การต่อความต้านทาน สามารถต่อได้ 3 วิธีด้วยกัน คือ แบบอนุกรม โดยเชื่อมปลายความต้านทานของตัวหนึ่งกับปลายความต้านทานของตัวถัดไปเรื่อยๆ ไปเป็นลำดับ แบบขนาน โดยให้ปลายหนึ่งของความต้านทานรวมกันที่จุดเดียว ส่วนอีกปลายของความต้านทานเหล่านั้นรวมกันที่อีกจุดหนึ่งและแบบผสม โดยนำความต้านทานหลายๆ ตัวมาต่อรวมกัน ทั้งแบบขนานและแบบอนุกรมภายในวงจรเดียวกัน การต่อความต้านทานในแต่ละแบบ จะมีความต้านทานรวมแตกต่างกัน
1. การต่อความต้านทานแบบอนุกรม
การต่อความต้านทานแบบอนุกรม คือ การนำเอาความต้านทานหลายๆ ตัวมาต่อกัน โดยเชื่อมปลายความต้านทานของตัวหนึ่ง กับปลายความต้านทานของตัวถัดไปเรื่อยๆ ไปเป็นลำดับ
- กระแสไฟฟ้าที่ไหลในลวดตัวนำ จะไหลผ่านความต้านทานทุกตัวเท่ากันหมด I = I1 = I2 = I3
- ความต่างศักย์ไฟฟ้ารวมระหว่าง 2 จุด จะมีค่าเท่ากับผลบวกของความต่างศักย์ไฟฟ้า ที่ตกคร่อมความต้านทานแต่ละตัวที่อยู่ระหว่างสองจุดนั้น Vรวม= V1+V2+V3
- ความต้านทานรวมระหว่างจุดสองจุด จะมีค่าเท่ากับผลบวกของความต้านทานแต่ละตัวที่อยู่ระหว่างจุดสองจุดนั้น หรือกล่าวได้ว่า ความต้านทานรวมจะมีค่ามากขึ้น สามารถหาค่าความต้านทานรวมได้จากสูตร
Rรวม = R1+R2+R3+…
ตัวอย่าง
ในการต่อลวดความต้านทานเส้นหนึ่ง กับลวดความต้านทานที่มีค่า 100 โอห์ม แบบอนุกรม เมื่อวัดด้วยแอมมิเตอร์มีค่า 1.5 แอมแปร์ และใช้โวลต์มิเตอร์วัดได้ 220 โวลต์ จงหาความต้านทานของลวดที่นำมาต่อกับลวด 100 โอห์ม
วิธีทำ
จากโจทย์ V = 220 โวลต์, I = 1.5 แอมแปร์, R = 100 + X โอห์ม (ต่อแบบอนุกรม) แทนค่าในสูตร
V = IR
220 = 1.5(100 + X)
220 = 150 + 1.5X
X = 46.6 โอห์ม
ตอบ ความต้านทาน = 46.6 โอห์ม
2. การต่อความต้านทานแบบขนาน
การต่อความต้านทานแบบขนาน คือ การนำเอาความต้านทานหลายๆ ตัวมาต่อเชื่อมกัน โดยให้ปลายหนึ่งของความต้านทานรวมกันที่จุดเดียว ส่วนอีกปลายของความต้านทานเหล่านั้นรวมกันที่อีกจุดหนึ่ง
- กระแสไฟฟ้าที่ไหลในลวดตัวนำจะแยกไหล โดยผ่านความต้านทานแต่ละตัว
- ถ้าความต้านทานแต่ละตัวมีค่าเท่ากัน กระแสไฟฟ้าที่แยกไหลผ่านความต้านทานแต่ละตัวจะเท่ากัน
- แต่ถ้าความต้านทานแต่ละตัวมีค่าต่างกัน ความต้านทานที่มีค่าน้อยจะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากกว่าความต้านทานที่มีค่ามาก I=I1=I2=I3
- ความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุดสองจุดมีค่าเท่ากับความต่างศักย์ที่ตกคร่อมความต้านทานแต่ละตัว V=V1=V2=V3
- ค่าความต้านทานระหว่างจุดสองจุดจะมีค่าลดลง และจะมีค่าน้อยกว่าความต้านทานอันที่มีค่าน้อยที่สุดเสมอ หรือกล่าวว่า ความต้านทานรวมมีค่าลดลง สามารถหาค่าความต้านทานรวมได้จากสูตร
3. การต่อความต้านทานแบบผสม
การต่อความต้านทานแบบผสม คือ การนำความต้านทานหลายๆ ตัวมาต่อรวมกัน ทั้งแบบขนานและแบบอนุกรมภายในวงจรเดียวกัน การคิดหาความต้านทานรวมต้องหาทั้งการต่อแบบอนุกรม และการต่อแบบขนานรวมกัน
โดยแยกดูว่า ความต้านทานช่วงไหนต่อแบบอนุกรม ก็คิดความต้านทานรวมของช่วงนั้นแบบอนุกรม ความต้านทานช่วงไหนต่อแบบขนาน ก็คิดความต้านทานรวมของช่วงนั้นแบบขนาน แล้วจึงรวมความต้านทานในตอนท้ายว่าวงจรเป็นลักษณะใด เป็นการคิดในลักษณะยุบวงจรนั่นเอง
ตัวอย่าง
จงหาความต้านทานรวมระหว่าง ก, ข
วิธีทำ
คิดความต้านรวมระหว่าง 3 Ω กับ 4 Ω ต่อกันแบบขนาน
จากนั้นนำความต้านทานรวมนี้ไปต่ออนุกรมกับความต้านทาน 5 Ω
ความต้านทานรวมทั้งหมด = 1.7 + 5 = 6.7 โอห์ม
ตอบ ความต้านทานรวมระหว่าง ก, ข = 6.7 โอห์ม