Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทตามกฎหมายแพ่ง

Posted By Kung_nadthanan | 08 ก.พ. 68
81 Views

  Favorite

 

การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทคืออะไร?

การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท เป็นกระบวนการที่ทำให้ธุรกิจมีสถานะทางกฎหมายชัดเจน ได้รับการคุ้มครองตาม กฎหมายแพ่งและพาณิชย์  และสามารถดำเนินกิจการได้อย่างถูกต้อง  ในประเทศไทยมีการจดทะเบียนธุรกิจหลัก ๆ   2 ประเภท คือ ห้างหุ้นส่วน และ บริษัทจำกัด ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ทำให้ธุรกิจได้รับสถานะเป็นนิติบุคคลตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (Civil and Commercial Code) ซึ่งมีผลให้ธุรกิจมีตัวตนทางกฎหมายที่แยกจากเจ้าของ ก่อให้เกิดความรับผิดชอบตามกฎหมาย และสามารถดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้อย่างเป็นทางการ

การจดทะเบียนมีความสำคัญเนื่องจากช่วยสร้าง ความน่าเชื่อถือ ให้แก่ธุรกิจ ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และช่วยลดความเสี่ยงของเจ้าของในด้านหนี้สิน โดยการจดทะเบียนสามารถแบ่งออกเป็น ห้างหุ้นส่วน และ บริษัทจำกัด ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน

1. ห้างหุ้นส่วน (Partnership)

ห้างหุ้นส่วนเป็นการรวมตัวของบุคคลตั้งแต่ สองคนขึ้นไป เพื่อดำเนินกิจการร่วมกันโดยแบ่งปันผลกำไรและขาดทุน ห้างหุ้นส่วนมี 2 ประเภท ได้แก่

1.1 ห้างหุ้นส่วนสามัญ (Ordinary Partnership)

-หุ้นส่วนทุกคนมีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกัน

-มีความรับผิดชอบไม่จำกัด หมายความว่า หนี้สินของห้างหุ้นส่วนเป็นความรับผิดชอบของหุ้นส่วนทั้งหมด

-ไม่ต้องจดทะเบียนก็สามารถดำเนินกิจการได้ แต่หากต้องการสถานะเป็นนิติบุคคล ควรจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

1.2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership)

แบ่งหุ้นส่วนออกเป็น 2 ประเภท

-หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด (General Partner) → รับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดของกิจการ

-หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด (Limited Partner) → รับผิดชอบหนี้สินตามจำนวนเงินลงทุน

ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

 

2. บริษัทจำกัด (Limited Company)

บริษัทจำกัดเป็นรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

2.1 บริษัทจำกัด (Private Limited Company)

-ต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน (ตามกฎหมายเดิมต้องมี 3 คน แต่แก้ไขให้เหลือ 2 คนในปี 2565)

-ผู้ถือหุ้นมีความรับผิดชอบจำกัด ตามจำนวนเงินที่ลงทุน เท่านั้น

-ต้องมีกรรมการบริษัททำหน้าที่บริหารงาน

-ต้องจดทะเบียนบริษัทและแจ้งทุนจดทะเบียน

2.2 บริษัทมหาชนจำกัด (Public Limited Company)

-มีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 15 คน

-สามารถเสนอขายหุ้นให้ประชาชนได้

-ต้องมีคณะกรรมการบริษัทอย่างน้อย 5 คน และต้องมีกรรมการอิสระ

-ต้องจดทะเบียนและอยู่ภายใต้การกำกับของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

 

ความแตกต่างระหว่างห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด

 

ข้อดี-ข้อเสีย ของการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท

 

ขั้นตอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท

1. การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน

ประเภทของห้างหุ้นส่วนที่ต้องจดทะเบียน

-ห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียน

-ห้างหุ้นส่วนจำกัด

ห้างหุ้นส่วนสามัญ (ไม่จดทะเบียน) ไม่ถือเป็นนิติบุคคล และหุ้นส่วนต้องรับผิดไม่จำกัด ดังนั้นจึงควร จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

 

ขั้นตอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน

1. จองชื่อนิติบุคคล

-เข้าเว็บไซต์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) → https://www.dbd.go.th

