เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่ง คดีอาญา หรือข้อพิพาททางธุรกิจ ค่าใช้จ่ายทนายความ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนกังวล การจ้างทนายความ ที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้คดีของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงด้านกฎหมายและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ ค่าบริการทางกฎหมาย ประเภทของค่าใช้จ่าย และแนวทางเลือกทนายความที่คุ้มค่าที่สุด
การว่าจ้างทนายความเพื่อดำเนินคดีหรือให้คำปรึกษาทางกฎหมายมีค่าใช้จ่ายหลายประเภท ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะของคดี ความซับซ้อน และประเภทของบริการที่ต้องการ บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายทนายความ ในแต่ละส่วน เพื่อช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่จ่ายให้ทนายความเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาทางกฎหมาย ค่าบริการส่วนนี้อาจมีรูปแบบดังนี้
ค่าปรึกษารายชั่วโมง – ทนายความบางคนคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง โดยอัตราทั่วไปอยู่ที่ 1,000 - 10,000 บาทต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและประสบการณ์ของทนาย
ค่าปรึกษาเหมาจ่าย – ในบางกรณี ทนายอาจคิดค่าบริการเป็นแพ็กเกจ เช่น 3,000 - 30,000 บาท สำหรับการให้คำปรึกษาอย่างละเอียด
บริการปรึกษาฟรี – หน่วยงานบางแห่ง เช่น สภาทนายความ หรือศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมายของศาลยุติธรรม อาจมีบริการให้คำปรึกษาฟรีสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย
เป็นค่าจ้างทนายความเพื่อดำเนินคดีในศาล ซึ่งรวมถึงการเขียนคำฟ้อง การยื่นเอกสาร การขึ้นศาล และการว่าความ ค่าใช้จ่ายอาจแบ่งออกเป็น
คดีแพ่ง (เช่น คดีฟ้องร้องหนี้สิน คดีมรดก คดีที่ดิน) ค่าจ้างเริ่มต้นที่ 30,000 - 500,000 บาท หรือมากกว่า
คดีอาญา (เช่น คดีฉ้อโกง คดีทำร้ายร่างกาย คดียาเสพติด) ค่าจ้างอยู่ที่ 50,000 - 1,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน
คดีครอบครัว (เช่น ฟ้องหย่า แบ่งสินสมรส คดีอำนาจปกครองบุตร) ค่าจ้างเริ่มต้นที่ 20,000 - 300,000 บาท
คดีแรงงาน (เช่น การฟ้องร้องนายจ้าง กรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม) ค่าจ้างอาจอยู่ที่ 20,000 - 200,000 บาท
ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับศาลเมื่อยื่นฟ้องคดี หรือดำเนินการทางกฎหมาย อาจรวมถึง
ค่าฟ้องร้อง – คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ฟ้อง เช่น 2% ของมูลค่าคดี (แต่ไม่เกิน 200,000 บาท)
ค่าธรรมเนียมอุทธรณ์หรือฎีกา – มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการยื่นอุทธรณ์คดี
ค่าประกันตัว – กรณีคดีอาญา จำเลยอาจต้องจ่ายค่าประกันตัวเพื่อให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จำนวนเงินขึ้นอยู่กับลักษณะของคดี
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในศาล – เช่น ค่าพยาน ค่าแปลเอกสาร ค่าถ่ายเอกสาร ค่าธรรมเนียมอายัดทรัพย์
ทนายความอาจเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับการร่างเอกสารทางกฎหมาย เช่น
ค่าจัดทำพินัยกรรม – ประมาณ 5,000 - 50,000 บาท
ค่าเขียนสัญญาซื้อขายบ้าน ที่ดิน ธุรกิจ – ประมาณ 10,000 - 100,000 บาท
ค่าเขียนคำฟ้อง คำให้การ – ประมาณ 10,000 - 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเอกสาร
หากต้องการให้ทนายเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น ศาล บริษัท หรือสถานที่นัดพบ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น
