ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้
ชนิดของคำ
คำบุพบท ทำหน้าที่เชื่อมคำหรือกลุ่มคำ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำหรือกลุ่มคำแบ่งออกเป็นหลายชนิด ได้แก่คำบุพบทบอกสถานที่ คำบุพบทบอกความเป็นเจ้าของ บุพบทบอกความเกี่ยวข้อง บุพบทบอกเวลา และบุพบทบอกความประสงค์
คำสันธาน คือ คำที่เชื่อมข้อความ ๒ ข้อความเข้าด้วยกัน มีหลายลักษณะ ได้แก่ คำสันธานเชื่อมประโยคที่มีเนื้อความคล้อยตามกัน คำสันธานเชื่อมประโยคที่มีเนื้อความขัดแย้งกัน คำสันธานเชื่อมประโยคที่มีเนื้อความเป็นเหตุเป็นผลกัน และคำสันธานเชื่อมประโยคที่มีเนื้อความให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
คำคล้องจอง คือ คำที่มีเสียงสระเดียวกัน หรือคำที่มีเสียงสระและตัวสะกดมาตราเดียวกัน เช่น มีสระเดียวกัน มีสระเดียวกันและมีตัวสะกดมาตราเดียวกัน
คำคล้องจอง ๔ พยางค์ เป็นการเขียนคำคล้องจองที่พยางค์ท้ายของคำหน้าคล้องจองกับพยางค์แรกหรือพยางค์ที่สองของคำหลัง
คำคล้องจองที่เป็นกลุ่มคำ ๔ คำ เป็นพื้นฐานในการแต่งกลอนสี่ ซึ่งเป็นกลอนที่มีจำนวนคำวรรคละ ๔ คำ บทหนึ่งมี ๒ บาท แต่ละบาทมี ๒ วรรค
กลอนบทละคร เป็นกลอนที่มีจำนวนคำในแต่ละวรรค ๖—๘ คำ มักมีคำขึ้นต้นบทดังนี้
เมื่อนั้น กล่าวถึงตัวละครที่มีตำแหน่งสูง หรือเป็นผู้ใหญ่
บัดนั้น กล่าวถึงตัวละครที่มีตำแหน่งต่ำกว่าหรือผู้น้อย
มาจะกล่าวบทไป กล่าวถึงเหตุการณ์ตอนใหม่
การอ่านกลอนบทละคร แบ่งจังหวะการอ่านในแต่ละวรรค ดังนี้
ถ้าวรรคหนึ่งมี ๖ คำ แบ่งคำอ่านเป็นจังหวะ ดังนี้
๐๐ / ๐๐ / ๐๐ คิดถึง / ลูกน้อย / หอยปู
ถ้าวรรคหนึ่งมี ๗ คำ แบ่งคำอ่านเป็นจังหวะ ดังนี้
๐๐๐ / ๐๐ / ๐๐ หรือ ๐๐ / ๐๐ / ๐๐๐
จึงบันดาล / ให้เป็น / ไก่ป่า เดินไป / สักครู่ / แล้วจู่มา
ถ้าวรรคหนึ่งมี ๘ คำ แบ่งคำอ่านเป็นจังหวะ ดังนี้
๐๐๐ / ๐๐ / ๐๐๐ พระมารดา / นึกใน / พระทัยอยู่
แหล่งที่มา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th