-ควรเลือกชื่อที่ ไม่ซ้ำ กับนิติบุคคลอื่น

-ชื่อที่จองจะมีอายุ 30 วัน

2. จัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง

เอกสารที่ต้องใช้

-คำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน (แบบ หส.1)

-แบบแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เป็นหุ้นส่วน (แบบ หส.2)

-ข้อบังคับของห้างหุ้นส่วน

-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของหุ้นส่วนทุกคน

-หนังสือมอบอำนาจ (กรณีให้ผู้อื่นดำเนินการแทน)

-แผนที่ตั้งสำนักงานของห้างหุ้นส่วน

3. ยื่นคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน

-ยื่นที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด

-สามารถยื่นผ่านระบบ e-Registration ได้ที่ https://ereg.dbd.go.th

4. ชำระค่าธรรมเนียม

-ห้างหุ้นส่วนสามัญ → 1,000 บาท

-ห้างหุ้นส่วนจำกัด → 1,000 - 5,000 บาท (ขึ้นอยู่กับทุนจดทะเบียน)

5. รอรับหนังสือรับรองห้างหุ้นส่วน

-ใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ

-เมื่อได้รับหนังสือรับรองแล้ว ห้างหุ้นส่วนสามารถเริ่มดำเนินกิจการได้

 

2. การจดทะเบียนบริษัทจำกัด

บริษัทจำกัด เป็น รูปแบบธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากผู้ถือหุ้นมี ความรับผิดชอบจำกัด ตามจำนวนเงินที่ลงทุน และสามารถขยายกิจการได้ง่าย

 

ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท

1. จองชื่อบริษัท

-เข้าเว็บไซต์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)

-ชื่อที่จองต้องไม่ซ้ำกับบริษัทอื่น

-มีอายุ 30 วัน

 

2. จัดทำเอกสารจดทะเบียนบริษัท

เอกสารที่ต้องใช้

-คำขอจดทะเบียนบริษัท (แบบ บอจ.1)

-หนังสือบริคณห์สนธิ (แบบ บอจ.2)

-รายงานการประชุมตั้งบริษัท

-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของกรรมการและผู้ถือหุ้น

-แผนที่ตั้งสำนักงานใหญ่

-หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)

 

3. ยื่นคำขอจดทะเบียนบริษัท

ยื่นที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด

สามารถยื่นผ่านระบบ e-Registration ได้ที่ https://ereg.dbd.go.th

 

2.4 ชำระค่าธรรมเนียม

บริษัทที่มีทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท → ค่าธรรมเนียม 5,000 บาท

บริษัทที่มีทุนมากกว่า 1 ล้านบาท → ค่าธรรมเนียม 5,500 - 25,000 บาท

 

2.5 รอรับหนังสือรับรองบริษัท

ใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ

 

2.6 จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจดทะเบียน VAT ที่ กรมสรรพากร

 

ข้อควรรู้ก่อนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท

*ต้องมีที่อยู่บริษัทที่แน่นอน
*ต้องมีหนังสือสัญญาหรือข้อบังคับที่ถูกต้อง
*ต้องยื่นเสียภาษีตามประเภทของธุรกิจ
*หากมีการเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนหรือกรรมการ ต้องแจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

 

กฎหมายแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนธุรกิจ

การจดทะเบียนธุรกิจในประเทศไทยอยู่ภายใต้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ การก่อตั้งนิติบุคคล ประเภทต่างๆ เช่น ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด กฎหมายนี้ครอบคลุมเรื่อง สัญญาหุ้นส่วน, การจดทะเบียน, สิทธิและหน้าที่ของหุ้นส่วนและกรรมการ, การเลิกกิจการ รวมถึง ความรับผิดทางกฎหมาย ของแต่ละประเภทธุรกิจ

1. มาตราที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน

1.1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน

มาตรา 1012: ห้างหุ้นส่วนเป็นการที่บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปร่วมกัน ลงทุน เพื่อประกอบกิจการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรและแบ่งปันผลกำไรนั้น

