ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้
นำเรื่อง
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สันนิษฐานว่าทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อชมสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ซึ่งมีฝีพระหัตถ์ในการแต่งเครื่องเสวย ขึ้นต้นด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท และตามด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ไม่จำกัดจำนวนบท โดยโคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ บทแรกจะสัมพันธ์กัน แบ่งออกเป็น ๕ ช่วง คือ บทเห่ชมเครื่องคาว บทเห่ชมผลไม้ บทเห่ชมเครื่องหวาน บทเห่ครวญเข้ากับงานนักขัตฤกษ์ และบทเห่เจ้าเซ็น
ศัพท์น่ารู้
กล เหมือน
ความขำ ความลับ ในที่นี้หมายถึง ความลับระหว่างกวีกับนางอันเป็นที่รัก
เคร่า คอย
แด ใจ
เทโพ ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง ไม่มีเกล็ด
นิทร (นิด) นอน
ไฟฟอน กองไฟที่ดับลงแล้วแต่ยังมีความร้อนระอุอยู่
ภุญช์ อาหาร รับประทาน
มือนาง ฝีมือของนาง
ย่อง ลอยเหนือขึ้นมา เช่น แกงมันย่อง ขัดพื้นเปนมันย่อง
รางชาง สวยงาม
หื่นหอม กลิ่นหอมมากจนเร้าอารมณ์
ประวัติผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (เจ้าฟ้าชายฉิม) ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๔ ในสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อสมเด็จพระราชบิดาได้ปราบดาภิเษก พระองค์ก็ได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ต่อมาได้พระราชทานอุปราชาภิเษกเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล และได้ราชาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์สืบแทนพระบรมชนก
ผลงานของพระพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยสืบเนื่องพระราชกรณียกิจจากพระบรมชนก ฟื้นฟูประเทศในด้านต่าง ๆ ทั้งยังทรงมีพระอัฉริยะภาพทางด้านศิลปะ ได้แก่ ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี นาฏศิลป์ และวรรณคดี พระราชนิพนธ์ที่สำคัญ เช่น เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน (บางตอน) บทละครเรื่อง อิเหนา รามเกียรติ์ สังข์ทอง ฯลฯ
กาพย์ เป็นคำประพันธ์ที่ได้แบบอย่างมาจากคัมภีร์วุตโตทัย มาจากคำว่า “กวิ” ซึ่งหมายถึงผู้แต่งคำประพันธ์ จึงเรียกงานของกวีว่า “กาพย์” ทั้งนี้กาพย์เริ่มมีตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ คือ กาพย์เห่เรือฉบับเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร โดยรูปแบบการแต่งขึ้นด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บทแล้วตามด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ไม่จำกัดจำนวนบท หากจบจึงขึ้นตอนใหม่ด้วยโคลงสี่สุภาพอีกครั้งและใช้กาพย์ยานี ๑๑ บรรยายความเช่นเดิม นิยมให้โคลงสี่สุภาพและกาพย์บทแรกมีเนื้อความตรงกัน ดังตัวอย่างจากกาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ดังนี้
โคลง ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย
ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง
กาพย์ พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน
นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร
เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครืนฟอง
เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง
พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
แนวทางในการพิจารณาวรรณกรรม
เนื้อเรื่อง
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กล่าวถึงลักษณะเด่นของอาหารไทยโบราณชนิดต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนถึงความประณีตในวัฒนธรรมด้านอาหารของคนไทย โดยพระราชนิพนธ์เชื่อมโยงอาหารกับนางผู้เป็นที่รักอย่างกลมกลืนแยบคาย ผู้อ่านจึงได้ความรู้ด้านเรื่องอาหารพร้อมกับความเพลิดเพลินจากบทประพันธ์
ศิลปะการประพันธ์
๑. มีการกล่าวถึงนางผู้เป็นที่รักอยู่โดยตลอดทั้งเรื่อง เช่น
“ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง”
๒. มีการแสดงอารมณ์รัก เช่น
“ความรักยักเปลี่ยนท่า ทำน้ำยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม ชมมิวายคลับคล้ายเห็น”
๓. มีการเล่นคำ เช่น
“ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน”
๔. มีการเล่นเสียงสัมผัสใน ทั้งสัมผัสสระและสัมผัสพยัญชนะ เช่น
“เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุมรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง”
๕. มีการใช้ถ้อยคำเปรียบเทียบลึกซึ้งกินใจ ทำให้ผู้อ่านเกิดมโนภาพ เช่น
“รังนกนึ่งน่าซด โอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวง เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน”
๖. มีการแทรกความรู้เกี่ยวกับสภาพสังคมในยุคนั้น ๆ เช่น การติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศ เช่น
“ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ”
ข้อคิด คติคำสอน และความจรรโลงใจ
๑. ให้ความรู้และแสดงถึงความประณีตในการทำอาหารของคนไทยในทุกขั้นตอนจากการพรรณนา
๒. ให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพสังคมยุคสมัยนั้น เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
๓. ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมการทำอาหารของคนไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดสามารถเลียนแบบได้
การนำไปใช้ในชีวิตจริง
๑. คนไทยตระหนักในคุณค่าทางโภชนาการอาหารไทยที่มีไม่แพ้อาหารนานาชาติ
๒. อาหารไทยเป็นเครื่องสื่อความรัก ความห่วงใย และความผูกพันของคนในครอบครัว
สรุป
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน แสดงให้เห็นถึงความงามในวัฒนธรรมด้านอาหารการกินของคนไทยที่มีความประณีต ทำให้อาหารแต่ละชนิดมีลักษณะเด่นที่ต่างกันออกไป
แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th