1.1. Panoramic (ภาพรังสีปริทัศน์)
เป็นเอกซเรย์แบบต่อเนื่องจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลโดยทั่วไปพัฒนาการของฟัน รวมถึงวิเคราะห์ลักษณะความปกติหรือผิดปกติ การมีอยู่และสภาพบริเวณฟัน รากฟัน กระดูกขากรรไกร รวมถึงเพื่อวิเคราะห์การเอียงตัวของตัวฟันและรากฟัน ข้อดีคือสามารถแสดงภาพส่วนต่าง ๆ ในขากรรไกรบนและล่างในฟิล์มแผ่นเดียว ใช้ถ่ายแทนการเอกซเรย์ในช่องปากกรณีที่ไม่สามารถวางฟิล์มในช่องปากได้ เช่น ผู้ป่วยอาจจะอาเจียนง่าย สำรวจสภาพขากรรไกรคร่าว ๆ เช่น ฟันเกิน ซึ่งผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บ สะดวกและรวดเร็ว การเอกซเรย์ชนิดนี้พบได้บ่อยในทันตกรรมด้านการจัดฟัน
1.2 Lateral Cephalometric
เป็นอีกหนึ่งชนิดที่ใช้กันมากในการจัดฟัน ใช้เพื่อดูพัฒนาการของฟันและกะโหลกศีรษะ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเนื้อเยื่ออ่อนและกะโหลกศีรษะ รวมถึงดูความเปลี่ยนแปลงของฟันและกะโหลกศีรษะเนื่องมาจากการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน อีกทั้งยังเพื่อวิเคราะห์ตำแหน่ง ลักษณะการเอียงตัวของกระดูกขากรรไกร ฟัน เนื้อเยื่ออ่อนใบหน้าและความสัมพันธ์ของโครงสร้างดังกล่าว
เป็นการตรวจหาการติดเชื้อหรือการอักเสบรอบ ๆ ปลายรากฟันเพื่อประเมินสภาพของเนื้อเยื่อปริทันต์ เมื่อฟันและกระดูกที่ล้อมรอบรากฟันได้รับความกระทบกระเทือน, เพื่อตรวจหาฟันคุด, ฟันเกินและหาตำแหน่งที่แน่นอนของฟันดังกล่าว
2.1 Bitewing (ภาพรังสีด้านประชิด)
เป็นการตรวจหารอยผุแรกเริ่มทางด้านประชิดของฟัน รวมทั้งรอยผุที่เพิ่งลุกลามเข้าสู่เนื้อฟันด้านบดเคี้ยวที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า รวมถึงเพื่อประเมินขนาดของรอยผุเดิมว่าใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง นอกจากนี้การเอกซเรย์ชนิดนี้ยังช่วยหารอยรั่วของวัสดุอุดฟันหรือครอบฟันได้ด้วย
2.2 Periapical (ภาพรังสีรอบปลายราก)
เป็นการแสดงภาพฟันทั้งซี่ตั้งแต่ตัวฟันจนถึงกระดูกที่พยุงฟัน เพื่อประเมินการสร้างรากฟันว่าสมบูรณ์หรือไม่, ประเมินรอยแตกในตัวฟัน รากฟัน ในคนที่เกิดการบาดเจ็บที่ฟัน และติดตามผลระยะยาวของฟันที่ได้รับบาดเจ็บว่ามีความผิดปกติหรือไม่ นอกจากนี้ยังช่วยประเมินรอยฟันผุลุกลามได้ด้วย
2.3 Occlusal (ภาพรังสีสบกัด)
เป็นการแสดงภาพช่องปากอย่างชัดเจนเพื่อดูการสบกันของขากรรไกรบนและขากรรไกรล่าง การเอกซเรย์แบบนี้จะใช้ตรวจพัฒนาการฟันของเด็ก เพื่อดูฟันน้ำนมและฟันแท้
- การวินิจฉัยที่แม่นยำ
การใช้เทคนิคการถ่ายภาพด้วยรังสีช่วยให้เห็นรายละเอียดที่ละเอียดของโครงสร้างฟันและเหงือก ทำให้การวินิจฉัยโรคสามารถทำได้แม่นยำขึ้น และช่วยให้สามารถระบุปัญหาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
- การวางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจากการถ่ายภาพรังสีช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องทำการผ่าตัดหรือวางแผนการทำฟันปลอม
- การตรวจสอบโรคในระยะเริ่มต้น
การใช้รังสีวิทยาช่วยในการตรวจสอบโรคในระยะเริ่มต้น เช่น โรคฟันผุ, การติดเชื้อในรากฟัน, หรือมะเร็งช่องปาก ซึ่งทำให้สามารถทำการรักษาได้ทันท่วงทีและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- ความสะดวกและรวดเร็ว
การถ่ายภาพรังสีสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก ทำให้ทันตแพทย์สามารถได้รับข้อมูลที่ต้องการในเวลาอันสั้น ซึ่งช่วยลดความไม่สะดวกสำหรับผู้ป่วย
- การช่วยในการวางแผนการทำฟันปลอมและการจัดฟัน
ข้อมูลจากการถ่ายภาพรังสีช่วยในการวางแผนการทำฟันปลอมและการจัดฟันได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วย