ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้แก่
พระรัตนตรัย ประกอบด้วย
– พระพุทธ
– พระธรรม
– พระสงฆ์
สังฆคุณ หรือคุณความดีของพระสงฆ์ หมายถึง คุณความดีของพระสงฆ์ที่เกิดจากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามคำสอน
อริยสัจ หมายถึง ความจริงอันประเสริฐที่ทำให้คนเป็นผู้ประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่
– ทุกข์
– ทุกขสมุทัย
– ทุกขนิโรธ
– ทุกขนิโรธคา
ทุกข์ ธรรมที่ควรรู้ คือไตรลักษณ์ ได้แก่
– อนิจจตาหรืออนิจจัง คือ ความไม่เที่ยงตรง
– ทุกขตาหรือทุกขัง คือ ความเป็นทุกข์
– อนัตตตาหรืออนัตตา คือ ความไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
สมุทัย ธรรมที่ควรละ คือ วัฏฏะ ๓ และปปัญจธรรม ๓ ได้แก่
วัฏฏะ ๓ หมายถึง การเวียนว่ายตายเกิดจาก
– กิเลส คือ สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง
– กรรม คือ การกระทำที่มีเจตนา
– วิบาก คือ ผลของกรรม
ปปัญจธรรม ๓ หมายถึง กิเลสที่เป็นตัวการทำให้ห่างออกไปจากความจริง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ ได้แก่
– ตัณหา คือ ความทะเยอทะยาน
– ทิฏฐิ คือ ความงมงาย การมีทิฏฐิ
– มานะ คือ ความถือตัว
นิโรธ ธรรมที่ควรบรรลุ คือ อัตถะ ๓ ได้แก่
– ทิฏฐธัมมิกัตถะ คือ ประโยชน์ในปัจจุบัน เป็นผลที่มุ่งหมายในโลก
– สัมปรายิกัตถะ คือ ประโยชน์เบื้องหน้า เป็นผลที่มุ่งหมายสูงขึ้น
– ปรมัตถะ คือ ประโยชน์ขั้นสูงสุด ซึ่งมีจุดมุ่งหมายสูงสุด
มรรค ธรรมที่ควรเจริญ คือ ปัญญา ๓ สัปปุริสธรรม ๗ อุบาสกธรรม ๗ มรรคมีองค์ ๘ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ และมงคล ๓๘ ได้แก่
ปัญญา ๓ หมายถึง ความรอบรู้ในเรื่องโลกและชีวิต รู้ตามสภาพความเป็นจริง ได้แก่
– สุตมยปัญญา คือ ความรอบรู้ที่เกิดจากการฟัง การอ่าน
– จินตามยปัญญา คือ ความรู้ที่เกิดจากการคิด
– ภาวนามยปัญญา คือ ความรู้ที่เกิดจากการปฏิบัติ
สัปปุริสธรรม ๗ หมายถึง หลักธรรมสำหรับคนดี หลักปฏิบัติสำหรับการเป็นคนดี หรือคุณธรรมที่ทำให้ผู้ปฏิบัติเป็นคนดี ได้แก่
– ธัมมัญญุตา คือ การรู้จักเหตุ
– อัตถัญญุตา คือ การรู้จักผล
– อัตตัญญุตา คือ การรู้จักตน
– มัตตัญญุตา คือ การรู้จักประมาณ
– กาลัญญุตา คือ การรู้จักเวลา
– ปริสัญญุตา คือ การรู้จักชุมชนหรือสังคม
– ปุคคลัญญุตา คือ การรู้จักคน
อุบาสกธรรม ๗ หมายถึง หลักปฏิบัติที่เป็นไปเพื่อความเจริญของอุบาสกและบุคคลทั่วไป ได้แก่
– ไปวัดตามโอกาสที่เหมาะสม
– ฟังธรรมอย่างสม่ำเสมอ
– ศึกษาหลักธรรมและรักษาศีล
– เลื่อมใสศรัทธา
– ตั้งใจให้เป็นกุศลขณะฟัง
– ทำบุญกุศลตามหลักและวิธีการพระพุทธศาสนา
– เอาใจใส่ทำนุบำรุงและช่วยกิจการพระพุทธศาสนาในทุก ๆ ทาง
มรรคมีองค์ ๘ หมายถึง ข้อปฏิบัติที่มีองค์ประกอบ ๘ ประการ ได้แก่
– สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นชอบตามทำนองคลองธรรม
– สัมมาสังกัปปะ คือ ความคิดชอบ
– สัมมาวาจา คือ การพูดชอบ
– สัมมากัมมันตะ คือ การทำงานชอบ
– สัมมาอาชีวะ คือ การเลี้ยงชีพชอบ
– สัมมาวายามะ คือ ความเพียรพยายามชอบ
– สัมมาสติ คือ ความระลึกชอบ
– สัมมาสมาธิ คือ ความตั้งใจมั่นชอบ
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ หมายถึง สิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ ได้แก่
