เปรียบเทียบการใช้ Present Perfect Tense vs Past Simple Tense
Present Perfect Tense และ Past Simple Tense ใช้พูดถึงเรื่องราวในอดีต หรือเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วเหมือนกัน แต่ทั้งสอง Tense มีความแตกต่างกันดังนี้
Present Perfect Tense
โครงสร้าง : S + have/has + past participle (V.3)
I, You, We, They และประธานพหูพจน์ ใช้ have
He, She, It และประธานเอกพจน์ใช้ has
การใช้ Present Perfect Tense
1. เพื่อบอกการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตและดำเนินต่อมาถึงปัจจุบัน เช่น
Pim has lived in London since 2010.
(พิมอาศัยอยู่ที่ลอนดอนตั้งแต่ปี 2010)
I have studied English for a long time.
(ฉันเรียนภาษาอังกฤษมานานแล้ว)
ข้อสังเกต : ในประโยคจะมีคำหรือกลุ่มคำบอกเวลา คือ
since = ตั้งแต่ (จุดเริ่มต้นของเวลา เช่น since 7 o’clock, since last week, since 2010)
for = เป็นเวลา (จำนวนของเวลาที่นับจากเริ่มต้น เช่น for two weeks, for five hours, for ten years)
ever since = ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (จนถึงเดี๋ยวนี้)
so far = เรื่อยมาจนปัจจุบันนี้
up to now = จนบัดนี้
up to the present time = จนกระทั่งเวลานี้, จนถึงบัดนี้
2. เพื่อบอกการกระทำที่เคยทำบ่อย ๆ ในอดีตและอาจเกิดขึ้นอีก หรือเหตุการณ์ที่ไม่เคยทำ เช่น
He has seen that film three times.
(เขาดูหนังเรื่องนั้นมาสามรอบแล้ว)
A: Have you ever been abroad?
(คุณเคยไปต่างประเทศหรือเปล่า)
B: Yes, I’ve been to Japan many times.
(เคย ฉันเคยไปญี่ปุ่นตั้งหลายครั้ง)
C: No, never. I’ve never been abroad.
(ไม่เคย ฉันไม่เคยไปเมืองนอกเลย)
ข้อสังเกต : คำบอกเวลาในประโยค ได้แก่ ever (เคย), never (ไม่เคย)
3. เพื่อบอกการกระทำที่เพิ่งจบลงใหม่ ๆ หรือเพิ่งเสร็จก่อนที่จะพูดไม่นานนัก เช่น
I have just eaten.
(ฉันเพิ่งกินเสร็จ)
My brother has just returned from Italy.
(พี่ชายของฉันเพิ่งกลับมาจากอิตาลี)
We have just seen them.
(พวกเราเพิ่งเห็นพวกเขา)
รูปปฏิเสธของ Present Perfect Tense เพียงเติม not หลัง have/has เป็น haven’t /hasn’t เช่น
We haven’t seen him today.
(พวกเราไม่เห็นเขาเลยวันนี้)
รูปประโยคคำถามของ Present Perfect Tense นำ have/has มาขึ้นต้นประโยค เช่น
Have you ever been abroad?
(คุณเคยไปต่างประเทศไหม)
หรือประโยคคำถามปฏิเสธ เช่น Hasn’t he eaten fish? หรือ Has he not eaten fish? (เขาไม่กินปลาเหรอ)
Past Simple Tense
โครงสร้าง : S + V.2
การใช้ Past Simple Tense
1. เพื่อบอกการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีต เช่น
We went to Chiang Mai last week.
(ฉันไปเชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)
Tom arrived at 2.30 p.m. yesterday.
(ทอมมาถึงตอนบ่ายสองครึ่งเมื่อวานนี้)
Did you have dinner last night?
(เมื่อคืนคุณได้ทานดินเนอร์หรือเปล่า)
ข้อสังเกต : คำบอกเวลาแสดงอดีต เช่น yesterday, last week, last month, last year, ago, in 2011 เป็นต้น
2.เพื่อบอกการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นประจำในอดีต แต่ปัจจุบันเลิกทำแล้ว เช่น
He got up early when he was a boy.
(เขาตื่นแต่เช้าเมื่อเขาเป็นเด็ก /ปัจจุบันไม่ตื่นเช้าแล้ว)
She worked in a bank for many years.
(เธอทำงานที่ธนาคารมาหลายปี / ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว)
รูปปฏิเสธของ Past Simple Tense จะใช้กริยาช่วย Did not (didn’t) + V.1 เช่น
I didn’t like tomatoes before.
(ฉันไม่ชอบมะเขือเทศมาก่อน)
รูปประโยคคำถามของ Past Simple Tense ใช้ Did + V.1 เช่น
Did you go to the movies last night?
(เมื่อคืนคุณไปดูหนังมาหรือเปล่า)
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Present Perfect กับ Past Simple
Present Perfect |
Past Simple |
S + have/has + V.3 |
S + V.2 |
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตและดำเนินต่อมาถึงปัจจุบัน เช่น
|
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและจบไปแล้ว เช่น |
เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตใครบางคน (ถ้าคนนั้นยังมีชีวิตก็คือ ประสบการณ์ชีวิต) เช่น |
เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตใครบางคน (ถ้าคนนั้นคือคนที่ตายไปแล้ว) เช่น |
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ระบุเวลาในอดีต และมีผลกระทบต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เช่น |
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไป โดยไม่มีผลถึงปัจจุบัน เช่น |
ใช้กับคำที่ไม่ได้ระบุเวลาชัดเจน เช่น today, this week, this year เป็นต้น) โดยที่ช่วงเวลาก็ยังดำเนินต่อไป เช่น |
ใช้กับคำบอกเวลาที่ระบุว่าจบไปแล้ว เช่น yesterday, last week, last month, last year, in 2015 เป็นต้น เช่น |
ข้อควรจำ : |