Punctuation
Punctuation (เครื่องหมายวรรคตอน) เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเขียนภาษาอังกฤษ ทุกประโยคในภาษาอังกฤษจะมี Punctuation ประกอบอยู่
. Full Stop (ภาษาอังกฤษแบบบริติช ), Period (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) = เครื่องหมายมหัพภาค
-ใช้เมื่อจบประโยคบอกเล่าหรือคำสั่ง
-ใช้เขียนไว้หลังอักษรย่อหรือคำย่อ
, Comma = เครื่องหมายจุลภาค หรือเครื่องหมายลูกน้ำ
-ใช้แยกวลีหรือประโยค
-ใช้คั่นรายการ รายชื่อต่างๆ ในประโยค
; Semi-colon = เครื่องหมายอัฒภาค
-ใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่ไม่มีคำเชื่อม และทั้งสองประโยคมีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน
: Colon = เครื่องหมายมหัพภาคคู่ หรือเครื่องหมายทวิภาค
-ใช้ก่อนประโยคอธิบาย
-ใช้แจ้งรายการหรือรายละเอียด มักใช้ตามหลังคำ the following หรือ as follows
? Question Mark = เครื่องหมายปรัศนี หรือ เครื่องหมายคำถาม
- ใช้ปิดท้ายประโยคคำถาม เช่น Where are you going?
! Exclamation Mark = เครื่องหมายอัศเจรีย์ หรือ เครื่องหมายตกใจ
-ใช้ไว้หลังคำอุทานหรือประโยคอุทาน
’ Apostrophe = เครื่องหมายวรรคตอน
-ใช้สำหรับคำย่อ
-ใช้แสดงความเป็นเจ้าของคำนามทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
( ) Round Brackets = เครื่องหมายนขลิขิต หรือ เครื่องหมายวงเล็บ
-ใช้เพิ่มข้อมูลเพิ่มในประโยค
[ ] Square Brackets (ภาษาอังกฤษแบบบริติช), Brackets (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) = เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยม
-ใช้เพิ่มคำอธิบาย, ข้อมูล หรือข้อความที่ยกมาใหม่ มักใช้คร่อมคำว่า [sic] สื่อว่าคำหรือวลีที่ยกมานั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
“ ” Quotation Marks = เครื่องหมายอัญประกาศ หรือ เครื่องหมายคำพูด
-ใช้เขียนคร่อมข้อความที่เป็นคำพูด
... Ellipsis Marks หรือ Three dots = เครื่องหมายจุดไข่ปลา
-ใช้เพื่อแสดงว่ากลุ่มคำในประโยคที่เหลือมีการละไว้
/ Slash = เครื่องหมายทับ
-ใช้แยกคำ วลี หรือตัวเลข
_ Underscore = ขีดเส้นใต้
-ใช้เขียนเส้นใต้
- Hyphen = เครื่องหมายยัติภังค์
-ใช้เชื่อมคำสองคำ หรือหลายคำเป็นคำเดียวกัน
– Dash
-ใช้แยกส่วนของประโยค
____ Underline = เครื่องหมายสัญประกาศ หรือเครื่องหมายขีดเส้นใต้
-ใช้ขีดเส้นใต้คำหรือข้อความเพื่อเน้นความสำคัญ