– ทานมัย คือ การให้
– สีลมัย คือ การรักษาศีล
– ภาวนามัย คือ การเจริญภาวนา
– อปจายนมัย คือ การเป็นคนอ่อนน้อมถ่อม
– ปัตติทานมัย คือ การแบ่งปันส่วนของความดีให้แก่ผู้อื่น
– ปัตตานุโมทนามัย คือ ยินดีในความดีของผู้อื่น
– ธัมมัสสวนมัย คือ การฟังธรรม
– ธัมมเทสนามัย คือ การสั่งสอนธรรม
– ทิฏฐุชุกัมม์ คือ ทำความเห็นให้ตรงความเป็นจริง
มงคล ๓๘ คือ สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีแต่โชคดี เช่น
– การมีศิลปะ
– การฟังธรรมตามกาล
– การพบเห็นสมณะ
– การสนทนาธรรมตามกาล
พุทธศาสนสุภาษิต เป็นคำที่กล่าวไว้อย่างสั้น ๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง กินใจ ให้ข้อคิดหรือคติสอนใจที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ เราเรียกว่า พุทธศาสนสุภาษิต เช่น
– อตฺตา หเวชิตํเสยฺโย : ชนะตนนั้นแลดีกว่า
– ธมฺมจารี สุขํ เสติ : ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข
– ปมาโท มจฺจุโน ปทํ : ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย
– สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ : ผู้ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา
พระไตรปิฎก
ความหมายและความสำคัญของพระไตรปิฎก
พระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์ที่บันทึกจารึกพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาไว้ทั้งหมด ประโยชน์การศึกษาพระไตรปิฎก ได้แก่
– ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ
– ให้มีความเห็นถูกต้องและปฏิบัติได้ถูกต้อง
– ทำให้ได้รับผลจากการปฏิบัติที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่
เรื่องน่ารู้จากพระไตรปิฎก
– พระวินัยปิฎกส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระวินัยของพระภิกษุและภิกษุณี
– พระอภิธรรมปิฎกเป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาวธรรมล้วน ๆ
– พระสุตตันตปิฎก เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระธรรมเทศนา เช่น พุทธปณิธาน ๔
การปฏิบัติตนตามหลักธรรมในการพัฒนาตนเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานและการมีครอบครัว
การปฏิบัติตนตามหลักธรรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน การทำงานมี ๒ ประเภท คือ การทำงานที่ทุจริตและการทำงานที่สุจริต หลักธรรมคำสอนที่สนับสนุนส่งเสริมการศึกษาเล่าเรียนเพื่อเตรียมตนเองให้พร้อมสำหรับการทำงาน เช่น
– อิทธิบาท ๔ หมายถึง หนทางแห่งความสำเร็จ
– จักร ๔ หมายถึง หลักปฏิบัติที่นำชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
– พละ ๕ หมายถึง ธรรมอันเป็นพลังที่ทำให้ผู้นำไปปฏิบัติเกิดความมั่นคง
การปฏิบัติตนตามหลักธรรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการมีครอบครัวหลักธรรมคำสอนดังต่อไปนี้
– กุลจิรัฏฐิติธรรม ๔ หมายถึง หลักปฏิบัติสำหรับการดำรงวงศ์ตระกูลให้ตั้งมั่นยืนยาว
– ฆราวาสธรรม ๔ หมายถึง หลักปฏิบัติสำหรับการครองเรือนให้มีความสุข
– โภคอาทิยะ ๕ หมายถึง ประโยชน์ที่ควรถือเอาจากโภคทรัพย์
แหล่งที่มา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th