เมื่อมีแรงย่อยหลายแรงมากระทำต่อวัตถุ จะมีแรงลัพธ์แรงเดียว การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การบวกลบแบบพีชคณิต การวาดรูปแบบหางต่อหัว การคำนวณ เป็นต้น
เมื่อมีแรงหลายแรงกระทำร่วมกันที่วัตถุหนึ่ง จะกระทำในลักษณะใดก็ตาม แรงแต่ละแรงที่กระทำร่วมกันนี้ เรียกว่า แรงย่อย เช่น OA, OB เป็นเส้นตรงที่แทนแรง F1 และ F2 แรง F1 และ F2 กระทำร่วมกันที่วัตถุ O แรง F1 และ F2 ต่างก็ถือว่าเป็นแรงย่อย
แรงลัพธ์ (resultant) คือ แรงเพียงแรงเดียวที่กระทำต่อวัตถุแล้ว ให้ผลเสมือนกับแรงอื่นตั้งแต่สองแรงขึ้นไปมากระทำต่อวัตถุนั้นพร้อมกัน หรือแรงๆ เดียวที่มีผลการกระทำเท่ากับการกระทำร่วมกันของแรงย่อยกลุ่มหนึ่ง
จากรูป แรง F1 และแรง F2 เป็นแรงย่อย 2 แรงกระทำร่วมกันที่วัตถุ O ทำให้วัตถุ O เคลื่อนที่ไปตามเส้นตรง OC เสมือนหนึ่งมีแรง R ทำให้วัตถุ O เคลื่อนที่ไปทางเดียวกัน แรง R จึงเป็นแรงลัพธ์ของแรงย่อยทั้งสอง
การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์
1. โดยวิธีการบวกทางพีชคณิต
หาผลบวกของกลุ่มแรงย่อยที่มีทิศทางไปทางเดียวกัน นำมาหักลบด้วยผลบวกของแรงย่อยที่มีทิศทางตรงข้ามกับกลุ่มแรก ค่าที่ได้เป็นขนาดของแรงลัพธ์ ส่วนทิศทางของแรงลัพธ์จะมีทิศเดียวกับกลุ่มแรงย่อยที่มีค่ามากกว่า
ตัวอย่าง
แรง 5 แรง มีขนาด 120 N ในแนวทิศตะวันตก, 180 N ในแนวทิศตะวันออก, 60 N ในแนวทิศตะวันออก, 80 N ในแนวทิศตะวันตก, 100 N ในแนวทิศตะวันตกกระทำร่วมกันที่วัตถุหนึ่ง จงหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์
วิธีทำ
ผลบวกของแรงในแนวทิศตะวันตก = 120 N + 80 N + 100 N = 300 N
ผลบวกของแรงในแนวทิศตะวันออก = 180 N + 60 N = 240 N
แรงลัพธ์ = 300 N – 240 N = 60 N
ตอบ แรงลัพธ์ = 60 N ในแนวทิศตะวันตก
2. โดยวิธีการวาดรูปแบบหางต่อหัว
ทำได้โดยนำหางของแรงที่สอง ไปต่อกับหัวลูกศรของแรงแรก และนำหางของแรงที่สาม ไปต่อกับหัวของแรงที่สอง ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทุกแรง แรงลัพธ์ที่ได้ คือ แรงที่ลากจากหางของแรงแรกไปยังหัวของแรงสุดท้าย ดังรูป
แรงลัพธ์ที่ได้จะมีทิศทางจาก A ไป B
3. โดยการคำนวณ
P⃑,Q⃑ กระทำต่อกันเป็นมุม องศา ที่จุด A เมื่อเขียนรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานของแรงลากเส้นทแยงมุม AC ให้ AC ทำมุม กับแรง Q สามารถคำนวณขนาดของแรงลัพธ์ R⃑ และทิศทางของแรงลัพธ์ได้จากสูตร
ขนาดของแรงลัพธ์ R⃑2=P⃑2+Q⃑2+2P⃑Q⃑cosθ
ทิศทางของแรงลัพธ์ tanα=P⃑sinθQ⃑+P⃑cosθ