มาตรา 1014: ห้างหุ้นส่วนมี 2 ประเภท ได้แก่

ห้างหุ้นส่วนสามัญ – หุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดไม่จำกัด

ห้างหุ้นส่วนจำกัด – มีหุ้นส่วนที่รับผิดจำกัดและหุ้นส่วนที่รับผิดไม่จำกัด

 

1.2 การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน

มาตรา 1064: ห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนต้องยื่นคำขอจดทะเบียนต่อ นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

มาตรา 1066: ห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนเป็น นิติบุคคล และต้องมีเอกสารการจดทะเบียนที่ชัดเจน

 

1.3 สิทธิและหน้าที่ของหุ้นส่วน

มาตรา 1020: หุ้นส่วนมีหน้าที่ ดำเนินกิจการร่วมกัน ตามข้อตกลงในสัญญาหุ้นส่วน

มาตรา 1026: หุ้นส่วนมีสิทธิได้รับ ผลกำไร ตามสัดส่วนเงินลงทุน

 

1.4 การเลิกห้างหุ้นส่วน

มาตรา 1077: ห้างหุ้นส่วนอาจถูกเลิกได้โดยเหตุ

  1. หุ้นส่วนตกลงเลิกกิจการ

  2. หมดอายุสัญญาหุ้นส่วน

  3. มีคำสั่งศาลให้เลิก

 

2. มาตราที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนบริษัทจำกัด

2.1 การจัดตั้งบริษัท

มาตรา 1096: บริษัทจำกัดเป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวของ ผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป โดยมีทุนแบ่งออกเป็นหุ้น

มาตรา 1097: การจัดตั้งบริษัทต้องทำเป็น หนังสือบริคณห์สนธิ และจดทะเบียนกับ นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท

 

2.2 การจดทะเบียนบริษัท

มาตรา 1099: บริษัทต้องจดทะเบียน ชื่อบริษัท, ที่ตั้ง, ทุนจดทะเบียน, และ กรรมการบริษัท

มาตรา 1100: ทุนของบริษัทต้องแบ่งออกเป็น หุ้นละไม่ต่ำกว่า 5 บาท และต้องออกให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งหมด

 

2.3 การบริหารและสิทธิของกรรมการ

มาตรา 1144: กรรมการมีอำนาจในการดำเนินกิจการแทนบริษัท

มาตรา 1168: กรรมการมีหน้าที่ บริหารบริษัทโดยสุจริต และต้องรับผิดชอบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท

 

2.4 การเลิกบริษัทและการชำระบัญชี

มาตรา 1236: บริษัทอาจถูกเลิกโดย

  1. ขาดทุนจนไม่สามารถดำเนินกิจการได้

  2. ผู้ถือหุ้นตกลงให้เลิกกิจการ

  3. ถูกคำสั่งศาลให้เลิก

มาตรา 1243: เมื่อเลิกบริษัทต้องมีการ ชำระบัญชี เพื่อจ่ายหนี้สินและคืนทุนให้ผู้ถือหุ้น

 

3. ข้อกำหนดทางกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนธุรกิจ

3.1 กฎหมายเกี่ยวกับเอกสารการจดทะเบียน

มาตรา 1124: บริษัทต้องมี ตราสารจดทะเบียน และเก็บรักษาเอกสารสำคัญ

มาตรา 1137: ต้องมีรายชื่อผู้ถือหุ้นและปรับปรุงข้อมูลทุกปี

 

3.2 กฎหมายเกี่ยวกับการเสียภาษี

พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม – ธุรกิจที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

พระราชบัญญัติภาษีธุรกิจเฉพาะ – บริษัทที่ให้บริการต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามอัตราที่กำหนด

 

3.3 กฎหมายเกี่ยวกับแรงงานและสวัสดิการ

พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 – บริษัทที่มีลูกจ้างต้องปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน

 

การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายมีขั้นตอนที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจควรศึกษา ข้อดี-ข้อเสีย ก่อนตัดสินใจเลือกประเภทของการจดทะเบียน

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจดทะเบียนธุรกิจ ติดต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจเพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตาม กฎหมายแพ่ง อย่างถูกต้อง

 

ข้อมูลอ้างอิง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow