ในแต่ละระบบนิเวศมีหลายโซ่อาหารอยู่รวมกัน โดยสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอาจเป็นส่วนประกอบของโซ่อาหารได้หลายโซ่อาหาร ความสัมพันธ์ของโซ่อาหารหลายๆ โซ่ รวมเรียกว่า สายใยอาหาร
ผู้ผลิต สิ่งมีชีวิตกินพืช สิ่งมีชีวิตกินสัตว์ ในระบบนิเวศ มีความสัมพันธ์ในลักษณะการกินต่อกันเป็นทอดๆ คล้ายกับแต่ละห่วงในสายโซ่ ความสัมพันธ์นี้เรียกว่า โซ่อาหาร (food chain)
ในการเขียนโซ่อาหาร ให้เขียนโดยเริ่มจากผู้ผลิต อยู่ทางด้านซ้าย และตามด้วยผู้บริโภคลำดับที่ 1 ตามด้วยผู้บริโภคลำดับที่ 2 ตามด้วยผู้บริโภคลำดับที่ 3 ต่อไปเรื่อยๆ จนถึงผู้บริโภคลำดับสุดท้าย และเขียนลูกศรแทนการถ่ายทอดพลังงาน จากสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปยังอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่ง โดยเขียนให้หัวลูกศรชี้ไปทางผู้ล่า ดังนี้
หนู เป็นผู้บริโภคลำดับที่ 1
งู เป็นผู้บริโภคลำดับที่ 2
นกเค้าแมว เป็นผู้บริโภคลำดับที่ 3
ในแต่ละโซ่อาหาร สัตว์บางชนิดเป็นทั้งผู้ล่าและเหยื่อ จากตัวอย่างโซ่อาหารข้างต้น สัตว์ที่เป็นทั้งผู้ล่าและเหยื่อคือ “งู”
การกินกันเป็นทอดๆ ทำให้เกิดการถ่ายทอดพลังงาน ส่งผ่านสารอาหารจากชีวิตหนึ่งไปสู่อีกชีวิตหนึ่ง การถ่ายทอดนี้ก็คือห่วงโซ่อาหารที่เกิดขึ้นในระบบนิเวศ
ในโซ่อาหาร การถ่ายทอดพลังงานจะถ่ายทอดจากชีวิตหนึ่ง ไปสู่อีกชีวิตหนึ่งเรียงเป็นเส้นตรง แต่เนื่องจากในระบบนิเวศหนึ่งๆ ที่มีสิ่งมีชีวิตหลากหลาย สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอาจกินสิ่งมีชีวิตเป็นอาหารได้หลายชนิด และสิ่งมีชีวิตที่เป็นเหยื่อชนิดหนึ่ง ก็อาจถูกสิ่งมีชีวิตหลายชนิดจับกินได้
เมื่อเขียนผังการถ่ายทอดพลังงานจึงไม่ได้เรียงเป็นเส้นตรง แต่เกิดการโยงใยเป็นร่างแห ลักษณะดังกล่าวเรียกว่า สายใยอาหาร (food web) ซึ่งสายใยอาหารจะประกอบด้วย ห่วงโซ่อาหารหลายสายที่เชื่อมโยงกัน อันแสดงถึงความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตในชุมชนของระบบนิเวศ ซึ่งยิ่งสายใยอาหารมีความสลับซ้บซ้อนมากเพียงใด ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสมดุล และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศนั้นเพียงนั้น