ประวัติพิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ
กองทัพอากาศ ได้เริ่มจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ โดยมุ่งหมายรวบรวมยุทธภัณฑ์และสันติภัณฑ์ ทุกประเภทตามยุคตามสมัยเป็นลำดับ จัดแสดงเพื่อเป็นประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลัง
เดิมจัดแสดงอยู่ที่ โรงเก็บเครื่องบินด้านทิศตะวันตกของสนามบินดอนเมือง แต่ยังไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม เมื่อรวบรวมพัสดุพิพิธภัณฑ์ได้มากขึ้นจึงทำพิธีเปิดเป็นทางการเมื่อ ๒๗ มีนาคม ๒๕๐๒ ต่อมากองทัพอากาศ ได้จัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ขึ้นใหม่ เมื่อ ๒๖ มีนาคม ๒๕๑๑ แล้วเสร็จเมื่อ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๑ และได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม เมื่อ ๒๔ มกราคม ๒๕๑๒เป็นต้นมา
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวม อากาศยานที่ปลดประจำการแล้วไว้หลายแบบซึ่งหาดูได้ยาก บางแบบเคยเข้าร่วมปกป้องอธิปไตยจนนักบิน ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญมาแล้วหลายท่าน และกองทัพอากาศได้พยายามปรับปรุงและ พัฒนาพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้มีความสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาด้านประวัติของกองทัพอากาศต่อไป
พิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ
เลขที่ ๑๗๑ ถนนพหลโยธิน เขตดอนเมือง กรุงเทพ ฯ ๑๐๒๑๐
โทร. ๐- ๒๕๓๔- ๑๘๕๓, ๐- ๒๕๓๔- ๒๑๑๓ โทรสาร ๐- ๒๕๓๔- ๑๗๖๔
กำหนดเวลาเข้าชม
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น.เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
รถประจำทางที่ผ่าน รถธรรมดา ๓๔, ๓๙, ๑๑๔, ๓๕๖
รถปรับอากาศ ๓, ๒๑, ๒๒, ๒๔, ๒๕, ๓๔, ๓๙, ๑๑๔, ๓๕๖
อาคารหมายเลข ๑๐๐๙ (ห้องโถงกลาง) จัดแสดงประวัติกองทัพอากาศและกิจการบิน
พลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน องค์ผู้ทรงบังคับบัญชา แผนกการบินตั้งแต่สมัยเริ่มแรก |
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต องค์ผู้ทรงเร่งทำนุบำรุง กรมอากาศยาน |
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช องค์ผู้ทรงริเริ่มสร้างกำลังทางอากาศ |
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ องค์ผู้ทรงทะนุบำรุงกำลังทางอากาศตั้งแต่เริ่มต้น |
ลานจอดเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์และแบบอื่นๆ จัดแสดงกลางแจ้ง
อาคารหมายเลข ๑๐๑๑ จัดแสดงพัสดุพิพิธภัณฑ์ (อาวุธยุทโธปกรณ์-อุปกรณ์ต่างๆ)
อาคาร ๑๐๑๐ จัดแสดงอากาศยานหลังสงครามโลก จนถึงยุคไอพ่น
ลานจอดเครื่องบินลำเลียง จัดแสดงกลางแจ้ง
บ.ล.๒ (C-47 ดาโกต้า) หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๐ ทอ.ได้รับเครื่องบิน C-47 ตามโครงการ ช่วยเหลือทางทหารจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเครื่องบิน ลำเลียงเอนกประสงค์ที่มีจำนวนสร้างมากที่สุดในโลก และเป็น เครื่องบินที่มีอายุการใช้ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน ด้วย ทอ.ได้กำหนดแบบเป็น บ.ล.๒ และใช้งานต่อเนื่องมา จนถึงปัจจุบันนับเป็นเครื่องบินที่ใช้งานยาวนานที่สุดของ ทอ. ไทย ได้เคยทำเกียรติประวัติให้กับ ทอ.มาแล้วอย่างมากมาย โดยเข้าร่วมกับสหประชาชาติในสงครามเกาหลีและสงคราม เวียดนาม บ.ล.๒ ยังใช้ปฏิบัติภารกิจตามโครงการ พระราชดำริสนับสนุนทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ทำฝนเทียม) เคยประจำการในกองบินน้อยทื่ ๒ รร.การบิน และกองบิน ๖ ประจำการใน ทอ. พ.ศ.๒๔๙๐ - ๒๕๓๔ บ.ล.๒ ที่ตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์ของ ทอ.เป็นเครื่องบิน ลำเลียงเครื่องแรกที่ ทอ.จัดถวายเป็นเครื่องบินพระที่นั่ง เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในทุกภาคของประเทศ และปลดประจำการเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔ |
