การหาตำแหน่งภาพที่เกิดจากกระจก และเลนส์ชนิดต่างๆ จำเป็นต้องรู้หลักการเขียนทางเดินของแสงที่ถูกต้อง โดยลากเส้นรังสีตกกระทบ ให้ขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญ และอีกเส้นให้ผ่านจุดโฟกัส แล้วจึงลากเส้นรังสีสะท้อนเพื่อให้เกิดภาพ
หลักการเขียนทางเดินของแสงเพื่อหาตำแหน่งของภาพที่เกิดจากกระจกเงาระนาบ
ลากรังสีตกกระทบสองเส้นจากวัตถุ โดยเส้นหนึ่งลากตกตั้งฉากกับกระจก เมื่อตกกระทบกระจกแล้วสะท้อนกลับแนวเดิม ส่วนอีกเส้นหนึ่งให้ลากเอียงทำมุมกับกระจก เมื่อตกกระทบกระจกแล้วจะสะท้อนออกมา โดยทำมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน ต่อแนวรังสีสะท้อนทั้งสองนี้ไปตัดกันที่หลังกระจก ณ ที่ใด ตำแหน่งนั้นคือ ตำแหน่งภาพ
หลักการเขียนทางเดินของแสงเพื่อหาตำแหน่งของภาพที่เกิดจากกระจกเว้าและกระจกนูน
วาดรูปวัตถุบนเส้นแกนมุขสำคัญ วาดรังสีตกกระทบขนานกับแกนมุขสำคัญ จนไปตกกระทบที่กระจกเว้าและกระจกนูน วาดรังสีสะท้อนให้ผ่านจุดโฟกัสของกระจก วาดรังสีตกกระทบอีกเส้นหนึ่งไปถึงจุดยอดกระจกหรือขั้วกระจก และวาดรังสีสะท้อนจากรังสีตกกระทบนี้ ต่อแนวรังสีสะท้อนทั้งสองนี้ให้พบกันที่จุดหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งของภาพ
หลักการเขียนทางเดินของแสงเพื่อหาตำแหน่งของภาพที่เกิดจากเลนส์นูนและเลนส์เว้า
ใช้เส้น 2 เส้นแทนรังสีของแสง เส้นแรกแทนรังสีจากวัตถุขนานกับแกนมุขสำคัญ แล้วหักเหผ่านจุดโฟกัสของเลนส์ ส่วนเส้นที่สอง คือ รังสีจากวัตถุผ่านจุดศูนย์กลางของเลนส์โดยไม่หักเห เมื่อเส้นที่ลากขึ้นมาแทนรังสีทั้งสองไปตัดกันที่ใด ตำแหน่งนั้น คือ ตำแหน่งภาพ ถ้าเส้นที่ลากขึ้นมาแทนรังสีทั้งสองเส้นตัดกันจริงจะเกิด ภาพจริง ถ้าไม่ตัดกันจริงจะเกิดภาพเสมือน ตำแหน่งภาพเสมือนหาได้จากจุดตัด ซึ่งเกิดจากการต่อแนวรังสีทั้งสองเส้นออกไปในทิศทางตรงกันข้าม