กกำพร้าหนึ่งแห่ง 

* คำเหล่านี้ย่อมฟังดูมีอรรถรสกว่า  อาจารย์หนึ่งคน  บริษัทหนึ่งบริษัท  ศูนย์เด็กกำพร้าที่หนึ่ง

形象xíngxiàng

รูปร่างลักษณะ

例:  

刀  มีดหนึ่งเล่ม  

鞋 (ต.一雙鞋) รองเท้าหนึ่งคู่   

大树 (ต.一棵大樹) ต้นไม้หนึ่งต้น

知识 (ต.一點知識) ความรู้นิดหน่อย

* ลักษณนามเหล่านี้หน้าที่หลักคือทำให้ผู้ฟังนึกภาพลักษณะของสิ่งของออกทันทีที่ได้ยิน

 

名量詞 - คำลักษณนามที่ใช้สำหรับคำนาม

1.ลักษณนามที่เป็นเอกพจน์

กลุ่มที่ 1  ลักษณนามใช้สำหรับกลุ่มสิ่งของที่มีลักษณะเป็นแท่งยาว

蛇 (ต.一條蛇)       yìtiáoshé                  งูหนึ่งตัว      

棍                          yìgēngùn                 กระบองหนึ่งแท่ง

笔 (ต.一支筆)        yìzhībǐ                    ปากกาหนึ่งแท่ง 

树 (ต.一棵樹 )       yìkēshù                   ต้นไม้หนึ่ง้น  

刀                           yìbǎdāo                   มีดหนึ่งเล่ม

* ลักษณนามชุดนี้  ใช้บรรยายสิ่งของที่มีลักษณะยาวทั้งสิ้น  แต่ความแตกต่างอยู่ที่  条 (ต. 條) ใช้กับสัตว์ที่มีตัวยาว เช่น ปลา งู  จิ้งจก  และสามารถใช้กับสิ่งของที่มีความยาวแต่คดงอได้ เช่น เชือก

เข็มขัด ;根 ใช้กับของแข็งและยาว และมักจะเป็นสิ่งของที่มีลักษณะต้องจับด้วยการ “กำ” ห้านิ้ว  แต่支ซึ่งแปลเป็นไทยว่าแท่งเหมือนกันนั้นมักนิยมใช้กับสิ่งของเป็นแท่งที่สามารถหนีบด้วยนิ้วได้  เช่น  ปากกา  กิ่งไม้เล็ก ๆ  ตะเกียบข้างหนึ่ง เป็นต้น;棵 ใช้กับต้นไม้ยืนต้น (หากเป็นต้นหญ้าต้องใช้  一根草 เพราะต้นหญ้าถอนออกจากดินได้ด้วยการ “กำ” ;把 ใช้กับอุปกรณ์การทำงานที่มีด้ามจับ  เช่น ดาบเก้าเล่ม (九把刀) แต่หากใช้เป็นลักษณนามของนามนับไม่ได้ จะมีความหมายว่า หนึ่งกำ  เช่น 一米 ข้าวสารหนึ่งกำ

 

กลุ่มที่ 2  ลักษณนามใช้สำหรับกลุ่มสิ่งของที่มีลักษณะเป็นแผ่น

纸 (ต.一張紙)           yìzhāngzhǐ               กระดาษหนึ่งแผ่น

桌子 (ต.一張桌子)  yìzhāngzhuōzi          โต๊ะหนึ่งตัว 

信用卡                     yìpiānxìnyòngkǎ      เครดิตการ์ดหนึ่งใบ

* หากเป็นลักษณะแผ่นใหญ่จะนิยมใช้ 张เช่น กระดาษ โต๊ะ เตียง แต่หากเป็นลักษณะแผ่นแข็งและเล็ก จะใช้ 片เช่น  การ์ด  บัตรประจำตัว  

**  ความจริงแล้ว 片 ยังสามารถใช้กับสิ่งของที่ใหญ่จนจับต้องได้ยาก  เช่น ท้องฟ้าทั้งฝืน一天空; เมฆทั้งผืน一云 (ต.一片雲); ผืนนาเขียวขจีทั้งฝืน一绿油油的田地 (ต.一片綠油油的田地)และยังสามารถใช้กับสิ่งนามธรรม เช่น  หัวใจทั้งใจ 一心; ความหวังดีทั้งหมด一好意

 

กลุ่มที่ 3 ลักษณนามใช้สำหรับกลุ่มสิ่งของที่มีลักษณะเป็นเม็ดขนาดเล็ก

心 (ต.一顆心)      yìkēxīn                  หัวใจหนึ่งดวง  

药 (ต.一粒藥)      yílìyào                   ยาหนึ่งเม็ด

*คำว่า颗สามารถแปลเป็น ดวง ในภาษาไทย   เช่น หัวใจหนึ่งดวง  ดาวล้านดวง 

 

กลุ่มที่ 4 ลักษณนามใช้สำหรับกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์

文章                               yìpiānwénzhāng     บทความหนึ่งบท/ฉบับ              

书 (ต.一本書)                 yìběnshū               หนังสือหนึ่งเล่ม 

小说 (ต.一部小説)        yíbùxiǎoshuō         นิยายหนึ่งเรื่อง

*ทั้งสามลักษณนามใช้สำหรับหนังสือได้   เพียงแต่ว่า 本 เน้นที่รูปร่างลักษณะ 部เน้นที่เนื้อหา   เช่นในข้อสอบ HSK เคยถามว่าข้อใดต่อไปนี้เหมาะที่จะเติมลงในช่องว่าง 

这是一____非常精彩的小说。

1. 把       2. 本       3. 部       4. 张

เฉลย.  คำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ 3 

         精彩 jīngcǎi (ค.)  = น่าตื่นเต้น  โดยในโจทย์ระบุว่า 非常精彩的小说 (นิยายที่น่าตื่นเต้นเหลือเกิน)  แสดงว่าเน้นที่เนื้อหาของนิยายมากกว่ารูปร่าง   

 

กลุ่มที่ 5 ลักษณนามใช้สำหรับกลุ่มถาวรวัตถุ

山// (ต.一座山/樓/橋)  yízuòshān/lóu/qiáo    ภูเขาหนึ่งลูก / อาคารหนึ่งหลัง / สะพานหนึ่งแห่ง  

房子 (ต.一棟房子)               yídòngfángzi             อาคารหนึ่งคูหา                   

墙 (ต.一堵牆)                         yìdǔqiáng                กำแพงหนึ่งแนว

*座เป็นลักษณะนามของอาคารและถาวรวัตถุ   เช่น  อาคาร  ภูเขา ฯลฯ

 

กลุ่มที่ 6 ลักษณนามใช้สำหรับการจำแนกชนิดและประเภท

花 (ต.一種花)                     yìzhǒnghuā             ดอกไม้ชนิดหนึ่ง                   

动物 (ต.同類動物)            tónglèidòngwù        สัตว์ประเภทเดียวกัน                 

比赛 (ต.每項比賽)            měixiàngbǐsài          การแข่งขันทุกรายการ

规定 (ต.一項規定)            yíxiàngguīdìng         กฎระเบียบหนึ่ง้อ

 

กลุ่มที่ 7 ลักษณนามที่มาจากคำนาม

玩具                                yìxiāngwánjù             ของเล่นหนึ่งหีบ

酒                                     yìpíngjiǔ                   เหล้าหนึ่งขวด 

饮料 (ต.一杯飲料)         yìbēiyǐnliào               เครื่องดื่มหนึ่ง้วย                   

草药 (ต.一包草藥)         yìbāocǎoyào             สมุนไพรหนึ่ง่อ                                     

*กลุ่มนี้เป็นคำนามที่ใช้เป็นลักษณนามได้ (杯ถ้วย ; 瓶ขวด ; 包กระเป๋า หรือ ถุง  ; 箱 หีบ หรือ กล่อง)

 

2.ลักษณนามที่เป็นพหูพจน์

 

工具                              อุปกรณ์หนึ่งชุด          一米                           ข้าวสารหนึ่งกำ     

野牛                              วัวป่าหนึ่งฝูง              一朋友                      เพื่อนหนึ่ง๊วน

垃圾                              ขยะหนึ่งกอง              一货 (ต.一批貨)        สินค้าหนึ่งเที่ยว

情人 (ต. 一對情人)      คู่รักหนึ่งคู่                 一鞋 (ต.一雙鞋)        รองเท้าหนึ่งคู่

铅笔(ต.一打鉛筆)        ดินสอหนึ่งโหล            一纸 (ต.一疊紙)        กระดาษหนึ่งตั้ง

*ในภาษาจีนนั้น  มีลักษณนามคำว่า “คู่” อยู่ 2 ตัวคือ  双 และ  对 ความแตกต่างคือ 双 ใช้กับสิ่งของที่มีลักษณะเหมือนกัน เช่น รองเท้า ตะเกียบ  ถุงมือ   แต่ 对 ใช้กับสิ่งของที่อยู่เป็นคู่แต่หน้าตาไม่เหมือนกัน  เช่น ชายหญิง  ช้อนส้อม  ผีเสื้อ (ตัวผู้กับตัวเมีย)  เป็นต้น

     

3.ลักษณนามที่เป็นหน่วยวัด

 

长度 (ต.長度) chángdù  ความยาว:

   寸      cùn       นิ้ว            尺          chǐ                 ฟุต  

   里      lǐ           ลี้             厘米      límǐ                เซนติเมตร 

   米      mǐ         เมตร        公里      gōnglǐ             กิโลเมตร

 

容量 róngliàng ปริมาณ:    

   毫升    háoshēng    ซีซี      公升    gōngshēng     ลิตร

 

重量 zhóngliàng   น้ำหนัก:

   克      kè        กรัม         两                 liǎng                 ขีด 

   斤      jīn        ชั่ง           公斤           gōngjīn           กิโลกรัม      

   吨      dùn      ตัน

 

面积 (ต.面積)  miànjī  พื้นที่ :

   平方米   píngfāngmǐ         ตารางเมตร

 

体积 (ต.体積)  tǐjī  ปริมาตร:

   立方米     lìfángmǐ   ลูกบาศก์เมตร    立方...    lìfāng     ลูกบาศก์...

 

4.ลักษณนามที่เป็นนามนับไม่ได้

1) ระบุจำนวนให้ชัดเจนไม่ได้ (มักจะทำหน้าที่เป็นคำเสริมท้ายกริยา)

        喝一点儿  (ต.喝一點儿)                              ดื่มน้ำนิดหน่อย 

        等一会儿 (ต.等一會儿)                               รอสักครู

        看一下儿                                                      มองทีหนึ่ง

        买一些零食 (ต.買一些零食)                      ซื้อของขบเคี้ยวจำนวนหนึ่ง

        赚一笔钱 (ต.賺一筆錢)                               หาเงินมาได้หนึ่ง ก้อน      

                             

2) ยืมคำนามมาใช้เป็นลักษณนาม (* บางครั้ง 一 +  คำนาม จะให้ความหมายว่า  เต็มๆ หรือ ตลอด)  เช่น

妈妈做了一桌子菜。

(ต.媽媽做了一桌子菜。)

คุณแม่ทำกับข้าวเต็มโต๊ะ   

     

他把一桌子东西统统扔了。

(ต.他把一桌子東西統統扔了。)

เขาเอาสิ่งของที่อยู่เต็มโต๊ะทิ้งหมดเลย

 

他跑步后出了一脸汗。

(ต.他跑步后出了一臉汗。)

tā pǎo bù hòu chū le yī liǎn hàn 。

หลังวิ่งเขาเหงื่อออกเต็มหน้า

 

你唱了一路歌还不够吗?

(ต.你唱了一路歌還不夠嗎?)

nǐ chàng le yī lù gē huán bú gòu ma?

คุณร้องเพลงมาตลอดทางยังไม่พออีกหรือ?

           

动量词- คำลักษณนามที่ใช้สำหรับคำกริยา

ในข้อสอบเอ็นทรานซ์ตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน  ลักษณนามกลุ่มหนึ่งถูกนำมาออกข้อสอบอยู่บ่อยครั้ง นั้นก็คือลักษณนามที่มีความหมายว่ซึ่งในภาษาจีนมีอยู่หลายตัวและเลือกใช้ตามกริยาในประโยคที่ต่างกันไป  หากนักเรียนจับหลักตรงนี้ได้(ซึ่งไม่ยากเลย)  จะช่วยให้ไม่ต้องเสียคะแนนไปอย่างน่าเสียดายเพียงเพราะไม่เข้าใจเทคนิคเล็กน้อยเท่านี้

 

《狮子王》我已经看了两了。

( ต.《獅子王》我已經看了兩次了。 )

《shī zi wáng 》wǒ yǐ jīng kàn le liǎng cì le。

เรื่องไลออนคิง ผมเคยดูสองครั้งแล้ว   

*次 ใช้เป็นรูปทั่วไปในการกล่าวถึงจำนวนครั้ง

 

你说的我听过两三了。

( ต.你說的我听過兩三回了。 )

nǐ shuō de wǒ tīng guò liǎng sān huí le。

เรื่องที่คุณเล่าผมเคยได้ยินมาสามหนแล้ว

*回 ใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัส เช่น   ฟัง听;  อ่าน读  ; พูด说 ; นึก想

                     

他去了一北京。

tā qù le yī tàng běi jīng。

เขาไปปักกิ่งมาเทียวหนึ่ง

*趟 tàng  ใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับการเดินทาง                  

 

我说了三你听到了吗?

( ต.我說了三遍你听到了嗎? )

wǒ shuō le sān biàn nǐ tīng dào le ma?

ผมพูดตั้งสามรอบคุณได้ยินไหมเนี่ย?

 

你真的读了一百吗?

( ต.你真的讀了一百遍嗎? )

nǐ zhēn de dú le yī bǎi biàn ma?

คุณอ่านไปตั้งร้อยรอบจริงๆ หรือ? 

*遍 biàn ใช้กับกิจกรรมที่ทำตั้งแต่ต้นจนจบอย่างสมบูรณ์   และในบทสนทนามักใช้กับประโยคที่ผู้พูดรู้สึกซ้ำซาก  ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ทึ่ง หรือ อารมณ์รำคาญก็ใช้ได้

 

今晚她演三戏,明早我踢三球。

( ต. 今晚她演三場戲,明早我踢三場球。)

jīn wǎn tā yǎn sān cháng xì ,míng zǎo wǒ tī sān cháng qiú。

คืนนี้หล่อนแสดงละครสามรอบ  พรุ่งนี้เช้าผมลงเตะบอลสามสนาม

 

这是一大雨。

( ต.這是一場大雨。 )

zhè shì yī cháng dà yǔ。

นี่เป็นฝนตกใหญ่ห่หนึ่ง

*场chǎng ใช้กับเหตุการณ์  เช่น  การแสดง  การแข่ง  เหตุการณ์ธรรมชาติ  อุบัติเหตุ เป็นต้น  (场chǎng ใช้เป็นคำนามแปลว่า  ลาน หรือ สนาม เช่น 广场ลานจัตุรัส  ; 战场/沙场สนามรบ)

 

我做了一研究

( ต.我做了一番硏究。 )

wǒ zuò le yī fān yán jiù。

ผมได้ทำการค้นคว้ามาหนึ่งรอบ 

*番fān ใช้กับการกระทำที่ต้องใช้เวลาพอสมควรและมีขั้นตอนรายละเอียดมาก ฉะนั้นมักจะใช้กับกิจกรรมด้านการศึกษาและทำงาน เช่น คำศัพท์ดังต่อไปนี้

   考察                kǎochá         สำรวจ               研究( ต.硏究)   yánjiū     ค้นคว้า  

   工作                gōngzuò       ปฏิบัติงาน          考虑( ต.考慮)   kǎolǜ      คิดทบทวน    

  调查( ต.調查)   diàochá        ตรวจสอบ 

 

我们好好吃饭,好吗?

( ต.我們好好吃一頓飯,好嗎?)

wǒ men hǎo hǎo chī yī dùn  fàn,hǎo ma?

เราทานข้าวดี ๆ สักมืดีไหม?     

      * ตีหนึ่งครั้ง หรือ สั่งสอนไปทีหนึ่ง  ภาษาจีนใช้สำนวนว่า  揍了一顿  

 

刚才刮了大风。

( ต.剛才刮了一陣大風。)

gāng cái guā  le yī zhèn  dà fēng。

เมื่อครู่ลมพัดกระหน่ำไปพักใหญ่

 

 

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม  การแปลชื่อภาพยนตร์นิยายหรือภาพยนตร์ในภาษาจีน มักจะนิยมการแปลความหมายมากกว่าการออกเสียงทับศัพท์   เช่นภาพยนตร์ดังต่อไปนี้  เชื่อว่าคนส่วนใหญ่รู้จักภาพยนตร์เหล่านี้

ลอร์ด ออฟ เดอะริงค์       指环王    (指环แหวน +王ราชันย์)

สตาร์วอร์                     星球大战   (星球ดวงดาว+大战สงคราม)   

สไปเดอร์แมน                蜘蛛侠        (蜘蛛แมงมุม+侠จอมยุทธ์)

บางครั้งนามเฉพาะบางคำที่ไม่มีความหมายแปล เพราะเป็นชื่อหรือนามสกุลของคน  การแปลก็มีวิธีการที่น่าสนใจ  คือพยายามเลือกคำทับศัพท์ที่สื่อความหมายอย่างน่าสนใจด้วย  เช่น

         แมคโดนัล                    麦当劳         (麦ธัญญาหาร+当ทำหน้าที่+劳เรี่ยวแรงหรือการอุทิศตน  สื่อความหมายของยี่ห้อว่า  อาหารที่อุทิศเพื่อมวลชน)

         เบนซ์                          奔驰              (奔驰แปลว่า โลดแล่น  วิ่งด้วยความเร็วสูง)  

         โคคาโคล่า                    可口可乐     (可口แก้กระหายได้+可乐มีความสุขได้)

         แป๊บซี่                         百事可乐     (百事ร้อยเรื่องราว/ทุกๆเรื่องราว+可乐มีความสุขได้)

 

ประเภทยืมคำนามมาใช้  -  มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มอรรถรสของภาษาเป็นหลักและเพื่อสื่อให้เห็นภาพ เช่นสำนวนดังต่อไปนี้

咬了一口 yǎo le yī kǒu  กัดไปเต็มปาก

*คำว่า 一口 นอกจากจะแปลว่า เต็มปาก แล้ว ยังหมายถึง (กัด หรือ กินไป) หนึ่งครั้ง หรือ หนึ่งคำก็ได้ เช่น

我被小狗咬了一口

wǒ bèi xiǎo gǒu yǎo le yī kǒu。

ผมถูกลูกหมากัดครั้งหนึ่ง

 

我吃了一口,但是觉得不好吃。

 ( ต.我吃了一口,但是覺得不好吃。)

wǒ chī le yī kǒu,dàn shì jué de bù hǎo chī。

ผมชิมไปคำหนึ่งแล้ว แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยอร่อย

 

看了一眼          kàn le yī yǎn     มองไปตาหนึ่ง (มองไปแวบหนึ่ง หรือมองไปครั้งหนึ่งก็ได้)

 

打了一巴掌      dǎ le yī bā zhǎng     ตบไปหนึ่งฉาด

           

砍了一刀           kǎn le yī dāo    ฟันไปหนึ่งดาบ

      *(ภาษาไทยแปลว่า ฟันไปหนึ่งแผลซึ่งช่วยให้ฟังแล้วได้อรรถรสมากขึ้น  ฟังแล้วรู้สึกเจ็บดี)

 

打了一针 (ต.打了一針)    ฉีดไปหนึ่งเข็ม (ฟังดูได้อรรถรสมากว่าฉีดยาไปหนึ่งครั้ง)

 

画了一笔  ( ต.畫了一筆)    วาดไปหนึ่งพู่กัน (แสดงฝีมือให้ชมเป็นขวัญตา)

 

คำนามบางตัวไม่จำเป็นต้องมีลักษณนาม เพราะตัวมันเองเป็นลักษณนามอยู่แล้ว เช่น

 

                                  หนึ่งวัน            一         หนึ่งปี               

                                  ตลอดชีวิต         一         หนึ่งรุ่น               

辈子 ( ต.一輩子)          ตลอดชีวิต                             

小时( ต.一小時)           หนึ่งชั่วโมง            

分钟 ( ต.一分鐘)           หนึ่งนาที          一         หนึ่งวินาที 

*ระวัง        คำว่า หนึ่งเดือนต้องใช้ 一月  เพราะ 一月หมายถึง มกราคม

และหากจะใช้คำว่า 钟头 ( ต.鐘頭 ) ที่แปลว่า ชั่วโมง จะต้องใส่ ลักษณนามให้ เนื่องจากตัวมันไม่ได้เป็นคำลักษณนาม กลายเป็น 一钟头 ( ต.一個鐘頭 )

 

 

 เตรียมแต่ความรู้   ลืมความรอบคอบ

 

      ผมเคยผ่านการสอบเอ็นทรานซ์มามากว่าหนึ่งครั้งเพราะในสมัยนั้นยังมีระบบสอบเทียบอยู่  และการสอบทุกครั้งก็มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นเสมอแม้ว่าผมจะเตรียมความรู้มาแน่นแค่ไหนก็ตาม  เพราะปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นที่ความบกพร่องทางความรู้เลย   แต่บกพร่องที่ความรอบคอบต่างหาก  มีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจตัวเองมาตลอดและจำเป็นอย่างยิ่งที่ผมควรจะนำมาบอกต่อ   เพื่อให้น้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบไม่ผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในยามคับขันแบบผม  (ไม่จำเป็นต้องเป็นการสอบ  จะเป็นการทำงาน หรือชีวิตประจำวันก็นำไปใช้ได้)

 