|
บ.ล.๑ (BEECHCRAFT C-45) ในปี พ.ศ.๒๔๙๐ ทอ.ได้ซื้อเครื่องบินบีชคราฟท์ ซี-๔๕ จากประเทศสหรัฐอเมริกา มาใช้งานในกองทัพอากาศ โดยกำหนดสัญลักษณ์ เป็น บ.ล.๑ นับเป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดเบาที่ ๑ ของ ทอ.ไทย เป็นเครื่องบินขนส่ง ขนาดเบาที่ใช้งานแพร่หลายและยาวนาน ทั้งทางทหารและพลเรือน เคยประจำการใน กองบิน ๖ ประจำการใน ทอ. พ.ศ.๒๔๙๐-๒๕๑๔ บทบาทของ บ.ล.๑ เคยเข้าร่วม แสดงบินถ่ายรูปในงานแสดงการบินครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ |
|
บ.ล.๔ (C-123B) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๗ ทอ.ได้รับ บ.ล.๔ (C-123B) ตามโครงการช่วยเหลือทาง ทหารจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเครื่องบินลำเลียงขนาด กลางที่สามารถปฏิบัติการได้ในสนามบินชั่วคราว และสามารถ ดัดแปลงเป็นเครื่องบินลำเลียงทหาร เครื่องบินโดดร่ม เครื่องบินพยาบาล เครื่องบินลำเลียงทหาร เครื่องบิน ลำเลียงพัสดุภัณฑ์ทั่ว ๆ ไป เคยประจำการในกองบิน ๖ ประจำการใน ทอ.ปี พ.ศ.๒๕๐๗-๒๕๓๒ ภารกิจและบทบาท ของ บ.ล.๔ ปฏิบัติภารกิจทหารเมื่อยามที่ประเทศแวดล้อม อยู่ด้วยภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์ ทอ.สหรัฐ ฯ ให้เป็น เครื่องบินลำเลียงในสงครามเวียดนาม |
อาคารหมายเลข ๑๐๐๙ (ด้านซ้าย) จัดแสดงอากาศยานแบบต่างๆ และที่สร้างขึ้นเอง
บ.ท.๒ (บริพัตร) ในปี พ.ศ.๒๔๗๐ น.ท.หลวงเวชยันต์รังสฤษฎ์ (อดีต ผบ.ทอ.) ได้ออกแบบและสร้างเครื่องบินขึ้นในราชการ เป็นเครื่องบิน ประเภททิ้งระเบิด ทอ.กำหนดแบบว่า บ.ทอ.๒ ผลการทดลองประสบ ผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า "บริพัตร" นับว่าเป็นการออกแบบและสร้างเครื่องบินใช้ในราชการได้เป็นครั้งแรกโดยคนไทย เคยประจำการในกองบินน้อยที่ ๒ ประจำการใน ทอ. พ.ศ.๒๔๗๐ - ๒๔๘๓ บทบาทของ บ.ท.๒ (บริพัตร) เคยเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๑ ไปเยือนประเทศอินเดียตามคำเชิญของรัฐบาลอินเดีย กรมอากาศยาน ได้ส่ง บ.ท.๒ ไปในปี พ.ศ.๒๔๗๒ ครั้งที่ ๒ ไปเยือนอินโดจีนฝรั่งเศส กรมอากาศยานส่ง บ.ท.๒ ไปฮานอยเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี และนำพวงมาลา ไปวางที่อนุสาวรีย์ทหารฝรั่งเศสที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ ๑ ในปี พ.ศ.๒๔๗๓ |
|
บ.ต.๒ (CESSNA O-1 BIRD DOG) ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ทอ.ได้รับเครื่องบิน O-1A ตามโครงการช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐอเมริกา เป็นเครื่องบินประเภท สื่อสาร, ตรวจการณ์, ควบคุมอากาศยานหน้า - ชี้เป้า ที่นั่งเรียงกัน และเป็นเครื่องบินฝึก นักบินด้วย ทอ.กำหนดแบบเป็น บ.ต.๒ เคยประจำการในกองบิน ๒๓ และกองบิน ๕๓ ประจำการใน ทอ.ปี พ.ศ.๒๕๑๐-๒๕๓๓ บทบาทของ บ.ต.๒ เป็นเครื่องบินที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติมาแล้วมากมายผ่านสมรภูมิการรบ มาแล้วโชกโชนโดยทำหน้าที่ในการสื่อสารตรวจการณ์ควบคุมอากาศยานหน้าและชี้เป้าให้เครื่องบิน ขับไล่ในการโจมตีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้เข้าร่วมดำเนินการถวายราชสดุดีแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาโดยทำการบินปล่อยควันสีและ โปรยข้าวตอกดอกไม้บริเวณท้องสนามหลวง ใน ๕ ธ.ค.๒๕๒๙ |
|
สวนหย่อมเครื่องบิน จัดแสดงกลางแจ้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rtaf.mi.th/rtaf-travel/museum.htm