- ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก : สีสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้ทันที เช่น สีเขียวช่วยให้รู้สึกสงบ ส่วนสีเอิร์ธโทนช่วยสร้างความอบอุ่น
- ช่วยประหยัดพลังงาน : สีที่สะท้อนแสงได้ดี เช่น สีขาวหรือครีม สามารถช่วยให้ห้องสว่างขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟฟ้า
- สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ : ซึ่งเป็นหัวใจของ Green Architecture โดยตรง
1. สีเขียวธรรมชาติ (Natural Green)
สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ ความสงบ และการเจริญเติบโต เหมาะอย่างยิ่งกับห้องนั่งเล่นที่ต้องการสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เช่น เขียวมะกอก เขียวใบไม้ หรือเขียวมิ้นต์
2. สีเอิร์ธโทน (Earth Tone)
ได้แก่ น้ำตาล เทา ครีม ทราย สีเหล่านี้ช่วยให้ห้องดูอบอุ่นและสมดุล แถมเข้ากันได้ดีกับวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน หรือปูนเปลือย
3. สีเบจและสีขาวครีม (Beige & Off-white)
เป็นสีพื้นฐานที่สะอาด สว่าง และช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติ เหมาะกับห้องที่มีแสงแดดน้อย และสามารถตกแต่งเพิ่มเติมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือต้นไม้เขียวได้อย่างลงตัว
4. สีฟ้าอ่อนหรือฟ้าหม่น (Soft Blue & Dusty Blue)
ช่วยเสริมความรู้สึกเย็น สบายตา และเป็นธรรมชาติ เข้ากันได้ดีกับงานไม้และผ้าเนื้อธรรมชาติ เช่น ผ้าลินินหรือฝ้าย
5. สีเทาอมเขียว (Sage Gray)
เป็นสีที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความโมเดิร์นและธรรมชาติ เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นที่ต้องการความเรียบหรูและเงียบสงบ
- เลือกเฉดสีจากธรรมชาติรอบตัว : เช่น สีของใบไม้ ดิน ท้องฟ้า เพื่อคุมโทนให้สบายตาและอยู่ในธีม
- ใช้สีโทนอ่อนเป็นพื้นหลัง : แล้วเน้นด้วยสีเข้มในบางจุด เช่น หมอนอิง ผ้าม่าน หรือแจกัน เพื่อเพิ่มมิติ
- หลีกเลี่ยงสีจัดจ้านเกินไป : เช่น สีแดงสดหรือชมพูสะท้อนแสง เพราะอาจขัดกับแนวคิดความสงบและสมดุลของ Green Architecture
1. โทนหลัก เขียวใบไม้
สีเสริมที่เข้ากัน : เบจ, น้ำตาล, ขาว
บรรยากาศที่ได้ : สดชื่น เป็นธรรมชาติ
2. โทนหลัก ครีม
สีเสริมที่เข้ากัน : น้ำตาลอ่อน, เทา, ฟ้าอ่อน
บรรยากาศที่ได้ : อบอุ่น โปร่งสบาย
3. โทนหลัก เทาอมเขียว
สีเสริมที่เข้ากัน : ขาวควันบุหรี่, ไม้ธรรมชาติ
บรรยากาศที่ได้ : เรียบหรู มีความโมเดิร์น