ค่าเดินทาง – อาจคิดเป็น ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
ค่าเบี้ยเลี้ยงทนาย – กรณีต้องอยู่ในพื้นที่ไกลจากสำนักงาน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่อวัน
6.1 คิดค่าบริการแบบรายชั่วโมง (Hourly Rate)
-เหมาะกับการให้คำปรึกษาระยะสั้น
-ค่าบริการประมาณ 1,500 - 10,000 บาทต่อชั่วโมง
6.2 คิดค่าบริการแบบเหมาจ่าย (Flat Fee)
-เหมาะกับคดีที่สามารถกำหนดค่าใช้จ่ายแน่นอนได้ เช่น ฟ้องหย่า ตั้งพินัยกรรม
-ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 - 200,000 บาท
6.3 คิดค่าบริการแบบเปอร์เซ็นต์ (Contingency Fee)
-เหมาะกับคดีเรียกร้องค่าเสียหาย ทนายอาจคิด 10 - 30% ของเงินที่ได้รับจากคดี
-ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณชนะคดีและได้รับเงิน 1 ล้านบาท ทนายอาจคิดค่าบริการ 100,000 - 300,000 บาท
6.4 คิดค่าบริการแบบรายเดือน (Retainer Fee)
-เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องใช้ทนายความเป็นที่ปรึกษาประจำ
-ค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ 10,000 - 100,000 บาท
1. คิดค่าบริการรายชั่วโมง (Hourly Rates) เหมาะสำหรับคดีที่ไม่ซับซ้อนหรือใช้เวลาน้อย
อัตราทั่วไปอยู่ที่ 1,500 - 10,000 บาทต่อชั่วโมง
2. คิดเป็นคดีเหมาจ่าย (Flat Fees) เหมาะสำหรับคดีทั่วไป เช่น การฟ้องหย่า, ทำพินัยกรรม, จัดตั้งบริษัท
ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 - 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับคดี
3. คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (Contingency Fees) ส่วนใหญ่มักใช้ในคดีเรียกร้องค่าเสียหาย เช่น คดีอุบัติเหตุ หรือคดีแพ่ง
ทนายอาจคิด 10-30% ของจำนวนเงินที่ได้รับจากคดี
4. คิดค่าบริการแบบรายเดือน (Retainer Fees) เหมาะสำหรับ บริษัทหรือองค์กร ที่ต้องการที่ปรึกษากฎหมายระยะยาว
ค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 10,000 - 100,000 บาท หรือมากกว่า
ตรวจสอบประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ – เลือกทนายที่มีความรู้เฉพาะด้านที่ตรงกับคดีของคุณ
ขอใบเสนอราคาล่วงหน้า – เปรียบเทียบค่าบริการจากหลายแหล่งก่อนตัดสินใจ
ตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงิน – บางทนายอาจให้ผ่อนชำระได้
พิจารณาบริการทนายฟรี – หากมีงบประมาณจำกัด สามารถติดต่อ สภาทนายความ หรือหน่วยงานภาครัฐ ที่ให้คำปรึกษากฎหมายฟรี
หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถใช้แนวทางดังต่อไปนี้
ขอคำปรึกษาฟรีจากหน่วยงานภาครัฐ – เช่น สภาทนายความ (โทร 1167), กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (โทร 1111 กด 77)
เลือกใช้ทนายความที่คิดค่าบริการแบบเหมาจ่าย – เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายบานปลาย
เปรียบเทียบราคาจากทนายหลายราย – ก่อนตัดสินใจว่าจ้าง
ใช้บริการที่ปรึกษากฎหมายออนไลน์ – บางแพลตฟอร์มให้คำปรึกษาฟรีหรือลดค่าใช้จ่ายได้
หากคุณต้องการคำปรึกษาทางกฎหมายแต่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ สามารถติดต่อหน่วยงานต่อไปนี้
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ – โทร 1167 ให้คำปรึกษาฟรี และช่วยเหลือด้านคดีความสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม – โทร 1111 กด 77 มีบริการช่วยเหลือด้านกฎหมายและสิทธิผู้ต้องหา
ศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมายของศาลยุติธรรม – โทร 1355 ให้คำปรึกษากฎหมายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ข้อมูลอ้างอิง
สภาทนายความ
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม