กาแล็กซีเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ ที่รวมเอาดาวฤกษ์ ฝุ่น และแก๊ส เกาะกลุ่มยึดกันไว้ด้วยความโน้มถ่วง กาแล็กซีต่างๆ เกิดขึ้นหลังบิกแบงประมาณ 1,000 ล้านปี โดยโลกของเราอยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือก (Milky Way) ซึ่งมีดาวฤกษ์เป็นองค์ประกอบอยู่มากมาย
นักดาราศาสตร์แบ่งกาแล็กซีออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. กาแล็กซีปกติ แบ่งเป็น กาแล็กซีรี กาแล็กซีชนิดกังหันหรือก้นหอย กาแล็กซีลูกสะบ้าหรือกาแล็กซีเลนส์
2. กาแล็กซีไม่มีรูปแบบ เช่น กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่
กาแล็กซีทางช้างเผือก เป็นกาแล็กซีที่พวกเราอาศัยอยู่ แต่เราไม่สามารถมองเห็นได้ว่ากาแล็กซีทางช้างเผือกมีรูปร่างเป็นอย่างไร สิ่งที่เราเห็นได้คือแถบขาวจางๆ ที่เหยียดตัวพาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน เป็นที่มาของชื่อ “Milky Way” ซึ่งแปลตรงตัวว่า “ทางน้ำนม”
แถบทางช้างเผือก ประกอบไปด้วยดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างไกลนับพันล้านดวง แต่แสงจากดาวฤกษ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ ถูกลดทอนด้วยฝุ่นแก๊ส ที่อยู่ในระนาบของกาแล็กซี
ผลจากการสังเกตทำให้ทราบว่า กาแล็กซีทางช้างเผือกเป็นกาแล็กซีแบบกังหันมีคาน ที่มีดาวฤกษ์อยู่อย่างน้อย 2 แสนล้านดวง มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 100,000 ปีแสง และมีความหนาเฉลี่ยประมาณ 1,000 ปีแสง ดวงอาทิตย์จะอยู่ในบริเวณค่อนข้างมืดมิด (มีดาวฤกษ์ค่อนข้างน้อย) ที่อยู่ห่างออกไปจากใจกลางกาแล็กซีไปราว 2/3 ของขนาดรัศมีกาแล็กซี
เมื่อเรามองดูทางช้างเผือก ซึ่งพาดเป็นทางยาวบนฟากฟ้า หมายถึงเรากำลังมองดูกาแล็กซีทางช้างเผือกทางด้านข้าง ผ่านไปยังส่วนที่เป็นแขนของกาแล็กซีทางช้างเผือก หรือผ่านไปยังบริเวณใจกลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก ระบบสุริยะอยู่ห่างจากศูนย์กลางของกาแล็กซีประมาณ 30,000 ปีแสง
ดวงอาทิตย์โคจรรอบใจกลางทางช้างเผือก เช่นเดียวกับโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ต้องใช้เวลาถึง 225 ล้านปีในการโคจรครบรอบ เนื่องจากวงโคจรของดวงอาทิตย์รอบใจกลางทางช้างเผือกมีระยะทางที่ยาวมาก
เรียบเรียงโดย : ปิตุพร พิมพาเพชร