      การดูสถานที่สอบนับเป็นสิ่งสำคัญในการสอบประการแรก  เมื่อปี 2541 ปีนั้นเป็นปีสุดท้ายที่คนสอบเทียบอย่างผมจะมีสิทธิ์เข้าสมัครสอบเอ็นทรานซ์   ผมสบายใจมากและไม่รู้สึกเครียดอะไรเพราะตลอดทั้งปีผมทบทวนความรู้อย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนอย่างเต็มที่  ไม่เคยเว้นจากการทบทวน  ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยอดหลับอดนอน  ยามอ่านควรอ่าน  ยามพักควรพัก  และยามเที่ยวก็สมควรอย่างยิ่งที่จะเที่ยวให้สนุก  ทุกอย่างราบรื่นดี 

 

      ก่อนสอบสองวันผมวางหนังสือกองโตลงและรู้สึกขอบคุณความรู้ที่หนังสือมอบให้  และโทรหาอาจารย์บางคนทั้งที่เป็นอาจารย์ในโรงเรียนและอาจารย์สอนพิเศษเพื่อขอความคิดเห็นบางเรื่อง  จากนั้นผมก็พักและรอวันเข้าสอบ  

 

      แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพลาดคือการดูห้องสอบ   ผมได้เอกสารแจ้งสถานที่สอบแล้ว  และเดินไปดูห้องสอบที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ  แทนที่ผมจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆให้แน่ใจ  ผมกลับยืนมองอยู่นอกรั้วโรงเรียนสาธิตจุฬาและกะด้วยสายตาว่าห้องเรียนอยู่ชั้นไหน   

 

      วันสอบ ทันทีที่สัญญาณประกาศเข้าห้องสอบดังขึ้น  ผมก็เดินขึ้นห้องสอบพร้อมกับสีน้ำ สีโปสเตอร์ กระป๋องน้ำ  วิชานี้เป็นวิชาความถนัดสถาปัตฯ  ผมเดินเข้าห้องเรียนและค่อยๆ วางอุปกรณ์อย่างใจเย็น เปิดฝาขวดน้ำเพื่อเตรียมผสมสี   

 

สักพักนักเรียนหญิงข้างๆ ผมเริ่มมีอาการไม่สู้ดี “ต้องใช้สีน้ำด้วยเหรอ?   ทำไมเราไม่รู้ล่ะ...”  ผมก็ได้แต่คิดในใจว่า ‘ก่อนสอบเธอไม่รู้หรือไงว่าต้องใช้อะไรบ้าง?  ชื่อวิชาก็บอกอยู่แล้วว่าความถนัดทางสถาปัตฯ  เฮ้อ...ช่วยไม่ได้จริง ๆ’สักพักอาจารย์คุมสอบก็เดินมา  ท่านยิ้มแย้มและหน้าตาใจดี  คงเดินมาปลอมใจนักเรียนหญิงคนนี้ล่ะมั๊ง   ในใจผมคิดเช่นนั้น   

 

      ก๊อกๆ  อาจารย์เคาะโต๊ะผมเบาๆ และยิ้มให้   ผมคิดในใจ  ‘ก็ได้ครับอาจารย์ ถ้าอาจารย์อยากให้ผมแบ่งสีน้ำให้หล่อนใช้บ้าง ผมก็ยินดี ผมไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว’ ผมยิ้มตอบ

 

      “นักเรียนคะ    นักเรียนมาสอบวิชาอะไรคะ?”

 

      “ครับ ผมสอบ....” ผมเงยหน้าอ่านชื่อเต็มของรายวิชาที่สอบซึ่งเขียนไว้บนกระดานดำให้อาจารย์ท่านฟัง

 

      “ควา... อา...  วัด-แวว-ความ-เป็น-ครู!? (-_- 0) ” ผมแทบจะอ้าปากค้างไปได้อีกเป็นเดือน ซวย...เข้าห้องผิดว่ะ


      “รีบขึ้นไปเลยค่ะนักเรียน ห้องสอบอยู่ชั้นบน ตอนนี้ยังทัน เอ้า แล้วคนที่เดินหาที่นั่งอยู่น่ะ  เธอต้องนั่งตรงนี้ใช่ไหมเนี่ย? ” คุณครูกล่าว


      น้อง ๆ ครับ  วันสอบอะไรก็เกิดขึ้นได้นะครับ โปรดมีสติและมีเวลาครับ  ควรไปถึงห้องสอบล่วงหน้า

 

                   

                                    …………………………………………

             

Tag :